MediaTek

8 ฟีเจอร์เด่นของชิป MediaTek Pentonic 2000 ขุมพลังภายในทีวี 8K

คุณสมบัติที่ดีที่สุด 8 ประการของชิป MediaTek Pentonic 2000 ที่อยู่ภายในทีวี 8K โดย ดร. Mike Chang รองประธานบริษัทและผู้จัดการทั่วไปของกลุ่มธุรกิจสมาร์ทโฮมแห่ง MediaTek

ปเกรดสู่โทรทัศน์รุ่นใหม่ที่มีหน้าจอใหญ่ขึ้น ความละเอียด 8K และเพลิดเพลินไปกับการแสดงผลที่เร็วชั่วพริบตาที่ความเร็ว 120Hz ซึ่งขับเคลื่อนโดยชิปสมาร์ทีวีที่แรงที่สุดในวงการ ชิป Pentonic 2000 รุ่นใหม่ล่าสุดที่อยู่ในโทรทัศน์ 8K ระดับเรือธง มาพร้อมกับคุณสมบัติอันน่าตื่นตาและนวัตกรรมทางเทคโนโลยีด้านหน้าจอแสดงผล ระบบเสียง AI การออกอากาศ และการเชื่อมต่อ แทบไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไม MediaTek ถึงได้เป็นขุมพลังให้แก่โทรทัศน์กว่าสองพันล้านเครื่องในตลาดทั่วโลก

และข้อดีต่างๆ ต่อไปนี้คือเหตุผลว่าทำไมในปี 2565 นี้คุณถึงต้องซื้อโทรทัศน์ 8K ที่มีชิป MediaTek Pentonic 2000 ภายในเครื่อง

1. ชิปสำหรับการแสดงผล 8K 120Hz แบบครบวงจร

ชิปเดียวแบบครบวงจรรุ่นนี้รองรับจอแสดงผล 8K 120Hz และยังรวมเอ็นจิ้น MEMC 8K 120Hz ไว้ในตัวอีกด้วย การแสดงผลที่เร็วขึ้นจะช่วยทำให้ UI และการใช้แอปพลิเคชั่นราบรื่นกว่าเดิม และยังเหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการการตอบสนองที่มีค่าความแฝงต่ำ

2. เทคโนโลยีปรับค่าความละเอียด 8K AI-Super Resolution

MediaTek ได้ออกแบบ APU แบบมัลติคอร์ (หน่วยประมวลผล AI) ที่ฝังอยู่ในชิปให้มีประสิทธิภาพสูง โดยจะช่วยขับเคลื่อนเอ็นจิ้น AIPU-Picture Quality ของ MediaTek พร้อมด้วยการจดจำซีนรุ่นที่ 2 และเทคโนโลยีการจดจำวัตถุรุ่นที่ 3 นอกจากนี้ ด้วยคอนเทนต์ส่วนใหญ่ที่สตรีมกันนั้นมีค่าความละเอียดต่ำกว่า 8K ชิปรุ่นนี้ยังขับเคลื่อนเทคโนโลยีความละเอียด 8K AI-Super Resolution ที่สำคัญยิ่ง ซึ่งจะช่วยเพิ่มคุณภาพของคอนเทนต์ได้อย่างชาญฉลาดตามความละเอียดดั้งเดิม (Native) ของจอแสดงผล อีกทั้งยังเพิ่มคุณภาพของภาพแบบเรียลไทม์ได้อีกด้วย

3. ชิปสมาร์ททีวีที่แรงที่สุดในอุตสาหกรรมโทรทัศน์

ภายในตัวชิปเป็นการผสมผสานระหว่าง CPU และ GPU ที่เร็วที่สุดในอุตสาหกรรมโทรทัศน์ ซึ่งขับเคลื่อนโดยแบนด์วิดธ์หน่วยความจำที่มีความจุล้นหลาม และหน่วยความจำ UFS 3.1 ที่ทำงานเร็วชั่วพริบตาเพื่อไม่ให้เกิดภาพกระตุกขณะที่กำลังใช้ UI บนหน้าจอโทรทัศน์หรือไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชั่นใดๆ ก็ตาม

MediaTek Pentonic 2000 8K

4. ชิปสมาร์ททีวี 7nm 8K รุ่นแรกของโลก

ชิป Pentonic 2000 เป็นชิปโทรทัศน์เชิงพาณิชย์รุ่นแรกของโลกที่ใช้กระบวนการผลิต N7 (7nm-class) ของ TSMC ซึ่งมีศักยภาพและประหยัดพลังงานได้ไม่มีใครเทียบ

5. ชิปทีวี 8K เชิงพาณิชย์ตัวแรกที่รองรับมีเดีย Versatile Video Coding (VVC) H.266

Pentonic 2000 เป็นชิปทีวี 8K เชิงพาณิชย์ตัวแรกที่รองรับมีเดียตัวเข้ารหัสวีดิโอ H.266 Versatile Video Coding (VVC) ซึ่งให้ประสิทธิภาพการบีบอัดสื่อสตรีมมิ่งและการออกอากาศรุ่นใหม่ดีขึ้น โดยชิป Pentonic 2000 ยังรองรับเทคโนโลยี Dolby Vision และ Dolby Atmos ล่าสุดเพื่อมอบประสบการณ์การรับชมภาพยนตร์ที่ดีที่สุด

นอกจากนี้ยังมีเอ็นจิ้นถอดรหัสฮาร์ดแวร์ HEVC, VP9, AVS3 ที่ใช้กันทั่วไปและ AV1 รุ่นล่าสุด ซึ่งครอบคลุมสื่อทุกรูปแบบ

6. เทคโนโลยี MediaTek Intelligent View รุ่นพิเศษ

เทคโนโลยีมุมมองอัจฉริยะหรือ MediaTek Intelligent View ช่วยให้สามารถแสดงหน้าจอแบบภาพซ้อนภาพ (PiP: Picture-in-Picture) หรือภาพต่อภาพ (PbP: Picture-by-Picture) ได้หลายแบบ ช่วยให้จอแสดงผลความละเอียด 8K ขนาดใหญ่สามารถแสดงหน้าจอแสดงผล หรือ Display Wall ของคอนเทนต์จากมีเดียรูปแบบต่างๆ ได้ นั่นก็คือ ผู้ใช้งานสามารถใช้แอปพลิเคชั่นหลายตัวเปิดการสตรีมจากแหล่งต่างๆ ได้พร้อมกัน นอกจากนี้ MediaTek Intelligent View ไม่เพียงแต่จะช่วยให้วิดีโอในแต่ละหน้าต่างสามารถแสดงผลได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะปรับขนาดหน้าต่างหรือเปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลไปเป็นแบบใดก็ตาม แต่ยังช่วยให้ปรับคุณภาพภาพในแต่ละหน้าต่างเพื่อให้ผู้ชมได้รับอรรถรสการชมคอนเทนต์ได้ดีที่สุด

7. การเชื่อมต่อ Wi-Fi 6E และสัญญาณมือถือ 5G ที่เร็วทะลุพิกัด

ด้วย Pentonic 2000 สามารถรองรับการเชื่อมต่อทั้ง USB และ PCI-Express ได้ ผู้ผลิตจึงสามารถเพิ่มโซลูชั่น MediaTek Wi-Fi 6E เช่น Filogic 320 หรือ 330 หรือแม้แต่โซลูชั่นเซลลูล่าร์ MediaTek 5G เข้าไปในแบรนด์สมาร์ททีวีเพื่อให้สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สายได้เร็วที่สุดสำหรับการสตรีมมีเดีย 8K หรือมุมมองการสตรีมมีเดียแบบ PiP/PbP คู่กัน

8. มาตรฐานการออกอากาศโทรทัศน์ระดับสากลซึ่งรวมถึง ATSC 3.0 ล่าสุดด้วย

ตามปกติแล้ว MediaTek มีแพลตฟอร์มแบบ Demod ที่ใช้ได้ทั่วโลกในตัว ผู้ผลิตอุปกรณ์จึงสามารถออกแบบอุปกรณ์หนึ่งตัวที่ใช้ได้ในตลาดทั่วโลก และสามารถมุ่งมาที่การออกแบบเทคโนโลยีที่ให้แตกต่างจากค่ายอื่นๆ ได้ อีกทั้งยังได้รวม ATSC 3.0 ซึ่งเป็นมาตรฐานการออกอากาศรุ่นใหม่ในสหรัฐอเมริกาและเกาหลีใต้เข้าไปด้วย มากกว่านั้น ตลาดในสหรัฐอเมริกาก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยสมาคมเทคโนโลยีผู้บริโภคแห่งสหรัฐอเมริกา (CTA) ประเมินว่าภายในสิ้นปี 2566 จะมีการจัดส่งสมาร์ททีวีที่รองรับมาตรฐาน NextGen มากจนถึง 13.3 ล้านเครื่อง