เปิดตัว Huawei P40 Series ทะลุขีดจำกัดกล้องสมาร์ทโฟน ราคา เริ่มต้น 799 ยูโร

เปิดตัวเรียบร้อยแล้วกับ Huawei P40 Series ที่มาพร้อมกัน 3 รุ่นคือ P40, P40 Pro และ P40 Pro+ ยังคงโดดเด่นเรื่องกล้อง, ดีไซน์ และประสิทธิภาพที่ดีขึ้นไปอีกขั้น ราคา เปิดตัวในยุโรปเริ่มต้นที่ 799 ยูโร หรือประมาณ 28,700 บาท

ก่อนหน้านี้ภาพหลุดต่างๆ ที่มีออกมา ก็ตรงตามที่หลุดมาไม่ผิดเบอร์ โดยทั้ง 3 รุ่นจะมีความต่างกันค่อนข้างชัดเจน ตั้งแต่ขนาดเครื่อง วัสดุ+สีที่ใช้ และเทคโนโลยีกล้องที่ประสิทธิภาพแตกต่างกัน ก่อนอื่นเราจะแนะนำสิ่งที่ P40 ทั้ง 3 รุ่นนี้มีเหมือนกันก่อน

สเปคหลักที่เหมือนกันทั้ง 3 รุ่นใน Huawei P40 Series

  • ทั้ง 3 รุ่นให้ RAM มา 8GB เท่ากันหมด
  • ชิปเซ็ตใช้เป็น Kirin 990 5G ทั้ง 3 รุ่น นั่นแปลว่า Huawei P Series รองรับการใช้งาน 5G ทุกตัว
  • กล้องหน้าเป็นแบบ Punch Hole ที่มุมบนของเครื่อง ที่จะประกอบด้วยกล้องมุมกว้างแบบ autofocus ความละเอียด 32MP f/2.2 และจะมี IR Depth Sensor สำหรับวัดระยะ และ Ambient & Proximity Sensor ซึ่งทั้ง 3 ตัวสามารถใช้งานปลดล็อกด้วยใบหน้าแบบ 3D และปลดล็อคได้แม้ในที่มืด ถ่ายวิดีโอเซลฟี่ได้ความละเอียด 4K
  • กล้องหลังตัวหลัก เป็น Ultra Vision Wide (23มม.) ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ RYYB รูรับแสง f/1.9 โดดเด่นด้วยเซนเซอร์ที่มีขนาดใหญ่ถึง 1/1.28 นิ้ว ถือว่าใหญ่สุดของกล้องสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน
  • เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ ขนาดใหญ่ขึ้น 30%
  • รองรับการใช้งาน eSIM
  • ระบบปฏิบัติการ EMUI 10.1 พร้อม Huawei Mobile Service บนพื้นฐานของ Andriod 10
  • มี NFC, Infrared และไม่มีช่องหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร

คราวนี้มาดูกันต่อว่า Huawei P40, P40 Pro และ P40 Pro+ ทั้ง 3 ตัวนี้มีอะไรที่แตกต่างและโดดเด่นบ้าง

Huawei P40

Huawei P40 series 5 color

น้องเล็กสุด มาพร้อมกับหน้าจอแบบ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว ความละเอียด FHD+ มีค่า refresh rate อยู่ที่ 60Hz แบบมาตรฐาน โดยที่หน้าจอจะเป็นแบบแบนราบ ไม่มีโค้งขอบมาด้านข้าง ดูจากขนาดแล้วเรียกว่าขนาดกำลังดี ด้วยมิติ 148.9 x 71.1 x 8.5 มิลลิเมตร และหนักเพียง 175 กรัม

กล้องหลังเป็นแบบ 3 เลนส์ พร้อมเซนเซอร์วัดอุณหภูมิสี และแฟลช LED แบบ 2-tone กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซลทำงานร่วมกับ กล้องมุมกว้าง Ultra WIde ระยะ 17 มิลลิเมตร ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/2.2 และกล้องซูมออปติคอล 3x ซูมได้ไกลสุด 30 เท่า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ระยะ 80 มิลลิเมตร มี OIS

สเปคภายใน ชิปประมวลผล Kirin 990 5G หน่วยความจำแบบ UFS 3.0 ขนาดความจุ 128GB (เพิ่มความจุด้วย NM Card) และ RAM 8GB แบตเตอรี่ 3800 mAh ชาร์จไวด้วยระบบ SuperCharge 22.5W ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP53

Huawei P40 ตัวเครื่องมีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 5 สี คือ Black, Deep Sea Blue, Ice White, Silver Frost และ Blush Gold

Huawei P40 Pro

Huawei P40 Pro series 5 color

ในรุ่นโปรนั้น จะแตกต่างกันตั้งแต่เรื่องของจอ OLED ความละเอียด 2640 x 1200 พิกเซล ที่ดีไซน์เป็นแบบ Quad-Curve Overflow Display ที่เป็นจอขอบโค้งทั้ง 4 ด้านให้ความสวยงาม ส่วนอัตรา Refresh Rate จอก็มากกว่าอยู่ที่ 90Hz รองรับ HDR10

ขนาดของตัวเครื่องนั้น อยู่ที่ 158.2 x 72.6 x 9 มิลลิเมตร น้ำหนักเครื่อง 209 กรัม

กล้องหน้าออโต้โฟกัส 32 ล้านพิกเซล พร้อม IR Depth Sensor และ Ambient & Proximity Sensor ใช้งานสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคแบบ 3D และ Gesture Control ได้

Huawei P40 Pro

กล้องด้านหลังจัดมาโปรยิ่งขึ้นด้วยแบบ 4 เลนส์ ด้วยกล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ RYYB, กล้อง Ultra Widw Cine ความละเอียด 40 ล้านพิกเซล (แบบเดียวกับใน Mate 30 Pro), กล้องซูม Telephoto ความละเอียด 12 ล้านพิเซล ซูมได้ 5x Optical (ซูมแบบ Digital ได้ไกลสุดถึง 50x) และปิดท้ายด้วย ToF สำหรับวัดระยะความลึกแบบ Depth Sensing

สเปคภายใน ใช้เป็นชิป Kirin 990 5G หน่วยความจำ 256GB (เพิ่มความจุด้วย NM Card) และ RAM 8GB แบตเตอรี่ 4200 mAh ชาร์จไวด้วยระบบ SuperCharge 40W มีระบบชาร์จไร้สาย 27W รองรับ Reverse Charging ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่นมาตรฐาน IP68

Huawei P40 Pro ตัวเครื่องมีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 5 สี คือ Black, Deep Sea Blue, Ice White, Silver Frost และ Blush Gold

Huawei P40 Pro+

Huawei P40 Pro+

จี๊ดจ๊าดขึ้นไปอีก หลักๆ แล้วสเปคต่างๆ แทบจะเหมือนกับรุ่น Pro แต่จะเพิ่มในส่วนความพรีเมี่ยมของตัวเครื่อง ด้วยวัสดุเซรามิคสีขาว และ สีดำ ขนาดมิติเครื่องก็เท่ากันเป๊ะ จะต่างที่น้ำหนักที่มากกว่านิดหน่อย อยู่ที่ 226 กรัม ส่วนสเปคความจุก็จะให้มามากถึง 512GB

เรื่องของกล้องจัดมาเลยถึง 5 กล้อง โดยจะมีกล้องหลัก, กล้อง Ultra Wide และ ToF เหมือนกับในรุ่น Pro แต่ว่าระบบการซูมนั้นจะมีเลนส์ Telephoto ใส่มา 2 ชุดด้วยกัน ชุดแรกจะเป็น 3x Optical 8 ล้านพิกเซลตัวเดียวกันในรุ่น P40 และเพิ่มกล้องซูมแบบเลนส์สะท้อน Periscope แบบใหม่ ที่ทำระยะซูมแบบออพติคอลได้ถึง 10 เท่า ซูมแบบ Hybrid ได้คมชัดถึง 20x และซูมดิจิทัลไปได้ไกลสุดถึง 100x

ราคา Huawei P40 Series (P40, P40 Pro และ P40 Pro+) และกำหนดวางจำหน่าย *ราคาในยุโรปจะสูงกว่าโซนอื่นๆ ด้วยอัตราภาษี

  • Huawei P40 (8GB+128GB) ราคา 799 ยูโร หรือประมาณ 28,700 บาท กำหนดวางจำหน่ายในยุโรป 7 เมษายน 2563
  • Huawei P40 Pro (8GB+256GB) ราคา 999 ยูโร หรือประมาณ 35,900 บาท กำหนดวางจำหน่ายในยุโรป 7 เมษายน 2563
  • Huawei P40 Pro+ (8GB+512GB) ราคา 1399 ยูโร หรือประมาณ 50,300 บาท กำหนดวางจำหน่ายในยุโรปช่วงเดือนมิถุนายนนี้