AIS ทดสอบเชื่อมต่อ 5G SA โรมมิ่งจากไทย สู่ ทวีปอเมริกาเหนือ และ ยุโรป

AIS ประสบความสำเร็จ ครั้งแรกในโลก กับการทดสอบเชื่อมต่อด้วย 5G SA โรมมิ่งจากไทย สู่ ทวีปอเมริกาเหนือ และ ยุโรป โดย AIS-Sunrise Switzerland-T-Mobile US และ Deutsche Telekom Global Carrier พร้อมยกระดับบริการเพื่อลูกค้าไปอีกขั้น

นายศรัณย์ ผโลประการ หัวหน้าฝ่ายงานผลิตภัณฑ์โทรศัพท์เคลื่อนที่กลุ่มลูกค้าทั่วไป AIS กล่าวว่า “จากความสำเร็จก่อนหน้านี้ ที่ AIS ร่วมกับ Sunrise และ Deutsche Telekom Global Carrier ทำให้เราสามารถสามารถเชื่อมต่อระหว่างเอเชียกับยุโรปได้ ปัจจุบัน AIS สามารถทำการทดสอบเชื่อมต่อกับ T-Mobile US ได้สำเร็จเพิ่มเติม โดยถือเป็นวาระสำคัญอย่างยิ่ง ต่อการยกระดับประสบการณ์สื่อสารดิจิทัลที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า AIS และลูกค้าของพันธมิตรในระหว่างที่เดินทางต่างประเทศ เพราะ  5G SA โรมมิ่ง จะทำให้สามารถรับ-ส่ง ข้อมูลด้วยความเร็วสูงอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมรองรับรูปแบบการใช้งานมากมาย จึงถือเป็นความภูมิใจอย่างยิ่งที่การทำงานระหว่างผู้ให้บริการใน 3 ภูมิภาค คือ เอเชีย, อเมริกาเหนือ และ ยุโรป ในครั้งนี้จะช่วยปลดล็อค และเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผู้ใช้บริการแต่ละรายได้อย่างดี”

โดยล่าสุด T-Mobile US (NASDAQ: TMUS) และ Deutsche Telekom Global Carrier (DT-GC) ประกาศว่า ทั้งคู่ได้ทำการทดสอบการเชื่อมต่อเครือข่าย 5G Standalone โรมมิ่ง ทั่วโลก สําเร็จ ด้วยโซลูชัน Internet Protocol Exchange (IPX) ของ DT-GC  ให้กับ AIS และ Hosted Security Edge Protection Proxy (SEPP)  ให้กับ Sunrise สวิสเซอร์แลนด์ ถือว่าเป็นการโรมมิ่ง 5G SA ระหว่างสหรัฐอเมริกาและสวิตเซอร์แลนด์ และสหรัฐอเมริกาสู่ไทย ครั้งแรกในโลก

“การโรมมิ่ง 5G SA เปลี่ยนประสบการณ์ในการเชื่อมต่อเมื่ออยู่ต่างประเทศไปอย่างสิ้นเชิง,” กล่าวโดย อุลฟ์ เอวัลด์สัน ประธานแผนกเทคโนโลยี T-Mobile สหรัฐอเมริกา “ลูกค้าของเราและพาร์ทเนอร์จะได้รับประโยชน์จากการโรมมิ่งที่ดีที่สุดในมากกว่า 200 ประเทศ เพราะการ 5G SA เปิดโอกาสให้ได้รับความความเร็วและความเสถียรที่สูงขึ้น รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ๆอย่าง Network Slicing พร้อมให้ความรู้สึกเสมือนใช้เครือข่ายในประเทศของตัวเอง แม้จะอยู่ระหว่างเดินทางต่างประเทศ ดังนั้นด้วยแนวคิด Simple Global, Mobile Without Boarders, Coverage Beyond และ Coverage Above and Beyond จะทำให้  T-Mobile, DT-GC, Sunrise และ AIS  เป็นผู้นําในการนําเสนอโซลูชันการเชื่อมต่อที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของแต่ละรายในระหว่างการเดินทางต่างประเทศ เมื่อเริ่มเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ในอนาคตอันใกล้”

ประโยชน์ของ บริการ 5G SA โรมมิ่ง 

  • ประสบการณ์ใช้งานที่ดีขึ้น: ด้วยความเร็วเพิ่มขึ้น, ความหน่วงต่ำ และ ความสามารถในการรองรับการใช้งานของเครือข่ายที่มากขึ้นเมื่อเทียบกับเครือข่าย  Non-Standalone (NSA)
  • ขยายการเชื่อมต่อระดับโลกรวดเร็วขึ้น: เพราะผู้ให้บริการสามารถขยายความร่วมมือบริการ 5G SA โรมมิ่งได้อย่างรวดเร็ว และไม่ซับซ้อน เพื่อลูกค้านักเดินทางและนักธุรกิจที่เดินทางต่างประเทศ
  • ยกระดับบริการด้วยเทคโนโลยีล่าสุด: 5G SA ช่วยให้เพิ่มเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว อาทิ AR, VR, IoT, Network Slicing, VPN และอื่น ๆ
  • พร้อมเชื่อมต่อกับ IoT และบริการสำหรับองค์กร : 5G SA Roaming เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่จะทำให้บริการจาก IoT จำนวนมหาศาลสู่ผู้บริโภคแบบก้าวกระโดด รวมถึงบริการขององค์กรที่ต้องใช้การสื่อสารแบบ Real Time  

AIS ตอกย้ำผู้นำ บุกเบิกความพร้อมครั้งแรกในเอเชียกับความสำเร็จจากการทดสอบ โรมมิ่ง 5G SA ร่วมกับ stc ผู้ให้บริการอันดับ 1 ของ คูเวต และ  BICS ผู้นำบริการเชื่อมต่อระดับโลก

ถือเป็นความสำเร็จระดับนานาชาติอีกขั้น จากการสนับสนุนโดย BICS  ที่ใช้ 5G Service Hub ครั้งแรกในโลกเพื่อเชื่อมต่อเทคโนโลยี 5G SA roaming อันจะนำไปสู่ความยืดหยุ่นของผู้ให้บริการโทรคมนาคมที่จะสามารถส่งมอบนวัตกรรมให้แก่ลูกค้าได้อย่างไม่มีข้อจำกัด AIS ประกาศความสำเร็จ การทดสอบเชื่อมต่อบริการโรมมิ่ง 5G Standalone (SA) ครั้งแรกในเอเชียกับ stc ผู้ให้บริการอันดับ 1 ของคูเวตในตะวันออกกลาง ความสำเร็จนี้เป็นผลมาจากความร่วมมือกับผู้ให้บริการเชื่อมต่อระหว่างประเทศ BICS ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรายแรกที่นำ 5G Service Hub มาใช้อย่างเต็มรูปแบบแก่ผู้ให้บริการ

โดยการทำงานร่วมกันครั้งนี้ ส่งผลให้ AIS พร้อมต่อการยกระดับบริการ 5G โรมมิ่งไปอีกขั้น ทั้ง ดาต้า, ข้อความ และการโทร ด้วยเครือข่ายหลักบน 5G เพียงอย่างเดียว (5G Stand Alone) จากปัจจุบันที่ให้บริการ 5G โรมมิ่ง เป็นแบบ NSA-None Stand Alone  ที่จะต้องใช้ช่องทางรับ-ส่งข้อมูลผ่าน 4G/LTE เป็นอีกเครือข่ายหลักประกอบกัน  อันจะทำให้ไม่มีความพร้อมหรือยืดหยุ่นอย่างเต็มที่เพียงพอในการพัฒนาบริการใหม่ๆ ที่เป็นนวัตกรรมของ 5G ที่จะสร้างประโยชน์ให้แก่ผู้ใช้บริการ อาทิ Network Slicing หรือ การสื่อสารแบบ Real Time ในสถานการณ์สำคัญ รวมไปถึงโอกาสในการขยายบริการรูปแบบใหม่ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายศรัณย์ ผโลประการ หัวหน้าฝ่ายงานผลิตภัณฑ์โทรศัพท์เคลื่อนที่กลุ่มลูกค้าทั่วไป AIS กล่าวว่า “ปัจจุบันผู้ประกอบการทั่วภูมิภาคเอเชียต่างร่วมผลักดันบริการใหม่ๆ จาก 5G กันอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น AIS ซึ่งมีเจตนารมณ์เดียวกันจึงเดินหน้าทำงานร่วมกับพันธมิตรในระดับสากลเพื่อยกระดับเทคโนโลยี 5G อย่างไม่หยุดยั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริการ 5G โรมมิ่งที่ล้ำสมัย อันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งทั้งแก่ภาคธุรกิจและผู้บริโภค เพราะนอกจากจะสามารถพัฒนาบริการที่หลากหลาย ยืดหยุ่น เหมาะสมกับองค์กรแต่ละขนาดแล้ว การพัฒนาให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัย ก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน ดังนั้นการประสบความสำเร็จร่วมกันในครั้งนี้ จึงเป็นก้าวสำคัญที่จะมอบประสบการณ์ที่เป็นเลิศจากเทคโนโลยี 5G ให้แก่ทุกกลุ่ม สร้างการเติบให้แก่ทุกอุตสาหกรรมในท้ายที่สุด”

ด้าน อิง ฟาฮัด อัล อาลี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายเทคโนโลยี stc คูเวต กล่าวเสริมว่า “เราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาสำคัญครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นทิศทางที่ถูกต้องในการสร้างการเชื่อมต่อบริการ 5G ไปทั่วโลกและมอบประโยชน์ให้แก่ลูกค้าของเรา ทั้งนี้ stc เชื่อมั่นว่า 5G SA จะนำมาซึ่งประสิทธิภาพที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน และด้วยความร่วมมือกับ BICS กับ AIS ทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้อยู่แถวหน้าของการพัฒนานวัตกรรมที่จะสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้แก่ลูกค้าของเรา”

การประสบความสำเร็จในการร่วมทดลอง ทดสอบ  5G SA โรมมิ่ง ครั้งนี้ ถือเป็นความก้าวหน้าไปอีกขั้น โดยมีชั้นความปลอดภัยเพิ่มเติมขึ้น จากเทคโนโลยี SEPP -Secure Edge Protection Proxy ที่สามารถกำหนดได้ โดยผู้ให้บริการ เพราะการส่งข้อมูลทั้งหมดจะถูกส่งจาก SEPP ของผู้ให้บริการผ่าน 5G SA Service Hub ใหม่ของ BICS ดังนั้น ในขณะที่ผู้ให้บริการมีการป้องกันด้านความปลอดภัยจาก SEPP แล้ว BICS ยังเพิ่มเติม Data Analytics การวิเคราะห์ข้อมูลอัจฉริยะ, การมอนิเตอร์ตรวจสอบคุณภาพ และตรวจจับเพื่อป้องกันความเสี่ยงระหว่างการเชื่อมต่อ 5G ร่วมกับผู้ให้บริการทั่วโลก ซึ่งหมายความว่าจะทำให้สามารถขยายบริการ 5G โรมมิ่งได้รวดเร็วแบบก้าวกระโดด

“5G เป็นการยกระดับเทคโนโลยีสื่อสารไร้สายครั้งยิ่งใหญ่  โดยสามารถสร้างประโยชน์มากมายให้แก่ผู้บริโภคและองค์กรธุรกิจ ซึ่งการสามารถเชื่อมต่อ 5G Stand Alone โรมมิ่งได้สำเร็จ คือ การขยายศักยภาพของ 5G ไปทั่วโลกนั่นเอง” มิคาเอล ชาคเน่ รองประธานฝ่ายการตลาด Telco ของ BICS กล่าว “ที่ BICS เราเชื่อในพลังของการสื่อสาร จึงเป็นเหตุผลของความมุ่งมั่นในการสร้างรากฐานที่จะเร่งการขยายตัวของ โรมมิ่ง 5G SA ไปทั่วโลก เพราะยิ่งเราสามารถทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ เพื่อประสานรากฐานเหล่านี้ และทำให้ 5G SA โรมมิ่งเป็นจริงได้มากเท่าใด ผู้ให้บริการอย่าง AIS  และ stc คูเวต ตลอดจนองค์กรอื่นๆ และลูกค้าก็จะปลดล็อกศักยภาพได้เร็วยิ่งขึ้นเท่านั้น”

“ความสำเร็จครั้งล่าสุดนี้ทำให้บริการ 5G SA โรมมิ่งทั่วโลกเข้าใกล้ความเป็นจริงมากยิ่งขึ้น เพราะจะไม่เป็นเพียงมีความพร้อมทางเทคนิคเท่านั้น แต่ยังมีบริการรับประกันคุณภาพที่ปลอดภัยและหลากหลาย เพื่อปกป้องผู้บริโภคและสร้างการเติบโตในอนาคตแก่ผู้ให้บริการในยุค 5G อีกด้วย”