รีวิว realme 12 Pro+ 5G สมาร์ตโฟน “Portrait Master” ดีไซน์หรู กล้องเลนส์ Periscope ถ่ายสวยเกินคาด!

รีวิว realme 12 Pro+ 5G สมาร์ตโฟนออกแบบฝาหลังเป็นหนังวีแกนงานปราณีตสไตล์นาฬิกาสุดหรู หน้าจอแบบโค้ง 120Hz ประสิทธิภาพแรงด้วยชิประดับเรือธง เชื่อมต่อสัญญาณรวดเร็วและเสถียรยิ่งขึ้น และพิเศษสุดด้วยกล้องเลนส์ Periscope ครั้งแรกในสมาร์ทโฟนรุ่นกลุ่มราคา Mid-tier ให้การถ่ายภาพด้วยกล้องสมาร์ทโฟนได้อย่างสวยงาม ทั้งภาพพอร์ตเทรตฟิลเตอร์โทนสีที่ได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ออสการ์

realme 12 Pro+ 5G เปิดตัววางขายในไทย รุ่น 8+256GB ราคา 13,999 บาท และ รุ่น 12+512GB ราคา 16,999 บาท

รอบนี้ต้องบอกว่า ทางเรียลมีพัฒนาสมาร์ตโฟนในตระกูล Number Series ในระดับโปรออกมาได้อย่างน่าประทับใจ เพราะว่าดูดีตั้งแต่ดีไซน์ที่หรูสะดุดตา สเปคที่ดีทั้งการใช้งานทั่วไปและการใช้งานหนักได้อย่างลื่นไหล และที่สำคัญกับกล้องที่มีประสิทธิภาพ ให้คุณเก็บภาพได้สวยงามทุกระดับ พร้อมโทนสีที่เป็นเอกลักษณ์

รีวิว realme 12 Pro+

ทีมงานล้ำหน้าฯ ได้ทดสอบลองใช้งาน realme 12 Pro+ 5G เพื่อ รีวิว มาสักพัก ยอมรับเลยว่าทำได้ดีเกินคาดไว้มากๆ เรามาดูกันว่ารุ่นนี้มีดีมีเด็ดอะไรบ้าง

สเปค realme 12 Pro+ 5G

  • ขนาด : 161.5 x 74 x 8.75 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก : 196 กรัม
  • หน้าจอ
    • พาเนล AMOLED แสดงผล 1 พันล้านสี
    • ขนาด 6.7 นิ้ว รีเฟรชเรต 120Hz
    • ความละเอียด 1080 x 2412 พิกเซล (FHD+)
    • สัดส่วนหน้าจอ 20:9
    • อัตราส่วนจอต่อขนาดเครื่อง 90.4%
    • ค่าความสว่างสูงสุด 800 nits
    • ขอบเขตสี 100% P3 color gamut
  • ชิปเซ็ต
    • Qualcomm Snapdragon 7s Gen 2 2.4GHz
    • ผลิตบนเทคโนโลยี 4 นาโนเมตร
    • GPU : Adreno 710
  • กล้องหน้า : 32MP รูรับแสง f/2.4 ระยะทางโฟกัส 22mm
  • กล้องหลัง 3 เลนส์
    • กล้อง Periscope : 64MP เซ็นเซอร์ OV64B ขนาด 1/2” รูรับแสง f/2.8, ความยาวโฟกัส 71mm, PDAF, ซูม 3x Optical มีระบบกันสั่น OIS
    • กล้องหลัก : 50MP เซ็นเซอร์ SONY IMX890 ขนาด 1/1.56” รูรับแสง f/1.8 ความยาวโฟกัส 24mm, PDAF, มีระบบกันสั่น OIS
    • กล้อง Ultra-wide 8MP เซ็นเซอร์ขนาด 1/4″ รูรับแสง f/2.2, ความยาวโฟกัส 16mm
  • หน่วยความจำ
    • RAM 8GB / 12GB เพิ่ม Dynamic RAM ได้อีก 8GB / 12GB
    • พื้นที่เก็บข้อมูล : 256GB / 512GB
  • ตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี : Submarine Blue และ Navigator Beige
  • แบตเตอรี่ 500mAh
  • ระบบชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOC
  • รองรับ 2 ซิม, 5G Dual Standby
  • พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C
  • เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
  • ระบบปฏิบัติการ realme UI 5.0 บนพื้นฐาน Android 14

แกะกล่อง

แพ็กเกจมาในสีเหลืองสดใสตามสไตล์ของแบรนด์ realme โดยในกล่องนอกจากตัวสมาร์ทโฟนแล้ว จะมีอุปกรณ์ต่างๆ มาให้ เริ่มด้วยเอกสารการใช้งานเบื้องต้น, เข็มจิ้มถาดซิม, เคสใสแบบ TPU

ด้านล่างสุดของกล่อง จะมีอุปกรณ์สำหรับชาร์จ ตั้งแต่สาย USB-A to USB-C และ อะแดปเตอร์ชาร์จมาตรฐาน 65W SUPERVOOC ที่พร้อมใช้งานได้ทันที ไม่ต้องหาซื้อเพิ่มเติม

รีวิว realme 12 Pro+ กล้อง

realme 12 Pro+ 5G ยกระดับกล้องในสมาร์ตโฟนระดับกลางให้ดียิ่งขึ้น

เรามาเริ่มกันตั้งแต่เรื่องของกล้อง ที่ชูเป็นจุเด่นสำหรับรุ่นนี้ ก็คือกล้องที่จัดมาให้ดีสุดสำหรับกลุ่มสมาร์ตโฟนระดับกลาง ที่บอกเลยว่าสเปคกล้องนั้น จัดเต็มมาให้โดยเฉพาะกล้องซูมที่มีความคมชัด

กล้องเลนส์ Periscope Telephoto ที่ดีที่สุดในกลุ่ม

ตัวชูโรงของสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ คือกล้องที่แตกต่างจากคู่แข่งในตลาด เพราะว่าใส่กล้องซูมแบบ Periscope Telephoto ที่โดยปกติแล้ว เราจะเห็นมีให้มาในสมาร์ตโฟนที่เป็นรุ่นเรือธงที่มีราคาเริ่มต้น 3-4 หมื่นบาท

แต่ว่าเรียลมี ยกเอามาให้ใน realme 12 Pro+ 5G ที่ราคาเปิดตัวมาแค่ 13,999-16,999 บาทเท่านั้น ทำให้การใช้งานถ่ายภาพและวิดีโอที่ระยะการซูมได้ดีขึ้น และมีระบบกันสั่น OIS แบบปริซึมที่ปรับเอียงได้ ที่ช่วยให้เวลาการถ่ายภาพในเวลากลางคืน มีความคมชัดและเสถียรมากขึ้น

โดยตัวกล้อง Periscope จะใช้เซ็นเซอร์ OV64B ความละเอียด 64MP ขนาด 1/2” มาพร้อมเทคโนโลยีฟิวชั่นพิกเซลแบบ 4 in 1 , รูรับแสง f/2.8, ความยาวโฟกัส 71mm ระบบโฟกัสเป็น PDAF

ประสิทธิภาพในการซูมนั้น สามารถซูมแบบออพติคอลได้ 3 เท่า มีระยะความยาวโฟกัสเทียบเท่า 71mm ทำให้ถ่ายภาพหรือวิดีโอที่อยู่ระยะไกล ได้ภาพที่คมชัดโดยไม่สูญเสียคุณภาพ

รวมถึงยังมีและซูมแบบ In-sensor (ISZ) ได้ 6 เท่า ช่วยเพิ่มระยะการซูมให้มากขึ้น และสามารถซูมแบบดิจิตอลได้ระยะสูงสุด 120X SuperZoom ให้ถ่ายภาพซูมระยะไกลเป็นพิเศษได้อีกด้วย

กล้องหลัก 50MP SONY IMX890

ตัวกล้องหลักใช้เซ็นเซอร์ประสิทธิภาพสูง SONY IMX890 ขนาดใหญ่ 1/1.56 นิ้ว ความละเอียด 50MP พร้อมเทคโนโลยีฟิวชั่นพิกเซลแบบ 4 in 1, รูรับแสง f/1.8, ทางยาวโฟกัสเทียบเท่า 24mm, มีระบบป้องกันการสั่นไหวแบบออพติคอล (OIS) และรองรับการซูมแบบ In-sensor (ISZ) ได้ 2 เท่า

ถือว่าเป็นสเปคของกล้องหลักที่อยู่ในระดับที่ดี ทั้งเรื่องความคมชัด, การถ่ายภาพในสภาพแสงน้อย และเวลากลางคืนได้อย่างคมชัด

กล้องมุมกว้าง Ultra-wide

กล้องตัวที่ 3 ในเซ็ตอัพกล้องหลังของ realme 12 Pro+ 5G ความละเอียด 8MP เซ็นเซอร์ขนาด 1/4″ รูรับแสง f/2.2, ความยาวโฟกัส 16mm สำหรับเก็บภาพในระยะมุมกว้าง 0.6x

ระบบ Omnifocal ที่ปรับทางยาวโฟกัสได้ 5 ระดับ

ด้วยกล้องทั้ง 3 ตัวของ realme 12 Pro+ 5G เมื่อรวมกันแล้ว ทำให้เหมือนคุณมีเลนส์กล้องถึง 5 ระยะแบบกล้องโปร รวมอยู่ในสมาร์ตโฟนเครื่องเดียว โดยสามารถเลือกปรับระยะความยาวโฟกัสตั้งแต 16mm ถึง 71mm (0.6X, 1X, 2X, 3X, 6X)

ถ่ายภาพพอร์ตเทรตสไตล์ภาพยนตร์

เรียลมีบรรจงสร้างความพิเศษให้กับการถ่ายภาพบุคคลที่สวยงามมากขึ้น เริ่มด้วยการถ่ายบุคคลที่ระยะ 3X ด้วยอัลกอริธึมสร้างโบเก้แบบภาพยนตร์ ที่ให้ภาพออกมามีระยะชัดตื้นที่เป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับการถ่ายภาพบุคคลให้มีความโดดเด่นจากฉากหลัง โดยการปรับให้เบลอและสร้างเอฟเฟกต์โบเก้แบบภาพยนตร์ โดยเลือกปรับแสงและเบลอในบริเวณต่างๆ โดยรักษาความสวยงามของผิว จึงได้ภาพถ่ายออกมาดูเป็นมืออาชีพ

และในการถ่ายภาพบุคคล ยังสามารถดูเอฟเฟ็กต์โบเก้ได้แบบเรียลไทม์ก่อนจะกดชัตเตอร์ ทำให้เราเลือกปรับระยะความเบลอของฉากหลังได้อย่างละเอียดมากขึ้น

ฟิลเตอร์พอร์ตเทรต ได้แรงบันดาลใจจากภาพยนตร์ออสการ์

Claudio Miranda ช่างภาพที่เคยได้รับรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

เป็นความร่วมมือครั้งสำคัญของทางเรียลมี ที่ได้ Claudio Miranda ช่างภาพที่เคยได้รับรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม มาสร้างฟิลเตอร์ 3 แบบให้กับ realme 12 Pro+ 5G โดยเฉพาะ

  • Journey Filter – แรงบันดาลใจ “Life of Pi” ที่สวยงามตระการตา ที่จะปรับเพิ่มสีให้มีคอนทราสต์สูงและเน้นโทนสีเหลือง สร้างบรรยากาศที่เหมือนอยู่ในความฝันและมีชีวิตชีวา
  • Memory Filter – แรงบันดาลใจจาก The Curious Case of Benjamin Button ให้สีโทนเย็น ให้บรรยกาศของภาพที่มีความเงียบสงบ
  • Maverick Filter – แรงบันดาลใจจาก “Top Gun: Maverick” ปรับภาพโดยจะเน้นโทนสีเหลืองเขียว และเพิ่มคอนทราสต์ ภาพที่ถ่ายจะได้อารมณ์แบบย้อนไปยุคคลาสสิก ถ่ายภาพด้วยฟิล์ม 35มม.

Master Shot Algorithm สำหรับการถ่าย RAW

เพิ่มความทรงพลังให้กับการถ่ายภาพที่ประมวลผลไฟล์แบบ RAW ที่มีคุณภาพสูง ตั้งแต่ Ultra HDR Engine ช่วยขยายไดนามิกของภาพเพื่อเก็บรายละเอียดในการถ่าย RAW ในส่วนที่สว่างและมืดได้ดีขึ้น Ultra Clarity Engine ปรับภาพให้สดใสและมีความชัดเจน และช่วยลด noise ในภาพให้น้อยลง NightEye Engine ปรับภาพกลางคืนให้มีความสมดุลทั้งในส่วนไฮไลท์และเงามืด DIS Engine ช่วยประมวลผลภาพดิจิทัลที่ลดการสั่นไหวในการถ่ายภาพ ให้ได้ภาพที่คมชัด ไม่เบลอ

ถ่ายภาพในโหมด RAW ช่วยให้เก็บรายละเอียดของภาพที่คม ตัวอย่างนี้ลองถ่ายแมวโดยใช้เลนส์ Periscope ซูมเข้าไป จะเห็นว่ารายละเอียดของเส้นขนต่างๆ ยังคงความคมชัดดีมาก

โหมด Street ถ่ายภาพได้สนุก

ของดีสำหรับการถ่ายภาพบนสมาร์ตโฟนของ realme 12 Pro+ 5G ที่มีลูกเล่นในการถ่ายภาพที่ปรับเลือกมุมการถ่ายภาพที่สะดวก รวดเร็ว และสร้างไอเดียในการถ่ายภาพที่แตกต่าง อย่างเช่น ระบบซูมอัตโนมัติ ที่เวลาถ่ายภาพมุมปกติ เพียงแค่แตะที่ตำแหน่งที่น่าสนใจในภาพ กล้องจะซูมครอปไปที่ตำแหน่งนั้น และเลือกองค์ประกอบของภาพที่เหมาะสมให้ทันที รวมถึงฟิลเตอร์หลากหลายรูปแบบให้เลือกถ่ายภาพได้อย่างสร้างสรรค์

หรือจะเป็นการถ่ายในเวลากลางคืน ก็ได้ภาพที่สวยงาม เปลี่ยนได้ตามฟิลเตอร์ที่มีให้ ก็จะได้ภาพสตรีทที่สื่ออารมณ์ได้น่าสนใจกว่าเดิม

กล้องหน้าเซลฟี่

ขาดไม่ได้กับการเซลฟี่ ตัวกล้องหน้านั้น ให้มาที่ความละเอียด 32MP รูรับแสงกว้าง f/2.4 และมีระยะความยาวโฟกัสที่ 22mm ถือว่าเป็นระยะที่ถือถ่ายภาพตัวเองได้ดี ภาพที่ถ่ายมีการปรับให้ไม่มีความโค้งนูนจากเลนส์ที่มีระยะกว้าง รวมถึงการใช้งานทั้งในโหมดถ่ายภาพ, Portrait ส่วนการถ่ายวิดีโอกล้องหน้าจะถ่ายได้สูงสุด 1080p 30fps

รวมถึงการปรับระยะชัดลึกชัดตื้น, สร้างโบเก้ที่ฉากหลัง ในการถ่ายพอร์ตเทรตด้วยกล้องหน้า ก็ทำได้ดีไม่แพ้กล้องหลังเช่นกัน

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องของ realme 12 Pro+ 5G

ทางเรียลมี บอกกับทีมงานล้ำหน้าว่า เนื่องจาก realme 12 Pro+ 5G ได้ร่วมมือช่างภาพรางวัลออสการ์ เลยอยากให้เราทดสอบกล้องถ่ายภาพในธีมของภาพยนตร์ฮอลลีวู้ด ดังนั้นเพื่อให้เข้ากับความหรูหราแต่ก็มีความสนุกสนานในการถ่ายภาพในทุกอารมณ์ เราจึงมาในธีมของ “Harley Quinn” จากเรื่อง Suicide Squad จะแสบขนาดไหน ไปดูกันเลย

ในเซ็ตนี้ การถ่ายนั้นสนุกมาก ด้วยกล้องที่มีระยะเลนส์เก็บได้ตั้งแต่ Ultra-wide ไปจนถึงซูมแบบ Periscope ทำให้เก็บภาพในมุมมองที่แปลกตา และการถ่ายพอร์ตเทรตที่ซูมเข้าหา ทำให้ฉากหลังมีความเบลอที่มีมิติมากขึ้น

รวมถึงการใช้ร่วมกับฟิลเตอร์พิเศษที่มีมาให้ ก็ปรับอารมณ์ของภาพที่เป็นช็อตเดียวกัน แต่ให้ความรู้สึกที่ไม่เหมือนกัน การถ่ายคุณจึงมีโอกาสนำเอาฟีเจอร์ต่างๆ ของกล้องมาประยุกต์ใช้ และเก็บภาพที่สวยงามอย่างที่ต้องการ

ดีไซน์สวย งานปราณีตสไตล์นาฬิกาหรู

realme 12 Pro+ 5G ยกระดับการออกแบบให้มีความสวยหรูแบบสะดุดตา โดยได้ Ollivier Savéo (โอลิวิเยร์ ซาเวโอ) ผู้ผลิตนาฬิกาหรูชื่อดังของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นที่รู้จักจากการร่วมมือกับแบรนด์นาฬิกาสวิสชื่อดังอย่าง Rolex, Roger Dolby, Piaget, Breitling และ Quinting

แรงบันดาลใจในการออกแบบ realme 12 Pro+ 5G ได้หยิบจุดเด่นและกลิ่นอายของนาฬิกาหรู มารวมกับสมาร์ทโฟน โดยมีให้เลือกทั้ง 2 สีด้วยกันคือ

  • Submarine Blue เป็นสีน้ำเงิน ตัดด้วยสีทอง ให้ความรู้สึกที่สง่างามและเงียบสงบ
  • Navigator Beige เป็นโทนสีเบจที่สว่าง นุ่มนวล ตัดด้วยเส้นสายสีทอง สวยงามปราณีต

งานประกอบของ realme 12 Pro+ 5G มีความบางเป็นพิเศษ เพียงแค่ 8.75 มิลลิเมตร และน้ำหนักเบา 196 กรัม ขอบด้านข้างมีความโค้งทั้งฝาหลังและหน้าจอ ทำให้การถือจับได้กระชับและไม่หนักมือ

ที่ฝาหลังคือสวยแบบตะโกน ตั้งแต่ตัวฝาหลังที่หุ้มด้วยหนังวีแกนระดับพรีเมียม ผลิตจากวัสดุซิลิโคนคุณภาพสูง ทนทานต่อสิ่งสกปรกและสัมผัสที่นุ่มนวล รวมถึงลวดลายบนพื้นผิวหนังที่ให้ภาพลักษณ์หรูหรา

ตรงกลางของฝาหลัง มีเส้น 3D Jubilee Bracelet เดินเป็นเส้นผ่ากลาง ผสมผสานเทคนิคการออกแบบ 3D พิเศษ ผสมผสานรูปทรงสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน นูนตรงกลาง และมีความเงางามเป็นสีทองแบบเมทัลลิก

รีวิว realme 12 Pro+

ตัวโมดูลกล้อง ได้รับการออกแบบอย่างดีเยี่ม ตั้งแต่ตัวขอบรอบที่เป็น Golden Fluted Bezel สร้างขึ้นอย่างประณีตด้วยเครื่องตัด CNC ขึ้นเป็นเส้นโลหะอย่างแม่นยำ 300 เส้น ทำให้ได้พื้นผิวที่มีความแม่นยำระดับเดียวกับการผลิตนาฬิกาหรูแบบ 360 องศา และบนหน้าปัด Sunburst ขัดเงา สร้างพื้นผิวยูวีไล่ระดับแสง พร้อมเคลือบออปติคอล ทำให้เกิดแสงเงาที่สวยสะดุดตา มีชีวิตชีวา

รีวิว realme 12 Pro+

ด้านข้างของเครื่อง จะมีปุ่มปรับระดับเพิ่มลดเสียง และปุ่มเปิดปิดหน้าจอ

รีวิว realme 12 Pro+

ด้านล่างของตัวเครื่อง จะมีช่องถาดซิม ที่ใส่ซิมขนาด Nano SIM ได้ 2 ซิม (ใส่เพิ่ม microSD ไม่ได้) และมีช่องไมโครโฟน, พอร์ต USB-C และช่องลำโพง

หน้าจอโค้ง 120Hz ให้ประสบการณ์รับชมที่ดี

รีวิว realme 12 Pro+

realme 12 Pro+ 5G มาพร้อมจอแสดงผลแบบโค้งแบบ AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ที่มีความละเอียด 2412 x 1080 FHD+, 1.07 พันล้านสี, ขอบเขตสี P3 100%, รีเฟรชเรต 120Hz อัตรา Touch Samling Rate 240Hz ค่าความสว่างสูงสุด 800 nits

ตัวหน้าจอให้ประสบการณ์รับชมที่ดี ด้วยระบบปรับแต่งภาพ Pro-XDR ที่จะปรับเอฟเฟ็ต์ภาพให้แสดงบนหน้าจอในช่วงความสว่างและไดนามิกที่ครบถ้วน จึงทำให้ภาพที่ดูบนหน้าจอมีความสวยและชัดเจนมากขึ้น และต้องบอกว่าฟีเจอร์นี้ส่วนใหญ่จะมีให้เฉพาะในสมาร์ตโฟนรุ่นเรือธงเท่านั้น แต่เรียลมีก็จัดมาให้ใน realme 12 Pro+ 5G ด้วย

พร้อมกันนี้ ตัวหน้าจอยังผ่านมาตรฐานการรับรอง TÜV Rheinland Strobe-free Certification ที่ช่วยลดอาการเมื่อยล้าของดวงตาจากการกระพริบของหน้าจอ และ TÜV Rheinland Low Blue Light Certification ลดการปล่อยแสงสีฟ้าโดยที่ยังแสดงผลของสีได้อย่างเที่ยงตรงแม่นยำ

ประสิทธิภาพการใช้งาน

รีวิว realme 12 Pro+

สเปคภายในใช้ชิปเซ็ตเป็น Qualcomm Snapdragon 7s Gen 2 ผลิตบนกระบวนการระดับ 4 นาโนเมตร ประกอบด้วยซีพียู 8 คอร์ 64 บิต ประกอบด้วย ARM Cortex-A78 4 คอร์ที่ทำงานที่ความเร็ว 2.4 GHz และ ARM Cortex-A55 คอร์ 4 คอร์ที่ 1.95 GHz ส่วนด้านกราฟฟิกใช้ GPU Adreno 710 ทำงานที่ความเร็ว 940MHz

realme 12 Pro+ 5G มีให้เลือกด้วยกัน 2 รุ่น คือ 8+256GB และ 12+512GB โดยที่ตัว RAM นั้น จะรองรับเทคโนโลยี Dynamic RAM ที่ดึงเอาพื้นที่ว่างบน ROM มาสร้างเป็น RAM เสมือนเพื่อให้การใช้งานพร้อมกันหลายๆ แอปมีความลื่นไหลมากขึ้น

สำหรับสเปคนี้ การใช้งานต่างๆ ถือว่าไม่มีปัญหา ทั้งการทำงานทั่วไป เล่นโซเชียล หรือจะดูหนัง Netflix ดู YouTube หรือเล่นเกมต่างๆ ก็ยังใช้งานได้สบาย

เทคโนโลยีการเชื่อมต่อ รองรับ 5G Dual Standby และยังมีประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อเครือข่ายแบบ 2 ช่องทาง เพื่อช่วยเพิ่มความเร็วและความเสถียรของการเชื่อมต่อ Wi-Fi และ 5G

แบตเตอรี่และระบบการชาร์จ

ใช้งานได้แบบหายห่วงเพราะให้แบตเตอรี่มาขนาดใหญ่ 5000mAh สามารถใช้งานต่อเนื่องทั้งวันได้สบายๆ หรือถ่าเล่นเกมแบบหนักๆ ก็สามารถเล่นต่อเนื่องได้ 3-5 ชั่วโมง

และยังให้ระบบชาร์จเร็ว 67W SUPERVOOC ที่สามารถชาร์จแบตเตอรี่ 50% ได้ภายใน 19 นาที และชาร์จเต็ม 100% เสร็จได้ภายในเวลาเพียง 48 นาทีเท่านั้น โดยระบบการชาร์จเป็นแบบปั้มชาร์จคู่ 5:1 แปลงกระแสสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ แล้วแยกออกเป็นกระแสเล็กลง ทำให้ประสิทธิภาพการแปลงสูงถึง 98% ช่วยให้ลดความต้านทานของเส้นทางชาร์จ มีการสะสมความร้อนที่ต่ำ และชาร์จได้อย่างเสถียร์มากขึ้น

สรุป รีวิว realme 12 Pro+ 5G หลังลองใช้ ดีแค่ไหน คุ้มที่จะซื้อหรือไม่?

รีวิว realme 12 Pro+

บอกเลยอย่างแรกว่า “เครื่องสวยมากกกกกกก” กับดีไซน์แบบนาฬิกาหรู โดยเฉพาะสีน้ำเงิน Submarine Blue ตัวหนังวีแกนตัดกับเส้นสายและโมดูลกล้องสีทอง ดูแล้วออร่าความสว่างเริ่ดหรูแบบสุดติ่งจริงๆ ตัวหนังวีแกนนั้นใช้เป็นเกรดดี มีความนุ่มนวลในการจับถือ

การออกแบบมีความโค้งมนจากด้านหลังไปยังกระจกด้านหน้าที่เป็นขอบโค้ง ยิ่งให้ความสวยงามและจับกระชับรับอุ้งมือ ขนาดของเครื่องรวมกับน้ำหนักที่เบา ยิ่งช่วยให้การถือใช้งานในระหว่างวันถนัดและคล่องตัว

การได้กล้องซูมแบบ Periscope เพิ่มเข้ามา เป็นเหมือนการปลดล็อคในการถ่ายภาพทั้งแบบพอร์ตเทรตและสตรีท ให้มีระยะที่ไกลมากขึ้น คือเราไม่ได้จะซูมเพื่อไปดึงวัตถุที่ไกลโพ้นมาอยู่ใกล้ๆ แต่เราสามารถใช้ระยะการซูมที่ 3x และ 6x ที่อยู่ในช่วงห่างประมาณ 2-4 เมตร สำหรับการถ่ายภาพบุคคลให้เข้ามาใกล้แล้วระยะ Focal ด้านหลังถูกถึงเข้ามาใกล้กับแบบ รวมกับการทำเอฟเฟกต์โบเก้ ยิ่งทำให้การถ่ายภาพด้วยสมาร์ตโฟน มีความใกล้เคียงกับกล้องระดับโปรมากขึ้น

หลายๆ โอกาส สามารถหยิบ realme 12 Pro+ 5G ขึ้นมาเป็นกล้องถ่ายได้ทันที ในเวลาที่ต้องการอย่างระหว่างวัน การเดินทาง ท่องเที่ยว ที่บางที่ก็ไม่ได้พกกล้องใหญ่มาด้วย หรืออยู่ที่ๆ ไม่สะดวกใช้กล้องถ่ายรูป เราก็ยังสามารถเก็บภาพที่สวยงามคมชัดได้

ประสิทธิภาพของกล้อง นอกจากการซูมแล้ว การถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยหรือเวลากลางคืนก็ทำได้ดี เก็บแสงสีรายละเอียดคมชัด และการใช้งานร่วมกับระยะเลนส์ต่างๆ ก็ทำให้เก็บภาพได้สนุกมากขึ้น

ส่วนตัวแล้วผมเป็นแฟนของโหมด Street ในสมาร์ตโฟน realme ที่มีการออกแบบ UI ให้ใช้งานถ่ายภาพได้อารมณ์เหมือนถ่ายด้วยกล้องคอมแพ็ค ที่เลือกปรับระยะซูมได้รวดเร็ว ปรับโทนสีฟิลเตอร์ได้หลากหลาย ช่วยให้เก็บ snap ภาพในแต่ละวันได้อย่างสร้างสรรค์และถ่ายได้สนุกมากๆ

ประสิทธิภาพถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีสำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นระดับกลาง ที่อาจจะไม่ได้แรงจัดแต่ก็อยู่ในระดับที่ใช้งานระหว่างวัน แอปโซเชียล ดูคอนเทนต์บันเทิง หรือเล่นเกมกราฟฟิกขั้นสูงก็ยังพอได้ และการได้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่พร้อมชาร์จไว จึงหายห่วงสบายใจได้ว่าใช้งานได้ทั้งวันแบบไม่สะดุดหรือขาดตอน

ราคา และการวางจำหน่าย realme 12 Pro+ 5G

realme 12Pro+ 5G มีให้เลือกทั้งสี Submarine Blue และสี Navigator Beige โดยรุ่นความจุ 12/512GB ราคา 16,999 บาท และ รุ่นความจุ 8/256GB ราคา 13,999 บาท โดยสามารถพรีออเดอร์ได้ตามช่องทางดังนี้ 

ช่องทางเครือข่าย AIS, TRUE และ DTAC ตั้งแต่วันที่ 21 – 28 มีนาคม รุ่นความจุ 8/256 ราคาเริ่มต้นเพียง 8,699 บาทและรุ่นความจุ 12/512GB ราคาเริ่มต้น 11,699 บาท พร้อมรับส่วนลดวันรับเครื่องสูงสุด 1,500 บาทและของแถมอีกมากมาย

ช่องทาง COM7, IT City, TG, Jaymart, Stamp และ Maxlink ตั้งแต่วันที่ 21-28 มีนาคม รุ่นความจุ 12/512GB รับส่วนลด 1,000 บาท และรุ่นความจุ 8/256GB รับส่วนลด 500 บาท

ช่องทางอีคอมเมิร์ช ตั้งแต่วันที่ 21-26 มีนาคม พิเศษ! กับ Shopee Exclusive (เฉพาะรุ่นความจุ 12/512GB เท่านั้น) ในราคาเพียง 15,999 บาท และรุ่นความจุ 8/256GB ราคาเพียง 12,999 บาท และช่องทาง Lazada สำหรับรุ่นความจุ 8/256GB ราคาเพียง 12,999 บาท และช่องทาง Tiktok Shop ในรุ่นความจุ 8/256GB ราคาเพียง 12,999 บาท พร้อมรับของแถมอีกมากมายในทุกแพลตฟอร์ม

  • ช่องทางการสั่งซื้อ realme 12Pro+ 5G (12/512GB) Shopee Exclusive
  • ช่องทางการสั่งซื้อ realme 12Pro+ 5G (8/256GB) Shopee
  • ช่องทางการสั่งซื้อ realme 12Pro+ 5G (8/256GB) Lazada
  • ช่องทางการสั่งซื้อ realme 12Pro+ 5G (8/256GB) Tiktok
  • ช่องทาง realme Brand Shop ตั้งแต่วันที่ 21-28 มีนาคม วันรับเครื่องรับส่วนลดเพิ่มสูงสุด 1,000 บาท พร้อมของแถมอีกมากมาย และสามารถเป็นเจ้าของได้พร้อมกันทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคมเป็นต้นไป ผ่านช่องทางดังกล่าวรวมถึงตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

realme 12 Pro+ 5G

TechOffside

ดีไซน์ การออกแบบ
90%
ประสิทธิภาพ
75%
ฟีเจอร์การใช้งาน
75%
กล้อง
85%
ความคุ้มค่า
80%

“สมาร์ทโฟนงบหมื่นนิด ดีไซน์สวย กล้องดีเกินคาด

realme 12 Pro+ 5G เปิดตัวมามีเรื่องให้ชมเยอะมาก ตั้งแต่การออกแบบที่ดูพรีเมียม ไม่ก๊อกแก๊ก ถือจับแล้วให้ความรู้สึกละมุนมือ กล้องหลังเพิ่มแบบ Periscope ทำให้การซูมระยะไกลคมชัดขึ้น ถ่ายพอร์ตเทรตได้มิติและมุมมองที่แตกต่าง

81%