กระทรวงดิจิทัลฯ ปิด Facebook

กระทรวงดิจิทัลฯ เตรียมร้องศาล ปิด Facebook สิ้นเดือนนี้ หลังปล่อยมิจฉาชีพยิง Ads หลอกเงินคนไทย

ด่วน! กระทรวงดิจิทัลฯ (DES) ประกาศเตรียมร้องศาลสั่ง ปิด Facebook สิ้นเดือน ส.ค. นี้ หลังจากปล่อยให้มีมิจฉาชีพ แอบอ้างตลาดหลักทรัพย์ ยิงโฆษณาหลอกลวงลงทุน หวั่นเป็นภัยต่อความมั่นคง เผยข้อมูล ที่ผ่านมามีเหยื่อถูกหลอกลวงมากกว่า 2 แสนลาย หรือประมาณ 95% จาก 3 แสนราย คิดเป็นมูลค่าเสียหายมากกว่า 10,000 ล้านบาท

ประเด็นของการหลอกลวงบนโลกออนไลน์ จากมิจฉาชีพในยุคปัจจุบัน เป็นสิ่งที่อันตราย สร้างความเสียหาย และความอันตรายต่อประชาชนในประเทศไทย ที่ตกเป็นเหยื่อถูกหลอกให้โอนเงิน ด้วยกลลวงสารพัดอย่าง

ล่าสุด วันนี้ (21 สิงหาคม 2566) ทาง กระทรวงดิจิทัลฯ หรือ DES ได้ออกแถลงข่าว หลังจากมีการร่วมประชุมหารือ ระหว่างทาง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, ตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.), สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และสำนักงานตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี รวมถึงภาคประชาชน

การประชุมมุ่งเป้าเพื่อหารือและหาแนวทางการแก้ไข ปัญหาการซื้อโฆษณาของมิจฉาฉีพผ่าน Facebook หลอกให้ประชาชนลงทุน และชักชวนลงทุน โดยแอบอ้างใช้ชื่อบริษัทจดทะเบียนต่างๆ และใช้สัญลักษณ์ของ ก.ล.ต.โดยไม่ได้รับอนุญาต เช่น

  • อ้างว่าเป็น ก.ล.ต. หรือ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดให้ลงทุน เทรดทอง เริ่มต้น 1,999 บาท ระบุมีผู้เชี่ยวชาญดูแล พร้อมเสนอผลกำไรสูงร้อยละ 15-30 ต่อวัน
  • เชิญชวนให้ลงทุนผ่านบริษัท โดยอ้างชื่อบริษัทชื่อดัง หรือบุคคลผู้มีชื่อเสียง
  • ชักชวนให้ร่วมเทรดเหรีญดิจิทัล ผ่านเแอปพลิเคชั่นหรือเว็บไซต์
  • ลงทุนเหรียญคริปโต
  • ลงทุนกับบริษัทปล่อยเงินกู้ให้ผลตอบแทนสูง
  • ลงทุนหุ้นทอง
  • ลงทุนประมูลสินค้าเพื่อรับผลตอบแทนสูงเกินจริง
  • ลงทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินสกุลต่างประเทศ

วิธีการของมิจฉาชีพ มักจะปลอมสร้างโปรไฟล์ปลอม เป็นบุคคลอื่น หรือคนมีชื่อเสียงด้านการลงทุนเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ แล้วเข้าหาผู้เสียหายผ่านช่องทางออนไลน์ หรือกลุ่มสังคมออนไลน์ที่มีผู้ที่สนใจด้านการลงทุน

โดยทาง กระทรวงดิจิทัลฯ ได้มีการส่งหนังสือขอให้บริษัท Meta ที่เป็นเจ้าของ Facebook ดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว เนื่องจากมีการซื้อขายโฆษณาบนแพลตฟอร์ม Facebook และส่งข้อมูลให้ทาง Facebook ทำการปิดกั้นโฆษณาหลอกลวงและเพจปลอมไปแล้วกว่า 5,301 รายการ

กระบวนการจากนี้ ทาง กระทรวงดิจิทัลฯ อยู่ระหว่างการเรียบเรียงหลักฐานจากผู้กระทำความผิดบนแพลตฟอร์ม Facebook ส่งให้ศาลให้มีการ ปิด Facebook ภายในสิ้นเดือนนี้ (สิงหาคม) และขอให้ศาลสั่งปิดเฟสบุ๊คภายใน 7 วัน

โดยระบุว่า เป็นการกระทำผิดของทาง Facebook เนื่องจากทางแพลตฟอร์มได้รับการโฆษณาจากผู้กระทำความผิด หลอกลวงให้หลงเชื่อในการลงทุนและซื้อสินค้าผ่าน Facebook เมื่อโอนเงินแล้วได้สินค้าไม่ตรงปก หรือไม่ได้รับสินค้า ที่ผ่านมามีผู้เสียหายจำนวนมากกว่า 200,000 รายหรือประมาณ 95 เปอร์เซ็นต์จาก 300,000 ราย มีมูลค่าความเสียหายมากกว่า 10,000 ล้านบาท

ทาง DES ระบุว่า ทาง Facebook ควรแสดงความรับผิดชอบกับสังคมไทย และมีมาตรการในการจัดการปัญหามิจฉาชีพที่แพร่ระบาดในประเทศไทย ที่ผ่านมาทางกระทรวงฯ ได้มีการพูดคุยกับเฟสบุ๊คตลอดเวลา แต่ก็ไม่มีการคัดกรองผู้มาลงโฆษณา ทำให้ประชาชนได้รับความเสียหายรวมแล้วมากกว่า 100,000 ล้านบาท

ข้อมูลจาก Facebook : กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม