เอไอเอส ผู้นำด้านการให้บริการดิจิทัลของไทย ได้ร่วมกับพันธมิตรผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำจากหลากหลายภูมิภาคในกลุ่ม Bridge Alliance ถึง 9 ราย ได้แก่ China Unicom ประเทศจีน, csl. และ 1O1O จากฮ่องกง, CTM ผู้ให้บริการจากมาเก๊า, Globe Telecom จากฟิลิปปินส์, Maxis มาเลเซีย, MobiFone เวียดนาม, Singtel จากสิงคโปร์, Taiwan Mobile ไต้หวัน และ Telkomsel อินโดนีเซีย พร้อมด้วยกลุ่มห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ในเครือเซ็นทรัล รีเทล อันประกอบด้วยห้างเซ็นทรัล โรบินสัน และศูนย์การค้าเซ็นทรัลเอ็มบาสซี ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญ ภายใต้ชื่อ “Asia’s First Cross Border Privilege Program for Tourism” เพื่อมอบสิทธิพิเศษสุดคุ้มให้ลูกค้าโรมมิ่งจากต่างประเทศกว่า 600 ล้านราย จาก 9 ประเทศ ที่เดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทย ผ่านแคมเปญ “Welcome to Thailand Privileges” ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568
นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป AIS กล่าวว่า ท่ามกลางการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาไทยกว่า 9.3 ล้านคนในไตรมาสแรกปีนี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญในการผลักดันให้เศรษฐกิจโดยรวมกลับมาคึกคักอีกครั้ง ซึ่ง AIS ในฐานะผู้นำดิจิทัลเน็ตเวิร์คของประเทศ เล็งเห็นความสำคัญในการสร้างการเติบโตร่วมกันกับพาร์ทเนอร์ และส่งต่อสิทธิประโยชน์สู่ลูกค้า จึงได้ริเริ่มความร่วมมือใหม่ในครั้งนี้ โดยใช้จุดแข็งด้านเครือข่าย 5G ที่ยอดเยี่ยมในการดูแลลูกค้าโรมมิ่งจากต่างประเทศ ผสานกับความเชี่ยวชาญของกลุ่ม Bridge Alliance ในการพัฒนานวัตกรรมบริการดิจิทัล พร้อมกับการจับมือกับห้างเซ็นทรัลในการมอบสิทธิพิเศษระดับพรีเมียมครบวงจรแก่ลูกค้า
ภายใต้ความร่วมมือ Asia’s First Cross Border Privilege Program for Tourism ครั้งนี้ ลูกค้ามือถือจากโอเปอเรเตอร์ในเครือ Bridge Alliance ที่เดินทางมาเที่ยวเมืองไทยและเปิดบริการโรมมิ่งอัตโนมัติกับเอไอเอส จะได้รับทั้งคุณภาพเน็ตเวิร์ค 5G ชั้นนำ พร้อมสิทธิประโยชน์พิเศษจากเครือเซ็นทรัล รีเทล โดยครอบคลุมสาขาห้างเซ็นทรัลและโรบินสันทั่วประเทศกว่า 77 สาขา รวมถึงแบรนด์ดังที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเอ็มบาสซี สิทธิพิเศษที่จะมอบให้ลูกค้า ได้แก่
- รับคูปองส่วนลดจากห้างเซ็นทรัล, ห้างโรบินสัน มูลค่าสูงสุด 3,600 บาท
- รับส่วนลดจาก Tops Supermarket, Tops Food Hall, Tops Fine Food มูลค่าสูงสุด 140 บาท
- รับสิทธิพิเศษและส่วนลดจากแบรนด์ชั้นนำกว่า 45 แบรนด์ มูลค่ารวมกว่า 12,000 บาท อาทิ La Mer, Estée Lauder, Tom Ford Beauty, MAC, Sabina, Guy Laroche, Marks & Spencer, Sanrio, Smiggle, Adidas, Sunglass Hut, Tissot, Zwilling, PAÑPURI, Dyson
- โปรโมชั่นสุดพิเศษจากร้านอาหารชั้นนำทั้งสตรีทฟู้ด-ระดับมิชลินในเครือเซ็นทรัล
นอกจากสิทธิประโยชน์เหล่านี้แล้ว ยังมีการเตรียมบริการพิเศษอย่าง Personal Shopper ให้บริการช่วยช้อปปิ้งส่วนตัว บริการ Vat Refund ภายในห้าง และบริการส่งสินค้าถึงโรงแรม เพื่อการเอาใจนักช้อปชาวต่างชาติอย่างครบวงจร 360 องศา
Welcome to Thailand Privileges
แคมเปญความร่วมมือในครั้งนี้ AIS ได้เริ่มต้นกับลูกค้า China Unicom จีน และ CTM มาเก๊าเป็นที่แรก และจะขยายไปสู่โอเปอเรเตอร์พันธมิตรรายอื่น ๆ ในกลุ่ม Bridge Alliance ให้ครบทั้ง 9 รายภายในปีนี้ โดยลูกค้าสามารถแสดงข้อความหรือหลักฐานการใช้บริการโรมมิ่ง พร้อมพาสปอร์ต เพื่อรับสิทธิพิเศษได้ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ของห้างเซ็นทรัล 8 สาขา ได้แก่ ห้างเซ็นทรัลชิดลม, เซ็นทรัลเวิลด์, เซ็นทรัลเชียงใหม่, เซ็นทรัลพัทยา, เซ็นทรัลป่าตอง, เซ็นทรัลภูเก็ตฟลอเรสต้า, เซ็นทรัลสมุย และเซ็นทรัลหาดใหญ่ รวมทั้งห้างโรบินสันอีก 9 สาขา ได้แก่ โรบินสันพระราม 9, โรบินสันสุขุมวิท, โรบินสันบางรัก, โรบินสันเชียงใหม่, โรบินสันแม่สอด, โรบินสันจังซีลอน, โรบินสันฉลอง, โรบินสันถลาง และ โรบินสันหาดใหญ่
นางสาวรวิศรา จิราธิวัฒน์ ประธานบริหารฝ่ายการตลาด กลุ่มห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวย้ำถึงความเชื่อมั่นในการมอบสุดยอดประสบการณ์การช้อปปิ้งให้แก่ลูกค้าจากทั่วโลก ด้วยสินค้า บริการ และสิทธิพิเศษระดับพรีเมียม มาตลอดระยะเวลา 77 ปีของห้างเซ็นทรัล โดยการร่วมมือกับ AIS และพันธมิตรจาก Bridge Alliance ในครั้งนี้ จะเสริมความแข็งแกร่งให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวและช้อปปิ้งระดับโลกยิ่งขึ้น ผ่านการนำเสนอแคมเปญสิทธิประโยชน์สุดคุ้ม และการบริการแบบไร้รอยต่อ ตั้งแต่ลูกค้าเดินทางออกจากประเทศ จนถึงมาถึงปลายทางที่เซ็นทรัลและช้อปปิ้งในไทยอย่างเต็มอิ่ม
ตลอดความร่วมมือในครั้งนี้ AIS Bridge Alliance และเครือเซ็นทรัล รีเทล เชื่อว่าจะสามารถส่งมอบประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมให้แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ ชักชวนให้มาเยือนเมืองไทยมากขึ้น และเดินทางกลับมาอีกในอนาคต ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยว และผลักดันให้เศรษฐกิจไทยโดยรวมกลับมาคึกคักยิ่งขึ้น จากการร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ของผู้เล่นตัวจริงในแต่ละอุตสาหกรรมนั่นเอง
