GARMIN

GARMIN เผยรายได้ทั่วโลก 125,700 ล้านบาท เติบโตติดต่อกัน 5 ปี พร้อมเปิดสำนักงานในไทย

GARMIN โตแกร่งสวนกระแสวิกฤตเผยรายได้ทั่วโลกกว่า 125,700 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ประเดิมเปิดออฟฟิศแห่งแรกในไทย พร้อมชู 4 กลยุทธ์หลักบุกตลาดเต็มตัว

การ์มิน คอร์ปอเรชั่น แบรนด์ระดับโลก ผู้ส่งมอบที่สุดของความหลากหลายทางเทคโนโลยี GPS ตั้งแต่อุตสาหกรรมการบิน ยานยนต์ การเดินทะเล ฟิตเนส และกิจกรรมกลางแจ้ง เดินหน้ารุกตลาดปี 64 หลังเปิดสำนักงานแห่งแรกในไทยอย่างเป็นทางการ ด้วย 4 กลยุทธ์หลักเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกมิติให้กับผู้บริโภคชาวไทย ภายใต้ “Every Beat of Life – นวัตกรรมที่ก้าวทันทุกจังหวะของชีวิตตั้งเป้าดันตลาดไทยโตต่อเนื่องในทุกอุตสาหกรรมที่ให้บริการ หลังสร้างรายได้ทั่วโลกในปี 2563 สูงกว่า 4,190 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (หรือประมาณ 125,700 ล้านบาท) โตขึ้น 11% จากปีก่อนหน้า

เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ในปีแห่งความท้าทาย

คุณมิสซี่ ยาง ผู้จัดการฝ่ายวางแผนการตลาด ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การ์มิน คอร์ปอเรชั่นกล่าวว่า “ในปีที่ผ่านมาเราได้พบกับความท้าทายมากมายที่ส่งผลให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง แต่การ์มินก็ยังสามารถสร้างรายได้สูงเป็นประวัติการณ์อีกครั้งและถือเป็นการเติบโตติดต่อกันเป็นปีที่ 5 เนื่องจากผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับผลลัพธ์ของการออกกำลังกายและการมอนิเตอร์สุขภาพ

ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์แอ็กทีฟจากแบรนด์การ์มินที่ผู้บริโภคให้ความมั่นใจได้รับความสนใจมากขึ้น นอกจากนี้ การ์มินยังได้พัฒนาสินค้าให้สอดคล้องกับพฤติกรรมใหม่ของผู้บริโภค ที่ครอบคลุมฟังก์ชันด้านเทคโนโลยี GPS เพื่อตอบโจทย์ทุกจังหวะของชีวิตที่ไม่หยุดนิ่ง หรือการติดตามกิจกรรมและการเล่นกีฬาหลากหลายประเภท ทั้งในร่ม กลางแจ้ง หรือแม้ในช่วงเวลาพักผ่อน ทำให้ผู้สวมใส่สามารถมองเห็นภาพรวมและเข้าใจสุขภาพร่างกายของตนเองได้อย่างลึกซึ้ง”

“จากวิสัยทัศน์ของเราที่ต้องการเป็นผู้นำระดับโลกในทุกตลาดที่เราให้บริการ และความพร้อมของการ์มินในทุกมิติ ตั้งแต่สินค้าที่ครอบคลุมทุกความต้องการ โดดเด่นด้วยรูปแบบการดีไซน์ที่น่าสนใจ คุณภาพที่เหนือกว่า ความคุ้มค่าด้านฟีเจอร์ที่สูงสุด ทีมงานที่พร้อมให้บริการทั่วทุกมุมโลก รวมถึงศักยภาพในการผลิต เราจึงขยายธุรกิจและเข้ามาตั้งสำนักงานในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการขยายธุรกิจมายังประเทศไทยครั้งนี้จะทำให้การ์มินสามารถส่งมอบบริการที่ดีและสร้างความสะดวกสบายอย่างสูงสุดให้กับลูกค้าของเรา” คุณมิสซี่ กล่าวเสริม

คุณสกาย เชน ผู้อำนวยการ การ์มิน ประเทศไทย กล่าวว่า “การมาทำตลาดในประเทศไทย การ์มินยังคงความมุ่งมั่นในการส่งมอบเทคโนโลยีที่ช่วยส่งเสริมทุกๆ จังหวะการใช้ชีวิตของผู้บริโภคทุกคนให้มีประสิทธิภาพตาม Every Beat of Life ตั้งแต่สินค้าที่มีพร้อมให้ลูกค้าได้เลือกซื้อได้ตรงกับความต้องการที่เฉพาะเจาะจงครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์อาทิ สินค้าซีรีส์ VENU และ INSTINCT ที่เหมาะสำหรับกลุ่มผู้มองหานาฬิกาอัจฉริยะหลากหลายสไตล์เพื่อติดตามสุขภาพและการออกกำลังกายในชีวิตประจำวัน สินค้าซีรีส์ FĒNIX สำหรับผู้หลงใหลในการเล่นกีฬากลางแจ้ง สินค้าซีรีส์ FORERUNNER สำหรับผู้ที่รักการวิ่ง ไปจนถึงอุปกรณ์ GPS สำหรับอุตสาหกรรมการบิน ยานยนต์ หรือทางทะเล

จากกระแสของผู้บริโภคชาวไทยที่โฟกัสกับการใช้ชีวิตแอ็กทีฟและใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ประกอบกับจำนวนครั้งในการทำกิจกรรมบนแพลตฟอร์ม Garmin Connect เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยกิจกรรมในร่ม (Indoor Activities) เพิ่มสูงกว่า 55% ซึ่งกิจกรรมที่ได้รับความนิยม ได้แก่ คาร์ดิโอในที่ร่ม และโยคะ ในขณะที่กิจกรรมกลางแจ้ง (Outdoor Activities) เพิ่มสูงกว่า 25% โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มกีฬากอล์ฟ และจักรยาน

และสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนในตัวเลขรายได้ของกลุ่มสินค้าซีรีส์ DESCENT สำหรับ      ผู้ที่ชื่นชอบกีฬาดำน้ำ ที่เติบโตกว่า 80% รายได้กลุ่มสินค้าซีรีส์ APPROACH สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกีฬากอล์ฟ โตขึ้น 170% รายได้ของกลุ่มสินค้าซีรีส์ EDGE สำหรับผู้ที่รักในการปั่นจักรยาน โตขึ้น 60% รายได้ของกลุ่มสินค้าซีรีส์ VENU ที่เพิ่มขึ้น 20% การ์มินมองเห็นศักยภาพการเติบโตของอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะ (Wearable Devices) ในประเทศไทย และความต้องการในสมาร์ทวอทช์ที่ทำหน้าที่ช่วยกระตุ้นและสร้างแรงบันดาลใจในการออกกำลังกาย หรือทุ่มเทกับการเล่นกีฬาและทำกิจกรรมกลางแจ้งโดยสามารถวัดผลลัพธ์และมอนิเตอร์ตนเองได้อย่างแม่นยำ

การ์มินจึงเดินหน้ารุกตลาดไทยปี 64 ด้วยกลยุทธ์ 4 ด้านหลัก ได้แก่

  1. VERTICAL INTEGRATION ที่เกิดจากกระบวนการควบคุมคุณภาพทั้งสายการผลิตโดยบุคลากรของการ์มิน ตั้งแต่กระบวนการผลิต การทำการตลาด และการให้บริการ เพื่อสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน กับความสามารถในการปรับตัวอย่างรวดเร็วเท่าทันต่ออุตสาหกรรมที่กำลังพัฒนาและการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน
  2. EXPAND BRAND PRESENCE IN EACH MARKET ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทั้ง 5 กลุ่มให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าโดยการนำเสนอสินค้าที่ตอบความต้องการที่เฉพาะเจาะจง ผ่านการทำให้การ์มินเป็นที่รู้จักทั้งในการทำตลาดแบบ B2C และ B2B อาทิ การทำตลาดสินค้าประเภทกีฬากอล์ฟ และการดำน้ำ รวมถึงขยายผลลัพธ์ของ Garmin Health Solutions หรือโซลูชันด้านสุขภาพที่เรามีไปสู่ธุรกิจด้านสุขภาพ และประกันภัย เป็นต้น
  3. USER EXPERIENCE ENHANCEMENT กับการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ผู้บริโภคด้วยกิจกรรมรูปแบบใหม่ๆ จากการ์มินตลอดทั้งปี อาทิ GARMIN RUN CLUB คอมมูนิตี้แห่งใหม่สำหรับนักวิ่งที่คลั่งไคล้ในการออกกำลังกายกับกูรูการวิ่งชื่อดังทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์
  4. SEAMLESS SERVICE EXPERIENCES การบริการที่เป็นเลิศกับแผนการให้บริการที่ครอบคลุมลูกค้าชาวไทยในทุกภูมิภาค ตั้งแต่ประสบการณ์หน้าร้านไปจนถึงบริการหลังการขาย ได้แก่ (1) บริการ Drop-off points กว่า 300 จุดที่พร้อมให้บริการทุกจุดทั่วประเทศ (2) ทีม Call Center คอยบริการตอบทุกข้อสงสัยเสมือนเป็นผู้ช่วยส่วนตัว และ (3) บริการ Door-to-door ที่ช่วยลดระยะเวลาการให้บริการลงถึง 50% เพิ่มประสิทธิภาพและรวดเร็วทันใจ

    “เราเชื่อว่าการเข้าถึงลูกค้าในทุกย่างก้าวของการใช้ชีวิตภายใต้ Every Beat of Life ด้วยการมีผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นผู้หลงใหลในการออกกำลังแบบเบื้องต้นในชีวิตประจำวัน กีฬากอล์ฟ การปั่นจักรยาน หรือการดำน้ำ ซึ่งมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่เป็นคนรุ่นใหม่ การบริการหลังการขายที่มีประสิทธิภาพ และความมุ่งมั่นในการส่งมอบการใช้ชีวิตที่แอ็กทีฟและมีคุณภาพสำหรับคนไทย จะทำให้การ์มินสามารถคงความเป็นผู้นำตลาด Wearable Device ของประเทศไทยได้อย่างแน่นอน” คุณสกาย กล่าวสรุป

การ์มิน ประเทศไทย ดำเนินการตามแผนงานภายใต้ Every Beat of Life
เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายในการสร้างนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ก้าวทันทุกจังหวะของชีวิตของคนไทย