ลือกันอยู่นาน แล้วก็มาจริงแล้ว ในงาน WWDC22 แอปเปิลเปิดตัว MacBook Air 2022 เปลี่ยนโฉมใหม่หมด สไตล์เดียวกับ MacBook Pro 14 นิ้ว หน้าจอใหญ่ขึ้น กล้อง HD 1080p ชาร์จแบบ MagSafe ลำโพง 4 ตัว แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสูงสุด 18 ชั่วโมง มีให้เลือก 4 สี ใช้ชิป M2 ราคา เริ่มต้น 43,900 บาท
ไม่บ่อยนักที่ในงาน WWDC (Worldwide Developer Conference) ของทางแอปเปิล ที่จัดสำหรับนักพัฒนาซอฟท์แวร์ จะมีการประกาศเปิดตัวสินค้าใหม่ แต่ใน WWDC22 ก็มีมาจนได้ และเป็นสิ่งที่แฟนๆ รอกันอยู่ว่าข่าวลือมันจะจริงหรือไม่ สรุปแล้วก็เป็นจริงกับ MacBook Air ที่ปรับหน้าตาใหม่หมดจด ใส่ ชิป M2 ตัวใหม่ที่ประสิทธิภาพดีขึ้นในทุกด้าน และยังรองรับหน่วยความจำแบบรวม (Unified Memory) ได้มากขึ้นเป็น 24GB
MacBook Air 2022 ใหม่หมดในทุกรายละเอียด
หลังจากที่อยู่กับโฉมหน้าตาเดิมๆ มาเกือบ 10 ปี MacBook Air ใหม่ตัวนี้นับแล้วถือว่าเป็นเจเนอเรชั่นที่ 4 ที่เปลี่ยนหน้าตาใหม่หมดทุกอย่าง ด้วยดีไซน์ที่บางเฉียบเพียงแค่ 11.3 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1.24 กิโลกรัม ตัวเครื่องเป็นอะลูมิเนียมแบบ Unibody ที่สวยงามและแข็งแกร่ง ภายในดีไซน์แบบ Fanless ไม่มีพัดลม ทำให้การทำงานเงียบสนิท มีสีให้เลือกเพิ่มเติมรวมทั้งหมด 4 สี คือ สีเงิน, เทาสเปซเกรย์, มิดไนท์ และ สตาร์ไลท์
พอร์ตเชื่อมต่อ ให้เป็น Thunderbolt แบบ USB-C มา 2 ช่องอยู่ทางด้านซ้ายของเครื่อง เพิ่มพอร์ตชาร์จแบบ MagSafe มาให้ทำให้เวลาชาร์จเครื่องไม่ต้องชาร์จผ่าน USB-C แบบรุ่นก่อน ส่วนช่องหูฟัง 3.5 นิ้ว จะอยู่ทางขวาของเครื่อง โดยอัปเกรดให้รองรับใช้งานกับหูฟังที่มีค่าความต้านทานสูง
แป้นพิมพ์เป็น Magic Keyboard แบบใหม่ พร้อมเซ็นเซอร์ Touch ID สำหรับการสแกนลายนิ้วมือ และมีแทร็คแพด Force Touch ขนาดใหญ่ใช้ถนัดมือเหมือนเดิม
หน้าจอมีการปรับปรุงใหม่ เป็นแบบ Liquid Retina คมชัดขนาด 13.6 นิ้ว ใหญ่ขึ้นเต็มพื้นที่ แต่มีเว้นติ่งตรงกลางด้านบนเหมือนกับ MacBook Pro 14 นิ้ว เพื่อเว้นสำหรับกล้อง ตัวจอค่าความสว่างเพิ่มขึ้นเป็น 500nits แสดงสีสัน 1 พันล้านสี
ตัวกล้อง FaceTime HD อัปเกรดเป็นความละเอียด 1080p คมชัดมากขึ้น พร้อมรองรับใช้งาน Center Stage งานนี้การใช้งานวิดีโอคอลก็จะดูดีกว่ารุ่นเก่า พร้อมทั้งยังมีลำโพง 4 ตัว รองรับ Dolby Atmos และไมโครโฟนแบบบีมฟอร์มิ่ง 3 ตัว
ประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นใน MacBook Air 2022
- ทำงานเวิร์กโหลดหนักๆ อย่างการตัดต่อไทม์ไลน์ที่ซับซ้อนใน Final Cut Pro มีประสิทธิภาพเร็วขึ้นสูงสุดเกือบ 40% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า และเร็วขึ้นสูงสุด 15 เท่า สำหรับรุ่นที่ยังไม่ได้เป็นชิป Apple Silicon
- การใส่ฟิลเตอร์และเอฟเฟ็กต์ในแอปอย่าง Adobe Photoshop เร็วขึ้นกว่าเมื่อก่อนสูงสุด 20% และเร็วขึ้นสูงสุด 5 เท่า สำหรับลูกค้าที่ยังไม่ได้อัปเกรดเป็น Apple Silicon
- ถึงแม้จะมีจอภาพใหญ่ขึ้นและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น แต่ MacBook Air ยังคงมีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานตลอดทั้งวันเช่นเดิมโดยสามารถเล่นวิดีโอได้นานสูงสุด 18 ชั่วโมง
MacBook Air มีตัวเลือกในการชาร์จให้หลายแบบ ซึ่งรวมถึงอะแดปเตอร์แปลงไฟขนาดกะทะรัด 35 วัตต์แบบใหม่หมดที่มาพร้อมพอร์ต USB-C จำนวน 2 พอร์ต เพื่อให้ผู้ใช้ชาร์จ 2 อุปกรณ์พร้อมกันได้ และยังเป็นครั้งแรกที่ MacBook Air รองรับการชาร์จเร็ว ซึ่งสามารถชาร์จได้สูงสุด 50% ในเวลาเพียง 30 นาทีด้วยอะแดปเตอร์แปลงไฟ USB-C ขนาด 67 วัตต์ที่มีจำหน่าย
MacBook Pro 13 นิ้ว ก็ได้อัปเกรดเป็นชิป M2
นอกจากจะมีการเปิดตัว MacBook Air โฉมใหม่แล้ว แอปเปิลยังต่อชีวิตให้กับ MacBook Pro 13 นิ้ว ให้เป็นชิป M2 โดยหน้าตายังเป็นแบบเดิม สำหรับคนที่ต้องการใช้งานที่มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น มีพัดลมภายในช่วยระบายความร้อน และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้สูงสุดถึง 20 ชั่วโมง
ราคา และการจำหน่าย
MacBook Air แบบใหม่หมดและ MacBook Pro 13 นิ้ว รุ่นอัปเดตจะวางจำหน่ายทาง apple.com/th/store และในแอป Apple Store โดยจะเริ่มจัดส่งถึงลูกค้า และวางจำหน่ายใน Apple Store รวมถึงตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของ Apple เร็วๆ นี้
- MacBook Air 2022 พร้อมชิป M2 ราคา เริ่มต้นที่ 43,900 บาท และ 40,400 บาท สำหรับราคาส่งเสริมการศึกษา ดูข้อมูลทางเทคนิคเพิ่มเติมที่ apple.com/th/macbook-air-m2
- MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว พร้อมชิป M2 ราคาเริ่มต้นที่ 46,900 บาท และ 43,900 บาท สำหรับราคาส่งเสริมการศึกษา ดูข้อมูลทางเทคนิคเพิ่มเติมที่ apple.com/th/macbook-pro-13
สำหรับอุปกรณ์เสริมใหม่ อะแดปเตอร์แปลงไฟ USB-C ขนาด 30 วัตต์ ราคา 1,190 บาท, อะแดปเตอร์แปลงไฟ USB-C ขนาดกะทัดรัดแบบพอร์ตคู่ขนาด 35 วัตต์ ราคา 1,890 บาท, อะแดปเตอร์แปลงไฟ USB-C แบบพอร์ตคู่ขนาด 35 วัตต์ ราคา 1,890 บาท ซึ่งสามารถใช้งานร่วมกับ World Travel Adapter Kit ราคา 1,190 บาท และอะแดปเตอร์แปลงไฟ USB-C ขนาด 67 วัตต์ ราคา 1,890 บาท สามารถดูได้ที่ apple.com/th/mac อะแดปเตอร์แปลงไฟ USB-C ขนาดกะทัดรัดแบบพอร์ตคู่ขนาด 35 วัตต์วางจำหน่ายสำหรับลูกค้าในประเทศแคนาดา, จีน, ญี่ปุ่น, เม็กซิโก, ฟิลิปปินส์, ไต้หวัน, ไทย และสหรัฐอเมริกา
