Huawei Cloud Stack ร่วมสร้างระบบคลาวด์กลางภาครัฐ ประเทศไทย

รัฐบาลไทยเดินหน้าสร้างระบบคลาวด์กลางภาครัฐ ด้วยโซลูชัน Huawei Cloud Stack เพื่อขับเคลื่อนประเทศสู่ศูนย์กลางดิจิทัลอาเซียน

ภายใต้แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม 20 ปี หรือ “ประเทศไทย 4.0” รัฐบาลไทยมุ่งเป้าขับเคลื่อนประเทศสู่การเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลของภูมิภาคอาเซียน ควบคู่ไปกับการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล การส่งเสริมระบบเศรษฐกิจดิจิทัล และการยกระดับไปสู่รัฐบาลดิจิทัล

เพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณจำนวนมาก เพื่อจัดตั้งระบบคลาวด์กลางภาครัฐ ซึ่งจะรวมศูนย์คลังข้อมูลมากกว่า 300 แห่งในปัจจุบันเข้าไว้ด้วยกัน แทนที่ระบบการทำงานแบบกระจัดกระจายอันก่อให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ด้วยการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งลดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษา

ในการสรรหาโซลูชันระบบคลาวด์ที่เหมาะสม รัฐบาลไทยมุ่งเน้นที่เทคโนโลยีนวัตกรรมล้ำสมัยที่จะช่วยสนับสนุนแผนยุทธศาสตร์ด้านอุตสาหกรรม 4.0 การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ และระบบการขนส่งอัจฉริยะ โดยจำเป็นต้องเป็นโซลูชันที่มาพร้อมกับมาตรฐานความปลอดภัยที่เคร่งครัด สอดคล้องต่อกฎระเบียบภายในประเทศ อีกทั้งต้องการผู้ให้บริการที่สามารถสนับสนุนงานด้านการจัดการและบำรุงรักษาได้อย่างมืออาชีพในระยะยาว

ผลิตภัณฑ์ Huawei Cloud Stack ซึ่งเป็นโซลูชันคลาวด์แบบไฮบริดแห่งแรกของอุตสาหกรรมที่รองรับการใช้งานเชิงลึกหลากหลายรูปแบบได้อย่างปลอดภัย สามารถปรับปรุงคุณภาพการบริการดิจิทัลของภาครัฐไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงตอบโจทย์ความต้องการของระบบคลาวด์กลางภาครัฐ ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพ ความมั่นคงปลอดภัย การรองรับนวัตกรรม และค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน จึงได้รับคัดเลือกให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักของระบบ

ปัจจุบัน ระบบคลาวด์กลางภาครัฐกำลังถูกนำไปใช้งานจริงในกว่า 20 กระทรวง สำนักงาน 219 แห่ง และระบบไอทีกว่า 3,065 ระบบ ช่วยให้หน่วยงานภาครัฐสามารถให้บริการได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น อีกทั้งช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านไอทีลงได้ถึงปีละกว่า 850 ล้านบาท ประชาชนจะได้รับประโยชน์จากบริการสาธารณะที่ดีขึ้นในหลายด้าน เช่น การเดินทางโดยสารที่สะดวกและปลอดภัยยิ่งขึ้น การรักษาความปลอดภัยสาธารณะที่คล่องตัว รวมถึงระบบการแพทย์ที่มีประสิทธิภาพในช่วงวิกฤตการระบาด

การนำระบบคลาวด์กลางภาครัฐมาใช้อย่างเต็มรูปแบบ นับเป็นก้าวที่สำคัญของประเทศไทยในการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยุคดิจิทัล เพื่อปรับปรุงการให้บริการภาครัฐ และผลักดันศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ โดยมีหัวเว่ยเป็นผู้สนับสนุนหลักผ่านความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีในหลากหลายมิติ เพื่อร่วมสร้างระบบนิเวศคลาวด์และโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลที่แข็งแกร่งให้แก่ประเทศไทยในระยะยาว