รีวิว Redmi Note 13 Pro 5G “โดดเด่นในทุกช็อต” ด้วยกล้อง 200MP ถ่ายภาพสวยพร้อมลูกเล่นระดับรุ่นเรือธง

รีวิว Redmi Note 13 Pro 5G สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ให้จอใหญ่สวยคมชัด สเปคจัดเต็มให้ประสบการณ์ใช้งานลื่นไหล และ “โดดเด่นในทุกช็อต” ด้วยกล้อง 200MP ถ่ายภาพสวยพร้อมลูกเล่นระดับรุ่นเรือธง พร้อมความคุ้มค่า ด้วยราคาเปิดตัว 12,990 บาท

วันนี้ทีมงานล้ำหน้าฯ เรามีสมาร์ทโฟนอีกรุ่นที่น่าสนใจมา รีวิว แนะนำกัน กับ Redmi Note 13 Pro 5G ถือว่าอยู่ในตำแหน่งรุ่นรองท็อปของซีรีย์ ที่มีความน่าสนใจทั้งเรื่องของดีไซน์ ประสิทธิภาพ และกล้องที่ดีในระดับน่าประทับใจมากๆ

ข้อมูล สเปค Redmi Note 13 Pro 5G

  • ขนาด : 161.15 x 74.24 x 7.98 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก : 187 กรัม
  • ตัวเครื่องมี 3 สี Midnight Black, Ocean Teal, Aurora Purple
  • กันน้ำกันฝุ่น IP54
  • หน้าจอ ขนาด 6.67 นิ้ว CrystalRes AMOLED
    • Resolution: 2712 x 1220 (1.5K)
    • Contrast ratio: 5,000,000:1
    • 100% DCI-P3 wide color gamut
    • รีเฟรชเรต 120Hz
    • ค่าความสว่างสูงสุด 1800nits
    • รองรับ Dolby Vision
  • กระจกหน้าจอ Corning Gorilla Glass Victus
  • ชิปเซ็ต Snapdragon 7s Gen 2 Mobile Platform 4nm
    • CPU: Octa-core processor, up to 2.4GHz
    • GPU: Adreno GPU
  • RAM 12GB LPDDR4X
  • พื้นที่เก็บข้อมูล 512GB UFS 2.2
  • ระบบปฎิบัติการ MIUI 14 บนพื้นฐาน Android 13
  • กล้องหน้า : 16MP
  • กล้องหลัง 3 เลนส์
    • กล้องหลัก 200MP เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.4 นิ้ว, 7 ชิ้นเลนส์, รูรับแสง f/1.65, กันสั่น OIS, 16-in-1 binning to 2.24μm pixel
    • กล้องมุมกว้าง Ultra-wide 8MP รูรับแสง f/2.2
    • กล้องมาโคร 2MP รูรับแสง f/2.4
  • แบตเตอรี่ 5,100mAh ชาร์จเร็ว 67W turbo Charging
  • พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C, 3.5mm headphone jack
  • ระบบเสียง ลำโพงคู่ รองรับ Dolby Atmos
  • เครือข่าย
    • 2G: GSM: 850 900 1800 1900MHz
    • 3G: WCDMA:1/2/4/5/6/8/19
    • 4G: LTE FDD: 1/2/3/4/5/7/8/12/13/17/18/19/20/26/28/32/66
    • 4G: LTE TDD:38/40/41 – 5G: n1/3/5/7/8/20/28/38/40/41/66/77/78
  • รองรับ 2 ซิม (nano SIM + nano SIM หรือ nano SIM + eSIM)
  • เชื่อมต่อไร้สาย Wi-Fi 2.4GHz / 5GHz , Bluetooth 5.2 ,NFC, IR Blaster
  • เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ , สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคเครื่อง

Unbox แกะกล่อง

Redmi Note 13 Pro 5G ตัวกล่องแพ็กเกจมาเป็นแบบสีขาวสะอาดตา ด้านหน้ากล่องมีรูปโชว์ตัวเครื่องด้านหน้าและด้านหลัง ภายในกล่องวัสดุทั้งหมดเป็นกระดาษ ทำให้สามารถนำไปย่อยสลายและรีไซเคิลได้ง่าย

ภายในกล่องจะมีอุปกรณ์มาให้ ทั้งเข็มจิ้มถาดซิม, เคสกันรอยตัวเครื่อง พร้อมเอกสารการใช้งานเบื้องต้นและการรับประกันส่วนด้านล่างสุดของกล่อง จะเป็นชุดอุปกรณ์ชาร์จที่มีแถมมาให้มาพร้อม ไม่ต้องไปหาซื้อเพิ่มให้วุ่นวาย โดยให้มาเป็นสาย USB-C to USB-C ความยาว 1 เมตร และอะแดปเตอร์ชาร์จ รองรับการชาร์จเร็ว 67W Turbo Charging

Design สัมผัสรอบเครื่อง

ตัวเครื่องของ Redmi Note 13 Pro 5G จะมีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 3 สี คือ สีดำ Midnight Black, สีม่วง Aurora Purple และ สีที่ทางทีมงานเราได้มาทดสอบใน รีวิว นี้ จะเป็นสีคราม Ocean Teal

รีวิว Redmi Note 13 Pro

ดีไซน์ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ที่สวยงามสไตล์มินิมอลแบบโมเดิร์น และสีสันที่สวยงาม ตัวเครื่องด้านหลังจะเป็นกระจกแบบด้านที่มีผิวสัมผัสที่นุ่มละมุนนิ้ว เกิดรอยนิ้วมือได้ค่อนข้างยาก ส่วนในบริเวณโมดูลกล้องจะตัดด้วยกระจกแบบเงาให้ความรู้สึกโดดเด่นแตกต่างขึ้นมา

รีวิว Redmi Note 13 Pro

ตัวโมดูลกล้องดีไซน์มาได้สวยงาม แบบไร้กรอบสุดคลาสิก ที่ตัวเลนส์กล้องหลักและ Ultra-Wide มีมีขอบเลนส์สีโลหะมันวาวดูสวยพรีเมียม

รีวิว Redmi Note 13 Pro

เฟรมของเครื่องเป็นแบบขอบเรียบที่มีตัดขอบแบบ Daimond cut ดูเรียบๆ แต่ให้ความรู้สึกที่สวยงาม ใช้สีเดียวกับฝาหลังและเป็นผิวด้านเหมือนกัน จึงดูกลมกลืนเข้ากัน รวมถึงยังมีความบางเพียงแค่ 7.98 มิลลิเมตรเท่านั้น

ด้านข้างทางขวาของเครื่อง จะมีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง และปุ่ม Power ส่วนทางซ้ายของเครื่องจะราบเรียบ ไม่มีพอร์ตใดๆ และด้วยวัสดุเฟรมที่ไม่ใช่โลหะ ตัวเสาอากาศสัญญาณจึงซ่อนอยู่โดยไม่เห็นเป็นเส้นตัดที่ขอบเครื่อง

รีวิว Redmi Note 13 Pro

ที่ขอบด้านบนของเครื่อง จะมีพอร์ต IR Blaster สำหรับใช้งานร่วมกับแอปรีโมทคอนโทรลในการสั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ , ช่องไมโครโฟนตัดเสียง, ลำโพงเสียงสนทนา และมีพอร์ต 3.5มม. สำหรับเสียบหูฟังแบบมีสายได้ด้วย

รีวิว Redmi Note 13 Pro

ด้านล่างตัวเครื่อง มีช่องของถาดซิม ที่จะเป็นแบบ Dual Sim ใส่ได้ 2 เบอร์ และไม่สามารถเพิ่ม microSD ได้ และจะมีช่องไมโครโฟนสนทนาน, พอร์ตเชื่อมต่อและชาร์จแบบ USB-C และช่องลำโพงเสียง

หน้าจอ CrystalRes AMOLED ดูได้เต็มตา ขอบจอบางเฉียบ

รีวิว Redmi Note 13 Pro

ผมค่อนข้างประทับใจกับหน้าจอของ Redmi Note 13 Pro 5G ตั้งแต่เริ่มใช้งานครั้งแรก ตัวจะเป็นแบบ AMOLED ความละเอียด 1.5K ที่มีความคมชัดมากกว่าจอ FHD+ ทั่วๆ ไป แสดงผลโดยอัตรารีเฟรชแบบแปรผัน AdaptiveSync 120Hz ให้การเลื่อนหน้าจอราบรื่น และปรับค่าให้เหมาะกับคอนเทนต์ที่เปิดอยู่ เพื่อประหยัดพลังงาน ส่วนค่าความสว่างสูงสุดถึง 1800nits ช่วยให้การใช้งานกลางแจ้งยังสามารถมองเห็นอย่างชัดเจน

ขอบด้านข้างของหน้าจอ มีการปรับดีไซน์ที่เหลือขอบดำด้านข้างบางลงยิ่งกว่าเดิม โดยเฉพาะขอบจอด้านล่างที่สมาร์ทโฟนทั่วไปจะหนากว่าทุกด้าน แต่ใน Redmi Note 13 Pro 5G มีปรับโครงสร้างภายใน ทำให้เหลือเพียง 2.24 มิลเมตร คือดูด้วยสายตาแล้วแทบจะเท่ากับขอบด้านบน และด้วยตัวหน้าจอเป็นแบบแบนเรียบ ทำให้เวลาดูคอนเทนต์บันเทิง หรือดูหนังดูซีรีย์ ให้ขอบเขตบนหน้าจอที่เต็มตามากขึ้นอีกด้วย

รีวิว Redmi Note 13 Pro

ตัวหน้าจอมีระบบการปลดล็อคลายนิ้วมือบนหน้าจอ ที่สามารถสแกนได้อย่างแม่นยำ รวดเร็ว รวมถึงยังใช้ระบบสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคเครื่องได้ด้วยเช่นกัน

เรื่องการถนอมสายตาก็มีมาให้พร้อมเช่นกัน ด้วยคุณสมบัติการลดแสง PWM 1920Hz (1920Hz PWM dimming), การปรับความสว่างได้ถึง 16,000 ระดับ (16,000 levels of brightness adjustment) และการรับรองจาก TÜV Rheinland 3 อย่าง ประกอบด้วย การปราศจากการกระพริบ (Flicker Free), การเป็นมิตรทางชีวภาพตลอดทั้งวันกับผู้ใช้งาน (Circadian Friendly) และแสงสีฟ้าต่ำ (Low Blue Light)

เพิ่มความแข็งแรงทนทานกับหน้าจอ ด้วยกระจกครอบหน้าจอ Corning Gorilla Glass Victus ที่เพิ่มความแข็งแรงทนทานต่อแรงตกกระแทก และเกิดริ้วรอยจากการขูดขึดน้อยลง รวมถึงตัวเครื่องยังกันน้ำกันฝุ่นที่มาตรฐาน IP54 รวมถึงมี ระบบ Wet Touch สัมผัสสั่งงานบนหน้าจเมื่อเปียกน้ำได้ด้วย

รีวิว Redmi Note 13 Pro

ตัวจอสเปคมาพร้อมสำหรับสายเล่นเกม ด้วยอัตราการตอบสนองการสัมผัสทันทีที่ 2160Hz (2160 Hz instantaneous touch sampling rate) และเทคโนโลยีสัมผัสความละเอียดสูงพิเศษ 16 เท่า (16x super-resolution touch technology) ในโหมด Game Turbo ที่ช่วยตอบสนองการสัมผัสจอเพื่อควบคุมเกมได้อย่างแม่นยำ

พูดถึงระบบเสียงกันบ้าง Redmi Note 13 Pro 5G ให้ประสบการณ์เสียงแบบรอบทิศทางด้วยระบบ Dolby Atmos สร้างบรรยากาศสมจริงผ่าน ลำโพงแบบคู่ และหูฟังแบบ 3.5 มม.

ประสิทธิภาพ

สเปคของ Redmi Note 13 Pro 5G ถือว่าน่าสนใจด้วยเช่นกัน เพราะให้ชิปเซ็ตมาเป็น Snapdragon 7s Gen 2 ที่เป็นรุ่นประสิทธิภาพสูงสุด ประกอบด้วยซีพียู Octa-core ผลิตบนเทคโนโลยี 4nm ความเร็วสูงสุด 2.4GHz ที่ทำงานได้ดีขึ้นกว่าเดิมแต่กินพลังงานน้อยลง โดยทำคะแนน Benchmark บน AnTuTu ได้มากว่า 600,000 คะแนน ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีสำหรับสมาร์ทโฟนระดับกลาง

และที่ถูกใจมากๆ คือคือ RAM ที่ให้มา 12GB ที่เลือกปรับขยายแรมแบบเสมือนได้สูงสุดอีก 12GB ทำให้การใช้งานเปิดแอปหลายแอปพร้อมกันได้โดยไม่หน่วง

ตัวหน่วยความจำในรุ่นนี้แม้ว่าจะไม่สามารถเพิ่ม microSD ได้ แต่หายห่วงไปได้เลย เพราะภายในให้ความจุมามากถึง 512GB ให้คุณเก็บทั้งภาพ, วิดีโอ และโหลดแอปได้แบบจุใจ

รีวิว Redmi Note 13 Pro

ระบบปฏิบัติการ ในตอนแกะกล่องจะเป็น MIUI 14 บนพื้นฐาน Android 13 ที่สามารถทำการอัปเดตเป็น Xiaomi HyperOS บนพื้นฐาน Android 14 ที่มีความสวยงามและใช้งานได้สะดวกมากขึ้น ทั้งการจัดเรียงเมนูแอป และการเรียกใช้งานคำสั่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว

รีวิว Redmi Note 13 Pro

ในเรื่องของการใช้พลังงาน แบตเตอรี่ใส่มาให้สูงถึง 5100mAh ที่สามารถใช้งานต่อเนื่องตั้งแต่เช้ายันเย็นได้แบบไร้กังวล รวมถึงยังรองรับการชาร์จเร็วที่ 67W สามารถชาร์จได้ 50% ภายใน 17 นาที และชาร์จเต็ม 100% ภายในเวลาเพียงแค่ 44 นาทีเท่านั้น และยังมีระบบการชาร์จอัจฉริยะขณะใช้งานหนัก ที่ช่วยควบคุมการชาร์จให้ได้กระแสที่สม่ำเสมอ, เครื่องไม่ร้อนขณะที่ชาร์จไปเล่นเกมไป และมี Battery Health 3.0 อัลกอริธึมการชาร์จแบบไดนามิก ที่ช่วยชะลอการเสื่อมอายุของแบเตอรี่ ให้ใช้งานได้นานยิ่งขึ้น

กล้อง 200MP “โดดเด่นในทุกช็อต”

รีวิว Redmi Note 13 Pro

มาคุยกันเรื่องที่เด่นสุดของ Redmi Note 13 Pro 5G ที่ให้กล้องหลักมาความละเอียดสูงถึง 200MP พร้อมเทคโนโลยีการถ่ายภาพขึ้นสูงระดับสมาร์ทโฟนเรือธงมาให้หลายอย่าง โดยตัวกล้องหลังเป็นกล้องแบบ 3 ตัว ประกอบด้วย

  • กล้องหลัก 200MP เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.4 นิ้ว มีเทคโนโลยีรวม 16 พิกเซลเป็นหนึ่งเดียว, เลนส์แบบ 7 ชิ้น พร้อม ALD, รูรับแสง f/1.65, OIS
  • กล้องมุมกว้างพิเศษ Ultra-wide ความละเอียด 8MP รูรับแสง f/2.2
  • กล้องมาโคร 2MP รูรับแสง f/2.4

จะเห็นว่าสเปคของกล้องหลักนั้น โดดเด่นมากๆ ตั้งแต่ความละเอียด 200MP รองรับ Super QPD ช่วยให้การโฟกัสรวดเร็วแม่นยำมากขึ้น รวมกับระบบกันสั่นที่มีทั้ง OIS และ EIS ทำให้การสั่นไหวตอนถือถ่ายกล้องน้อยลง เก็บภาพได้นิ่งและชัดขึ้น

ตัวเลนส์ออกแบบเป็น 7 ชิ้นกระจกเคลือบออปติคัล ALD ช่วยให้เกิดแสงสะท้อนต่ำพิเศษ เกิดแสง flare ในการถ่ายภาพน้อยลง

รีวิว Redmi Note 13 Pro

รูรับแสง f/1.65 ถือว่าค่อนข้างกว้างเลยทีเดียว และเมื่อทำงานร่วมกับเทคนิค 6-in-1 binning ทำให้ได้พิกเซลภาพขนาดใหญ่ 2.24μm ช่วยให้การถ่ายภาพในเวลากลางคืนและแสงน้อยทำได้ดี เก็บรายละเอียดได้คมชัดทั้งในบริเวณแสงเงาและจุดสว่างในภาพ

ข้อได้เปรียบของกล้องหลัก 200MP ยังช่วยให้การถ่ายภาพซูมในตัวเซ็นเซอร์ ในระดับ 4x ก็ยังคงความคมชัดเทียบเท่ากับการซูมแบบออปติคัล ทำให้การถ่ายภาพมีระยะเก็บภาพยืดหยุ่นมากขึ้น

มี AI ช่วยปรับให้ภาพสวยเกินคาด

ความเหนือชั้นของการถ่ายภาพด้วย Redmi Note 13 Pro 5G นอกจากตัวฮาร์ดแวร์ที่ทรงประสิทธิภาพแล้ว ยังมีระบบ AI ที่มาช่วยเพิ่มความสร้างสรรค์ในภาพถ่ายของคุณได้อย่างเกินคาด ที่เมื่อกดชัตเตอร์เก็บภาพแล้ว สามารถนำมาปรับแต่งให้ได้ภาพที่ดียิ่งขึ้นได้

เข้าไปในแอป Photo แล้วกดเลือกรูปภาพ จากนั้นเลือกเมนูดินสอ (Edit) คุณจะเห็นคำสั่ง AI ที่ในนั้นมีของสนุกๆ ให้เลือกใช้งานเพียบ!

กรอบรูป : ให้บรรยากาศภาพถ่ายจากกล้องฟิล์มที่มีให้เลือกถึง 11 แบบ โดยเลือกปรับการแสดงข้อมูล Metadata ในภาพได้ ทั้งวัน, เวลา, สถานที่ ที่ถ่ายภาพ ให้คุณเปลี่ยนภาพที่ถ่ายมา ให้ดูเก๋กว่าเดิม แชร์ในโซเชียลได้เก๋เท่คูลยิ่งกว่าเดิม

Eraser : AI ของ Redmi Note 13 Pro 5G สามารถช่วยลบแต่งภาพได้อย่างง่ายดาย คุณสามารถลากเส้นเพื่อล้อมวัตถุแล้วลบทิ้ง, ลบเส้นสายที่เกะกะในภาพ, หรือเลือกลบผู้คนที่อยู่ด้านหลังของภาพด้วยการกดสแกนแล้วแตะลบได้เลย รวมถึงภาพถ่ายอาหารก็เลือกลบเงาบนโต๊ะหรือจาน เพื่อให้อาหารดูสวยงามน่าทาน

Bokeh : การถ่ายภาพบุคคล นอกจากเราจะสามารถมาปรับค่ารูรับแสงเพื่อเบลอภาพภายหลังได้แล้ว ยังสามารถเลือกรูปแบบของวงไฟโบเก้ได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งวงกลม, วงรี, ดาว, หกเหลี่ยม ฯลฯ ภาพถ่ายพอร์ตเทรตกับไฟกลางคืนเมื่อปรับแล้วจะได้บรรยากาศชวนฝันเหมือนถ่ายด้วยกล้องระดับโปรเลยทีเดียว

ท้องฟ้า : ในวันที่ฟ้าไม่เป็นใจ ฝุ่น PM2.5 ปกคลุมเต็มฟ้า ก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะในโหมดนี้ สามารถตรวจจับฉากหลังที่เป็นท้องฟ้า และมีสไตล์ของท้องฟ้าสารพัดแบบให้เลือกปรับ ทั้งฟ้าสดใส, ฟ้ายามเย็น, แสงเหนือ, คืนที่ดาวเต็มฟ้า โดยการปรับท้องฟ้า ยังมีการปรับในส่วนของภาพทั้งหมดให้เป็นโทนเดียวกันอย่างกลมกลืน

การใช้งาน ระบบจะตรวจจับพื้นที่ของท้องฟ้าแยกกับฉากและตัวบุคคล แล้วใส่ภาพท้องฟ้าสวยๆ เข้าไปแทน

Xiaomi ProCut เป็นอีกลูกเล่นที่น่าสนใจ โดยเวลาที่เราเลือกถ่ายภาพในโหมด 200MP ที่ใช้เต็มความละเอียดของกล้อง เราสามารถมากดเลือกคำสั่งให้ AI วิเคราะห์องค์ประกอบในภาพเพื่อครอปภาพให้อัตโนมัติได้อย่างคมชัดทุกรูป

รีวิว Redmi Note 13 Pro

Xiaomi Imaging Engine

ด้วยอัลกอริทึม AI ด้านการถ่ายภาพที่ช่วยปรับคุณภาพและความเร็วในการถ่าย มีการทำงานด้านแสงไฟด้วยการผสานร่วมกับข้อมูลออปติคัลและสภาพแสง เพื่อให้ได้ภาพที่มีแสงสวยงาม, ช่วยปรับแต่ระบบสี และในการะบวนการถ่ายภาพ ระบบยังช่วยเร่งการทำงานของ CPU, GPU, DSP, ISP ในการถ่ายภาพให้รวดเร็ว ทำให้ประสบการณ์การถ่ายภาพนั้นออกมาสวยงามและลื่นไหลมากขึ้น

ตัวอย่างภาพถ่ายในโหมดต่างๆ ของ Redmi Note 13 Pro 5G

ถ่ายพอร์ตเทรตภาพบุคคล ทำได้ดีทั้งการปรับสกินโทน, บิวตี้ รวมถึงการปรับระยะเบลอฉากหลังได้ตามที่ต้องการ

ถ่ายเซลฟี่ด้วยกล้องหน้า ความละเอียด 16MP สามารถเก็บมุมได้ค่อนข้างกว้าง

โหมดกลางคืน ทำได้ดีทั้งรเรื่องการจับโฟกัส ความคมชัด และสีสันของภาพ

สรุป รีวิว Redmi Note 13 Pro 5G ถูกใจแค่ไหน มีอะไรขัดใจบ้าง?

ถึงแม้ว่า Redmi Note 13 Pro 5G จะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นรองท็อปในตระกูลแต่ก็มีประสิทธิภาพในการใช้งานที่ไม่ด้อยกว่ากันเลย ตั้งแต่ดีไซน์หน้าจอใหญ่ที่จับถือได้ถนัดมือ หน้าจอใหญ่ 6.67 นิ้วสีสันสวยคมชัด ขอบด้านข้างบางเฉียบ โดยที่ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาเพียง 187 กรัมเท่านั้น ใครเป็นประเภทติดมือถือใช้ต่อเนื่องนานๆ ก็ถือได้สบาย

รีวิว Redmi Note 13 Pro 5G

ตัวสเปคชิปเซ็ตอยู่ในระดับที่ดีสำหรับสมาร์ทโฟนระดับกลาง ตอบโจทย์ครบถ้วนในการใช้งานตั้งแต่การเล่นโซเชียล ท่องเว็บออนไลน์ ดูหนังฟังเพลง ดูซีรีย์ ไปจนถึงการเล่นเกมระดับ AAA ที่เลือกปรับในระดับกลางก็สามารถเล่นได้ลื่นไหลอยู่ พร้อมทั้งยังมี Game Turbo ช่วยจัดการระบบเครื่องให้เล่นเกมได้อย่างเสถียร

แต่ที่ดีมากๆ คือการจัด RAM มาให้ถึง 12GB และพื้นที่เก็บข้อมูลใหญ่เบิ้ม 512GB การใช้งานต่างๆ จึงไหลลื่น เปิดหลายแอปค้างไว้ไม่มีหน่วง และการเก็บข้อมูลที่ไม่ต้องห่วงว่าจะเต็ม

รีวิว Redmi Note 13 Pro 5G

กล้องความละเอียด 200MP ของ Redmi Note 13 Pro 5G ถูกนำมาใช้งานในการถ่ายภาพได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกจากจะได้ในเรื่องความคมชัดแล้ว การถ่ายภาพกลางคืนก็ยังเก็บสีสันได้สวยคมชัด และถึงแม้ว่าจะไม่มีเลนส์ซูมมาให้ แต่ก็ยังถ่ายในระยะ 2x และ 4x ได้คมชัดอยู่

โดยรวมแล้วการถ่ายภาพด้วยกล้องหลักนั้นทำได้ดี ส่วนกล้อง Ultra-wide และ Macro นั้นถือว่าอยู่ในระดับมาตรฐานไม่ได้โดดเด่นมากนัก แต่ก็มีจุดที่แอบขัดใจอยู่บ้างกับการถ่ายพอร์ตเทรตนั้น ทำได้แค่ที่ระยะ 1x เท่านั้น ทำให้การเลือกปรับเฟรมหรือระยะต้องซูมมือหรือเดินขยับเอาเอง ถ้ามีให้เลือก 2x หรือ 4x มาก็จะสะดวกมากขึ้น

AI ให้โหมดรูปภาพคือของดีที่อยากให้คนที่ซื้อไปอย่าลืมไปใช้งาน เครื่องมือนี้ช่วยให้คุณเติมเต็มการถ่ายภาพให้สมบูรณ์มากขึ้น ปรับแต่งรีทัชโดยไม่ต้องมีทักษะหรือฝีมือก็ทำได้ง่ายๆ ด้วยการแตะเพียงไม่กี่ครั้ง

โดยรวมแล้ว ใน รีวิว Redmi Note 13 Pro 5G ผมให้เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางที่ทำดีกับการถ่ายภาพด้วยกล้องหลัก ที่สวยเกินคาด หน้าจอสีสันสวยงาม แบตเตอรี่ใช้ได้ตลอดทั้งวันพร้อมระบบชาร์จเร็วทันใจ ถือว่าให้มาคุ้มค่ากับค่าตัวด้วยประสิทธิภาพที่อัดแน่น

Redmi Note 13 Pro 5G พร้อมวางจำหน่ายแล้ววันนี้

Redmi Note 13 Pro 5G มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Midnight Black, Ocean Teal และ Aurora Purple ในรุ่นความจุ 12GB+512GB วางจำหน่ายใน ราคา 12,990 บาท ที่ Xiaomi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางการจัดจำหน่ายทางออนไลน์แพลตฟอร์ม

Redmi Note 13 Pro 5G

TechOffside

การออกแบบ
80%
ประสิทธิภาพ
85%
กล้อง
80%
ความคุ้มค่า
90%

สรุป

สมาร์ทโฟในราคาหมื่นต้นๆ ได้ RAM 12GB ROM 512GB กล้องหลัก 200MP หน้าจอ AMOLED สวยคมชัด แบตเตอรี่ใช้ได้ทั้งวันพร้อมชาร์จเร็ว 67W

83.8%