MatePad Pro 11 OLED

ตอบข้อสงสัย ทำไม HUAWEI MatePad Pro 11-inch หน้าจอ OLED 120 Hz คือแท็บเล็ตประสิทธิภาพระดับโปรสำหรับการสร้างสรรค์ที่น่าจับตาที่สุดในเวลานี้

เผยโฉมอย่างเป็นทางการกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วกับ HUAWEI MatePad Pro 11-inch แท็บเล็ตหน้าจอ OLED 120Hz ที่จัดเต็มประสิทธิภาพการสร้างสรรค์ระดับโปร ออกแบบมาอย่างพิถีพิถันสำหรับการทำงานแบบมืออาชีพของนักธุรกิจ ผู้บริหาร คอนเทนต์ครีเอเตอร์ หรือแม้แต่นิสิตนักศึกษาที่ชื่นชอบประสบการณ์เหนือระดับและการใช้งานแบบ Smart Office อันสะดวกสบายและง่ายดายยิ่งกว่า พร้อมทลายข้อจำกัดแบบเดิมๆ ด้วย 5 คุณสมบัติเด่นที่เหนือชั้นและครบครันยิ่งกว่าที่เคย ไปติดตามกันเลยว่าความน่าสนใจของหนึ่งในไอเท็มที่ฮ็อตฮิตติดลมบนที่สุด ณ เวลานี้มีอะไรบ้าง

ข้อที่ 1 – หน้าจอใหญ่ขนาด 11 นิ้ว เผยภาพสวยโดดเด่น คมชัดแม้อยู่ในที่มืด

HUAWEI MatePad Pro 11-inch เปิดโลกใบใหม่ที่ใหญ่และสวยกว่าเดิมผ่านหน้าจอ HUAWEI FullView Display แบบ OLED ขนาด 11 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1600 พิกเซล แสดงสีบนหน้าจอได้ถึง 1.07 พันล้านสีและมีค่าความแม่นยำของสี △E <1[1] ถ่ายทอดรายละเอียดได้สมจริงในทุกมิติ แม้ในที่แสงน้อยและเต็มตาสุดๆ กับขอบจอบางเฉียบเพียง 4.2 มิลลิเมตร ให้อัตราส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่องที่กว้างขึ้นถึง 92% พร้อมการแสดงผลอย่างลื่นไหลสูงสุดถึง 120 เฟรมต่อวินาที ช่วยให้การจดบันทึกและวาดเส้นด้วยปากกาเป็นไปอย่างสมูธ อ่าน E-Book หรือข้อความขณะท่องเว็บก็ราบรื่น

ทั้งยังเป็นแท็บเล็ตของหัวเว่ยรุ่นแรกที่ได้รับการรับรอง Full Care Display 3.0 ซึ่งเป็นมาตรฐานการรับรองที่ครอบคลุมที่สุดของ TÜV Rheinland การันตีลดแสงสีฟ้าที่เป็นอันตรายต่อดวงตาในระดับฮาร์ดแวร์ สามารถปรับลดแสง PWM (Pulse Width Modulation) ได้ที่ความถี่สูง 1440 Hz เพื่อให้มองจอได้อย่างสบายตาในที่แสงน้อย เสริมเทคโนโลยีการแสดงผลที่ปรับสมดุลโทนสีให้เข้ากับแสงธรรมชาติทั้งโทนเย็นและโทนอุ่น ยกระดับประสิทธิภาพการมองเห็นในสภาพแวดล้อมแสงที่แตกต่างกันได้

ข้อที่ 2 – ใช้งานคล่องตัวไม่มีสะดุดกับฟีเจอร์สุดชิคและกิมมิคใหม่ๆ พร้อมสัมผัสประสบการณ์เสมือนพีซีระดับโปร (PC-Like Pro)

เมื่อใช้งานคู่กับ HUAWEI M-Pencil 2nd generation ก็สามารถจด บันทึกทุกไอเดียและสิ่งที่สำคัญ ขีดเขียน หรือลากย้ายสิ่งต่างๆ บนหน้าจอ ตลอดจนเนรมิตชิ้นงานเก๋ๆ บน HUAWEI MatePad Pro 11-inch ได้อย่างงายดาย เริ่มกันที่ Notes แอปพลิเคชันจดบันทึกใหม่ที่รองรับได้หลากหลายรูปแบบและมีโครงสร้างบันทึกแบบย่อที่มีประสิทธิภาพให้เลือกมากมาย ตามมาด้วยการเขียนด้วยลายมือที่สามารถแปลงเป็นข้อความได้อัตโนมัติ เพิ่มประสิทธิภาพการจัดวางการบันทึกให้สมบูรณ์แบบมากขึ้นพร้อมลูกเล่นที่โดดเด่นอย่างฟังก์ชันพิเศษ Cross-app colour capture [2] โดยใช้ Eye dropper ดูดสีของภาพถ่ายหรือหน้าเว็บที่ต้องการผ่านการใช้งาน Multi-Window หรือ Multi-screen Collaboration กับสมาร์ทโฟนของหัวเว่ย ร่วมด้วย IbisPaint X แอปพลิเคชันยอดนิยมสำหรับการวาดภาพที่มาพร้อมฟังก์ชันมากมาย ทั้งแปรงลงสีกว่า 12,000 แบบ ฟอนต์ต่างๆ กว่า 1,000 ฟอนต์ ฟิลเตอร์ 80 แบบ และโหมดป้องกันการสั่นไหวขณะวาดเส้น (stroke stabilization feature) เป็นต้น สามารถดาวน์โหลดมารังสรรค์ผลงานเก๋ๆ ได้ผ่าน AppGallery และยังมีฟีเจอร์ Annotate ให้ผู้ใช้งานสัมผัสประสบการณ์การจดบันทึก ขีดเขียนและวาดที่สมจริง โดยผู้ใช้จะสามารถจดบันทึกเพิ่มเติมบนเอกสารได้เลย เรียกได้ว่าโปรดักทีฟมากขึ้นและตอบโจทย์ทุกการทำงานด้านดีไซน์และสร้างสรรค์ผลงานที่เน้นความแม่นยำของสีได้อย่างลงตัว

MatePad Pro 11 OLED

ต่อยอดความอัจฉริยะขึ้นไปอีกขั้นด้วยการเปลี่ยนแท็บเล็ตให้กลายเป็นแล็ปท็อปขนาดกะทัดรัดเพียงจับคู่ HUAWEI MatePad Pro 11-inch กับ HUAWEI Smart Magnetic Keyboard ก็พร้อมสัมผัสประสบการณ์การใช้งานพีซีระดับโปร (PC-Like Pro) ประเดิมด้วยความสะดวกสบายในการพิมพ์งานกับระยะกดบนแป้น 1.5 มิลลิเมตร แถมยังยกระดับความคล่องตัวขึ้นไปอีกระดับเพราะสามารถใส่และถอดได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังปรับให้เข้ากับอิริยาบถการใช้งานได้ถึง 3 โหมด ไม่ว่าจะเป็น Laptop mode สำหรับการใช้งานเสมือนโน้ตบุ๊ก Split mode แยกตัวคีย์บอร์ดออกจากฐานเพื่อปรับระยะการมองจอได้อิสระ และ Studio mode เหมาะกับการวาดเขียนและสร้างงาน 3 มิติได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ยังมีช่องเก็บ HUAWEI M-Pencil 2nd generation บริเวณด้านหลัง ขณะที่เสาอากาศซึ่งซ่อนอยู่ภายในตัวคีย์บอร์ดจะช่วยทำให้ HUAWEI MatePad Pro 11-inch รับสัญญาณอินเทอร์เน็ตได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย

MatePad Pro 11 OLED

ข้อที่ 3 – HarmonyOS 3 กับการอัปเกรดฟีเจอร์ให้ล้ำสมัยพร้อมเชื่อมต่อทุกดีไวซ์เพื่อการทำงานที่โปรดักทีฟที่สุด

โชว์การทำงานเหนือชั้นกว่าใครบน HUAWEI MatePad Pro 11-inch สำหรับแอปพลิเคชัน WPS Office ที่สามารถใช้ฟังก์ชัน App Multiplier เพื่อเปิดพร้อมกันแบบสองหน้าต่าง[3] และฟีเจอร์ Multi-Window สามารถเก็บหน้าต่างลอยได้สูงสุดถึง 10 หน้าต่างและสามารถเปิด 4 แอปพลิเคชั่นพร้อมกันได้ในเวลาเดียวกัน ช่วยให้การจัดระเบียบการใช้งานและสื่อสารได้อย่างเป็นระบบทั้งยังทำงานหลายหน้าจอไปพร้อมกันได้สะดวกและง่ายดายมากยิ่งขึ้น พร้อมลูกเล่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การเลื่อนไปที่มุมซ้ายบนเพื่อแบ่งหน้าจอ การเลื่อนไปที่มุมขวาบนเพื่อเปิดหน้าต่างลอย การปัดขึ้นเพื่อเข้าสู่โหมดเต็มหน้าจอ การปัดเข้าด้านในเพื่อเปลี่ยนเป็น App Bubble และปัดลงเพื่อออก นอกจากนี้ยังสร้างสรรค์เลย์เอาต์หน้าจอหลักใหม่ทั้งหมดได้ตามสไตล์การใช้งานเพียงปลายนิ้วสัมผัส รวบแอปฯ ที่ใช้งานบ่อยๆ ไว้บนพื้นที่ที่เรียกใช้งานง่าย ลากแอปที่กระจัดกระจายมากรุ๊ปให้เป็นระเบียบ และยังสามารถแยกแอปตามสีไอคอนหรือประเภทการใช้งานได้อีกด้วย

พ่วงด้วยความสามารถในการประสานการทำงานระหว่างอุปกรณ์ด้วยการเปิดใช้งาน Super Device[4] เพื่อการทำงานภายในอีโคซิสเต็มของหัวเว่ยอย่างไร้รอยต่อ ด้านแบตเตอรี่มีขนาด 8300 mAh หมดกังวลหากต้องใช้งานตลอดวัน และสามารถเล่นวิดีโอ 1080 P ได้ต่อเนื่องถึง 11.5 ชั่วโมง[5] แถมยังชาร์จไวด้วย 66W HUAWEI SuperCharge ในรุ่น LTE และ 40W HUAWEI SuperCharge ในรุ่น WIFI[6] อีกด้วย

ข้อที่ 4 – ออกแบบอย่างพิถีพิถัน พกพาสะดวกและสามารถถือได้ด้วยมือข้างเดียว

MatePad Pro 11 OLED

ว้าวกันแบบต่อเนื่องกับความบางของตัวเครื่อง HUAWEI MatePad Pro 11-inch เพียง 5.9 มิลลิเมตร ขณะที่น้ำหนักของรุ่น Wifi เบาเพียง 449 กรัม [7]  บอกเลยว่าเบาที่สุดในโลกเมื่อเทียบกับแท็บเล็ตขนาด 11 นิ้วรุ่นอื่นๆ ในปัจจุบัน[8] แต่แฝงความแข็งแรงทนทานในขนาดกะทัดรัดถนัดมือ ที่สำคัญคือพิถีพิถันทุกกระบวนการผลิต ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการ Colour coagulation layer ซึ่งช่วยให้ชั้นสีเมทัลลิกดูมีมิติของแสงและเงาที่นุ่มนวลยิ่งขึ้น และ Frosted sand layer เพิ่มความทนทาน กันรอยนิ้วมือ และทำให้มองเห็นรอยขีดข่วนได้ยากขึ้น เสริมด้วยการเคลือบผิวสัมผัสแบบด้านด้วยโลหะเนื้อละเอียด ปรับมุมโค้งมนให้ความรู้สึกหรูหรา พร้อมเสริมลุคให้สมาร์ทและเสริมสร้างความมั่นใจทุกครั้งที่หยิบขึ้นมาใช้งาน

ข้อที่ 5 – แท็บเล็ตเครื่องแรกของหัวเว่ยที่มาพร้อม HUAWEI SOUND

สัมผัสพลังเสียงเต็มอิ่มโสตประสาทจาก HUAWEI MatePad Pro 11-inch ซึ่งเป็นแท็บเล็ตโมเดลแรกจากหัวเว่ยที่มาพร้อมเทคโนโลยี HUAWEI SOUND ตัวช่วยยกระดับประสบการณ์สุดมหัศจรรย์ที่ทำงานคู่กับลำโพงที่ให้มาถึง 6 ตัวซึ่งปรับแต่งคุณภาพได้หลากหลายระดับและสร้างบาลานซ์ให้กับเสียงได้อย่างสมบูรณ์แบบพร้อมทั้งจัดเก็บรายละเอียดทุกจังหวะดนตรีและตัวโน็ตได้อย่างไร้ที่ติ ไม่เพียงเท่านั้น คุณภาพเสียงที่ถ่ายทอดผ่าน HUAWEI MatePad Pro 11-inch ยังแบ่งความถี่สูงและต่ำได้อย่างชัดเจนและมีความสมจริง ผสานเสียงเบสหนักแน่นทรงพลังเข้ากับระบบเสียงเซอร์ราวด์รอบทิศทาง เปลี่ยนพื้นที่ส่วนตัวให้กลายเป็นโรงภาพยนตร์สุดหรูขนาดย่อมได้สบายๆ

HUAWEI MatePad Pro 11-inch ราคาดีแถมมีข้อเสนอคุ้มค่าช่วงพรีออเดอร์ พร้อมร่วมสนุกกับกิจกรรมทดสอบฝีมือ

MatePad Pro 11 OLED

HUAWEI MatePad Pro 11-inch มาในสี Golden Black โดยรุ่น WIFI (8 GB+128GB) ราคา 24,990 บาท และรุ่น LTE (8GB+256GB) ราคา 29,990 บาท

เปิดพรีออเดอร์ตั้งแต่วันที่ 12 สิงหาคม 2565 ถึงวันที่ 26 สิงหาคม 2565 รับฟรี! HUAWEI Smart Magnetic Keyboard, HUAWEI M-pencil 2nd generation และสิทธิประโยชน์มากมายจาก HUAWEI AppGallery อาทิ บริการ HUAWEI Cloud ฟรี 3 เดือน บริการ HUAWEI Music ฟรี 3 เดือน บริการ HUAWEI Video ฟรี 1 เดือน และใช้งาน WPS Office ฟรี 3 เดือน เป็นต้น รวมมูลค่าของสมนาคุณ 12,282 บาท สั่งจองได้แล้วที่หน้าร้าน HUAWEI Experience Store และร้านค้าที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางออนไลน์ HUAWEI Store และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Shopee, Lazada และ JD Central

MatePad Pro 11 OLED

พิเศษยิ่งกว่า หัวเว่ยยังจัดกิจกรรม Color Your Dream กับ HUAWEI MatePad Pro 11-inch ณ HUAWEI Experience Store สาขา สยามพารากอน ในวันเสาร์ที่ 13 สิงหาคม 2565 และวันเสาร์ที่ 20 สิงหาคม 2565 รอบเวลา 13.00 น. และ 16.00 น. เปิดโอกาสให้ลูกค้าที่สนใจได้สัมผัสประสบการณ์สุดล้ำกับการวาดรูปภาพที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับโลกด้วย HUAWEI MatePad Pro 11-inch ภายในเวลา 5 นาที โดยมีน้องๆ นักศึกษาจากมหาวิทยาลัยศิลปากรมาช่วยให้คำแนะนำอย่างใกล้ชิด จากนั้นลงทะเบียน HUAWEI ID และล็อกอินผ่าน HUAWEI Community หรือแอปพลิเคชัน My HUAWEI เพื่อเข้าร่วมกิจกรรม แล้วถ่ายรูปตัวเองคู่กับผลงานที่วาดบนแท็บเล็ต โพสต์ลงบนเฟซบุ๊กแล้วตั้งค่าเป็นสาธารณะพร้อมกับติดแฮชแท็ก #huaweimatepadpro11แต้มสีเติมฝัน โดยผลงานที่ได้ยอดไลก์สูงสุด 10 อันดับแรกภายในช่วงเวลาการจัดกิจกรรมจะได้รับ HUAWEI Watch GT2 Pro (สำหรับ 3 อันดับแรก คนละ 1 ชิ้น) และ HUAWEI Freelace (สำหรับอันดับที่ 4 – 10 คนละ 1 ชิ้น) รวมมูลค่าของรางวัล 44,400 บาท ประกาศผลทาง HUAWEI Community เวลา 18.00 น. ในวันที่ 29 สิงหาคม 2565 โดยหัวเว่ยยังเตรียมของขวัญสุดพิเศษมูลค่า 1,290 บาทมอบให้กับผู้ร่วมกิจกรรมทุกท่าน[9] (ท่านละ 1 ชิ้น) นอกจากนั้น ลูกค้าที่ซื้อสินค้าภายในร้าน HUAWEI Experience Store สาขาสยามพารากอน ยังจะได้รับภาพบุคคลที่วาดโดยน้องๆ มหาวิทยาศิลปากรเป็นของที่ระลึกสุดเอ็กซ์คลูซีฟติดไม้ติดมือกลับบ้านไปอีกด้วย โดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด สามารถติดตามรายละเอียดและเงื่อนไขกิจกรรมได้ ที่นี่

ติดตามอัปเดตข่าวสารล่าสุดก่อนใครได้ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ HUAWEI Mobile TH สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซื้อสินค้า คอมมิวนิตี้ และบริการ ง่ายๆ ในคลิกเดียว เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน My HUAWEI ใน AppGallery


[1] Delta E คือ หน่วยชี้วัดมาตรฐานค่าความต่างหรือผิดเพื้ยนของสี (จากสายตาคนเรา) โดยอ้างอิงความถูกต้องของสีจาก CIELAB หรือ L*a*b. Delta E จะถูกใช้เพื่อรับรองว่าการแสดงผลของสีที่แสดงผลออกมาจะใกล้เคียงกับการรับสีด้วยตาของมนุษย์ และยังเป็นค่าความแตกต่างระหว่างจุดสีสองจุดที่กำหนดไว้ในปริภูมิสี CIELAB

[2] ฟีเจอร์การดูดสีจากภาพถ่ายหรือหน้าจอหรือใช้ดูดสีข้ามแอปพลิเคชัน รองรับเฉพาะ HUAWEI Notes และ Mojing Paint

[3] สำหรับแอปฯ WPS Office และแอปฯ ชอปปิง

[4] เฉพาะสมาร์ทโฟน แล็ปท็อป จอมอนิเตอร์ Vision ชุดหูฟัง และแท็บเล็ตของ HUAWEI บางรุ่นที่ใช้ HarmonyOS 3 หรือใหม่กว่าเท่านั้นที่รองรับฟังก์ชันนี้ หากคุณมีคำถามใดๆ เกี่ยวกับฟีเจอร์นี้ โปรดติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าสัมพันธ์ของ HUAWEI

[5] ความจุของแบตเตอรี่เป็นค่าปกติ ข้อมูลมาจากการทดสอบในห้องปฏิบัติการของ HUAWEI โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอไว้ที่ 200 นิต เมื่อชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มแล้วสามารถเล่นวิดีโอ 1080 P ได้นานถึง 11.5 ชั่วโมงต่อเนื่อง การใช้งานจริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์ เวอร์ชันซอฟต์แวร์ เงื่อนไขการใช้งาน และปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม

[6] สายชาร์จวางจำหน่ายแยก

[7] HUAWEI MatePad Pro 11-inch รุ่น Wifi น้ำหนัก 449 กรัม และรุ่น LTE น้ำหนัก 455 กรัม

[8] ข้อมูลมาจากห้องปฏิบัติการของ HUAWEI รุ่น GOT-W29 มีน้ำหนักประมาณ 449 กรัม (รวมแบตเตอรี่) รุ่น GOT-AL09 มีน้ำหนักประมาณ 455 กรัม (รวมแบตเตอรี่) น้ำหนักและความหนาจริงอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับข้อมูลจำเพาะของผลิตภัณฑ์ กระบวนการผลิต และวิธีการวัด

[9] ของสมนาคุณมีจำนวนจำกัด