เปิดตัว Meta AI อัพเดทเป็น Llama 3 ใช้งานผ่าน Facebook, Instagram, Messenger และ WhatsApp

Meta ประกาศการอัพเดทครั้งใหญ่ให้กับ Meta AI ที่จะขับเคลื่อนด้วย Llama 3 โมเดลภาษาขนาดใหญ่แบบโอเพ่นซอร์สรุ่นล่าสุด พร้อมกับบูรณาการ Meta AI ให้ใช้งานใน Facebook, Instagram, Messenger และ WhatsApp

Meta AI เป็นแชทบอทที่ก่อนหน้านี้ขับเคลื่อนด้วย Llama 2 ที่ตอนนี้ได้อัพเกรดเป็น Llama 3 โดยจะมีการขยายการให้บริการเพิ่มไปยัง 12 ประเทศ เช่น ออสเตรเลีย, แคนาดา, กานา, จาเมกา มาลาวี, นิวซีแลนด์, ไนจีเรีย, ปากีสถาน, สิงคโปร์, แอฟริกาใต้, อูกันดา, แซมเบีย และซิมบับเว (ยังไม่มีประเทศไทย) และยังคงรองรับเฉพาะภาษาอังกฤษเท่านั้นในตอนนี้

Meta AI ใช้งานอย่างไร?

Meta AI Llama 3

ผู้ใช้งานจะสามารถเรียกใช้ Meta AI ผ่านแถบค้นหาบน Facebook, Instagram, Messenger และ WhatsApp รวมถึงโต้ตอบกับ Meta AI โดยตรงบนโพสต์ใน Facebook Feed นอกจากนี้ยังมีเว็บไซต์เฉพาะสำหรับ Meta.ai ที่ผู้ใช้สามารถแชทกับโมเดลได้เหมือนใช้งาน ChatGPT หรือ Google Gemini

ตอนนี้ Meta AI มีความสามารถใหม่ๆ ที่น่าสนใช่ เช่น ผู้ใช้สามารถถามเกี่ยวกับข้อมูลที่สนใจ เช่น สูตรอาหาร แล้วระบบจะแสดงคลิปวิดีโอ Reels หรือแฟนเพจที่เกี่ยวข้องมาให้ และยังสามารถแสดงผลการค้นหาผ่าน Google หรือ Bing ได้ด้วย

ส่วนบน Facebook Feed จะมีฟีเจอร์แสดงบนโพสต์ ให้ผู้ใช้สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโพสต์นั้นๆ ได้ และที่น่าสนใจคือ Meta AI สามารถจัดการกับข้อมูลเท็จทางการเมืองหรือการแพทย์ที่มักแพร่กระจายในโซเชียลมีเดียได้ด้วย

อีกประเด็นที่น่าสนใจคือข้อมูลที่ใช้ฝึกโมเดล ซึ่ง Meta ใช้ข้อมูลจากแหล่งสาธารณะทั่วไปบนอินเทอร์เน็ต รวมถึงข้อมูลที่มาจากแพลตฟอร์มของ Meta เอง ทั้งข้อมูลที่ผู้ใช้เป็นคนสร้างขึ้นมา และข้อมูลจากการโต้ตอบกับ Meta AI โดยตรง แต่ยังไม่มีตัวเลือกสำหรับผู้ใช้ในการไม่ยินยอมแชร์ข้อมูล ซึ่งอาจเป็นเงื่อนไขของการใช้บริการฟรี

Meta AI Generative Image

ท้ายที่สุด Meta ยังเปิดตัวฟีเจอร์ Generative สร้างรูปภาพที่เปลี่ยนแปลงแบบเรียลไทม์ตามคำบรรยายที่พิมพ์ โดยจะปรับเปลี่ยนภาพขณะที่ผู้ใช้พิมพ์คำสั่งอย่างต่อเนื่อง ต่างจากเครื่องมือสร้างภาพ AI ทั่วไปที่จะสร้างจากคำสั่ง Prompt จบทั้งหมด

สรุปฟีเจอร์และความสามารถใหม่ ใน Meta AI

  • อัพเกรดเป็น Llama 3: Meta AI จะถูกขับเคลื่อนด้วยโมเดลภาษา Llama 3 รุ่นล่าสุด ซึ่งจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น
  • ขยายการให้บริการ: Meta AI จะให้บริการใน 12 ประเทศใหม่ เช่น ออสเตรเลีย แคนาดา กานา จาเมกา เป็นต้น แต่ยังรองรับเฉพาะภาษาอังกฤษ
  • บูรณาการเข้ากับแถบค้นหา: ผู้ใช้สามารถเรียกใช้ Meta AI ผ่านแถบค้นหาบน Facebook, Instagram, Messenger และ WhatsApp เพื่อค้นหาข้อมูลที่สนใจได้
  • โต้ตอบบน Facebook Feed: Meta AI จะแสดงตัวบนโพสต์ใน Facebook Feed ให้ผู้ใช้สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโพสต์นั้นๆ ได้
  • เว็บไซต์เฉพาะ: Meta เปิดตัวเว็บไซต์ Meta.ai สำหรับให้ผู้ใช้แชทกับ Meta AI ได้โดยตรง คล้ายกับการใช้งาน ChatGPT หรือ Google Gemini
  • ค้นหาคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้อง: เมื่อผู้ใช้ถาม Meta AI ถึงข้อมูลที่สนใจ เช่น สูตรอาหาร ระบบจะแสดงวิดีโอ Reels หรือเพจ Facebook ที่เกี่ยวข้องให้
  • สรุปผลการค้นหาจาก Search Engine: ด้วยความร่วมมือกับ Google และ Bing ทำให้ Meta AI สามารถเข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์ และสรุปผลการค้นหาจาก Search Engine ได้
  • สร้างรูปภาพแบบเรียลไทม์: มีฟีเจอร์ใหม่ที่สร้างรูปภาพเปลี่ยนแปลงแบบเรียลไทม์ตามคำบรรยายที่ผู้ใช้พิมพ์อย่างต่อเนื่อง ช่วยให้เข้าใจการทำงานของระบบได้ง่ายขึ้น

ข้อมูลจาก TechCrunch ภาพจาก Meta