รีวิว HUAWEI FreeBuds Pro 3 หูฟัง TWS ไดร์เวอร์คู่ ตัดเสียง ANC 3.0

รีวิว HUAWEI FreeBuds Pro 3 ราคา 6,990 บาท หูฟัง TWS ตัวท็อปสุดของทางหัวเว่ย หน้าตาดีไซน์อาจจะไม่ต่าง แต่ภายในอัปเกรดหลายอย่าง ตั้งแต่ไดร์เวอร์คู่ขนาด 11มม. และการตัดเสียงรบกวน ANC 3.0 ที่ใช้ AI เข้ามาจัดการได้อย่างชาญฉลาด

ในแพ็กเกจกล่องของ HUAWEI FreeBuds Pro 3 ด้านในจะมีดังนี้

• หูฟัง HUAWEI FreeBuds Pro 3 1 คู่
• เคสชาร์จ
• คู่มือการใช้งานเบื้องต้น และเอกสารการรับประกัน
• จุกยางสำหรับเปลี่ยน 4 ขนาด (XS, S, M, L)
• สายชาร์จแบบ USB-A to USB-C

HUAWEI FreeBuds Pro 3 ที่วางจำหน่ายในประเทศไทย จะมีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 3 สีด้วยกันคือ สีขาว เซรามิก ไวท์, สีเขียว, สีเงิน ซิลเวอร์ฟอรสต์ โดยตัวที่ทีมงานล้ำหน้าเราได้มา รีวิว เป็นสีขาว เซรามิกไวท์ ที่เป็นสีขาวบริสุทธิ์ ผิวสัมผัสที่มันวาว ข้อดีก็คือหยิบจับแล้วไม่ค่อยเห็นรอยนิ้วมือ

ตัวเคสด้านหน้าจะเรียบๆ และมีไฟ LED ที่จะแสดงสถานการทำงาน ทั้งการชาร์จ (ขึ้นสีแดง), ชาร์จเต็ม (สีเขียว), การเชื่อมต่อ (สีขาว)

ด้านข้างจะมีปุ่มสำหรับกดเพื่อเริ่มการเชื่อมต่อ ทำออกมาได้เนียนเรียบกับตัวเคสจนรู้สึกว่าสังเกตแทบไม่เห็น

ที่ด้านหลังจะมีดีไซน์เป็นป้ายโลหะสีเงินเงาวับ มีคำว่า “HUAWEI” โดยใช้วัสดุแบบ One-piece mirrored glass ที่มีความทนทานต่อการขีดข่วน

ด้านล่างของเคสจะเป็นพอร์ต USB-C สำหรับเสียบชาร์จแบตเตอรี่ และมีช่องลำโพงเพื่อส่งเสียงเตือนมาให้ด้วย นอกจากนี้ตัวเคสยังรองรับการชาร์จแบบไร้สายได้อีกด้วย โดยจะต้องวางในตำแหน่งของป้ายโลโก้ลงกับแท่นชาร์จ

มาดูกันที่ตัวหูฟังกันบ้าง การสั่งงานจะใช้วิธีการบีบที่ก้านของหูฟัง ส่วนตัวชอบกว่าแบบที่แตะสัมผัส เพราะว่าจะไม่ลั่นเวลาที่เผลอไปแตะโดยไม่ตั้งใจ โดยการบีบจะสามารถใช้ได้ทั้งสั่งเพื่อรับ-วางสาย, เล่น-หยุดเพลง, กด 2 ครั้งเพื่อเปลี่ยนเพลง หรือกดค้างเพื่อเปลี่ยนโหมด ANC ส่วนการแตะแล้วเลื่อนจะเป็นการปรับระดับเสียง

ตัวหูฟังมีเซ็นเซอร์ตรวจจับการสวมใส่ ที่จะทำการหยุดเล่นเพลงให้อัตโนมัติเมื่อถอดออก และเล่นต่อให้เมื่อสวมหูฟังกลับเข้าไป เป็นฟีเจอร์ที่สะดวกและได้ใช้งานบ่อยมาก

จุกยางนั้นมีให้เลือกเปลี่ยนได้ถึง 4 ไซส์ คือ XS, S, M และ L โดยที่ขนาดไซส์ M จะติดอยู่กับหูฟัง ทำให้คุณเลือกจุกยางที่เหมาะกับหูของคุณได้ดีที่สุด เพราะการใช้หูฟังแบบ In-ear จะต้องสวมให้กระชับพอดีกับหูให้มากที่สุด

ในส่วนของเทคโนโลยีด้านเสียง HUAWEI FreeBuds Pro 3 โครงสร้างภายในเป็นไดรเวอร์แบบไดนามิคขนาด 11 มม. แยกขับเสียงย่านต่ำได้ถึง 14Hz และมีไดอะแฟรมคอมโพสิตโพลีเมอร์ที่ขับเคลื่อนเสียงโทนแหลม ได้สูงถึง 48 kHz ช่วยให้เก็บได้มากกว่าระยะที่หูของมนุษย์ได้ยิน จึงทำให้สามารถส่งเสียงแยกครบทุกย่าน

การเข้ารหัสของเสียง HUAWEI FreeBuds Pro 3 รองรับ codecs แบบ LDAC, Hi-Res Audio Wireless, L2HC 2.0 นั้นผ่านการรับรองจาก HWA (Hi-Res Wireless Audio) โดยที่สามารถส่งสัญญาณเสียงความละเอียดสูงได้ถึง 990kbps

ระบบตัดเสียงรบกวน อัปเกรดเป็น Intelligent Dynamic ANC 3.0  ที่มี AI มาช่วยประเมินเสียงรอบข้างแบบเรียลไทม์ โดยเลือกได้ถึง 4 โหมดด้วยกันคือ

• Dynamic ตัดเสียงโดยมี AI มาประเมินตามสภาพแวดล้อมให้อัตโนมัติ
• Cozy ตัดเสียงรอบข้างเพียงเล็กน้อย เหมาะกับในห้องสมุด หรือออฟฟิศ
• General เหมาะสำหรับใช้ในที่สาธารณะ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ
• Ultra ใช้ในสภาวะที่เสียงดังมาก อย่างริมถนน หรือบนรถไฟฟ้า

ส่วนตัวหลังจากที่ทดสอบลองใช้ ชอบแบบ Dynamic มากที่สุด เพราะเราไม่ต้องคอยเปลี่ยนโหมดไปมา ทำให้เราได้อยู่ในสภาวะเสียงเงียบที่ดีที่สุด

นอกจากได้ยินเสียงที่ดีแล้ว เสียงไมโครโฟนก็คือดีมาก ด้วยเทคโนโลยี Pure Voice 2.0 ที่ใช้โครงสร้างระบบไมค์ที่มีถึง 3 ตัว เพิ่มด้วยไมโครโฟนแบบ Bone Conduction ที่ตรวจจับเสียงจากการสั่นของกระดูกในช่องหู ที่สามารถทำให้เสียงพูดของเราผ่านไมโครโฟนไปยังปลายสาย มีความคมชัด ตัดเสียงรอบๆ ข้าง อย่างเสียงจอแจ เสียงลมพัด ให้หายไปได้ถึง 5dB ให้เสียงที่ดีขึ้นถึง 2.5 เท่า

การเชื่อมต่อ

เราแนะนำให้ทำการติดตั้งแอปพลิเคชัน HUAWEI AI Life ลงในสมาร์ตโฟนก่อนให้เรียบร้อย เพื่อที่จะเอาไว้สำหรับการใช้งานได้เต็มฟีเจอร์และปรับแต่งค่าต่างๆ ได้มากขึ้น มีให้ดาวน์โหลดได้ทั้งในระบบ iOS และ Android ส่วนของ HUAWEI ให้เข้าไปที่ App Gallery ได้เลย

ในการเริ่มเชื่อมต่อใช้งาน เริ่มด้วยการเปิดโหมด Pairing โดยใส่ตัวหูฟังไว้ในเคส เปิดฝาออก แล้วกดปุ่มค้างไว้ประมาณ 3-5 วินาที ก็จะเริ่มเข้าโหมดแล้วกดค้นหา Bluetooth จากอุปกรณ์ได้เลย

แต่ถ้าคุณใช้สมาร์ตโฟน, แท็บเล็ต ของ HUAWEI จะรองรับการเชื่อมต่อแบบ Pop-Up แค่เปิดฝาเคสอยู่ใกล้ๆ กับเครื่อง ก็จะมีหน้าเมนูให้กดเชื่อมต่อได้ทันที

สำหรับอุปกรณ์อื่นๆ ก็รองรับใช้ได้เช่นกัน ไม่ใช่แค่สมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ต แล็ปท็อปทั้งระบบ Windows , macOS และนาฬิกาสมาร์ตวอทช์ก็ใช้งานได้ด้วยเช่นกัน

และที่ดีมากๆ คือ HUAWEI FreeBuds Pro 3 สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้พร้อมกัน 2 เครื่อง โดยหูฟังจะจำการเชื่อมต่อเอาไว้ แล้วจะทำการสลับการเชื่อมต่อให้อัตโนมัติทันที อย่างเช่น เราเชื่อมต่ออยู่กับแล็ปท็อปเพื่อทำงา แล้วมีสายโทรเข้ามาที่โทรศัพท์ หูฟังก็จะย้ายไปเชื่อมต่อให้สั่งกดรับสายที่โทรเข้าที่โทรศัพท์ได้ทันที ถือว่าสะดวกดีมาก

ภายในแอป HUAWEI AI Life เราจะใช้งานทั้งการเลือกดูได้ว่า ตัวหูฟังมีเชื่อมต่ออยู่กับอุปกรณ์อะไรบ้าง, ปรับโหมดเสียง, ปรับเอฟเฟกต์เสียงในโปรไฟล์ต่างๆ และปรับเปลี่ยนคำสั่งการกดที่หูฟัง

สรุป รีวิว HUAWEI FreeBuds Pro 3

เรื่องของคุณภาพเสียง ถือว่าอยู่ในระดับพรีเมียมสมกับราคาค่าตัวที่ 6,990 บาท ตัวเบสที่ชัดเจนถูกใจชาวไทย การแยกเสียงในย่านต่างๆ มีความชัดเจน เป็นหูฟังที่เหมาะสำหรับการใส่เพื่อฟังเพลง และเดินทางในเมืองที่ต้องขึ้นรถไฟฟ้า เดินสัญจร เพราะระบบตัดเสียง ANC 3.0 ทำได้ดีมาก ผมชอบที่จะเอาไว้ใส่แล้วไม่ได้เปิดเพลง แต่ช่วยลดเสียงดังวุ่นวายในระหว่างทำงาน ทำให้เรารู้สึกสงบและมีสมาธิมากขึ้น

ราคา และ โปรโมชัน

HUAWEI FreeBuds Pro 3 วางจำหน่ายใน ราคา 6,990 บาท สำหรับใครที่สั่งซื้อตั้งแต่วันที่ 12 ธันวาคม 2566 ถึง 7 มกราคม 2567 รับฟรี กระเป๋าใส่หูฟัง มูลค่า 599 บาท ที่ HUAWEI Experience Store ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ และร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบนแพลตฟอร์มออนไลน์ Lazada และ Shopee