Canalys บริษัทวิเคราะห์ข้อมูล คาดการณ์ว่า Apple Vision Pro ในปีแรกของการเปิดตัว จะมีผู้ใช้งานราว 3.5 แสนคน และจะเพิ่มอย่างต่อเนื่อง รวมแล้วมากกว่า 20 ล้านคน ภายในเวลา 5 ปี รวมถึงจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ที่จะทำให้อีโคซิสเต็มของ แอปเปิล เติบโตต่อไปได้ในอนาคต
Apple Vision Pro เป็นอุปกรณ์ Headset รุ่นแรกของทางแอปเปิล ที่มีคนเฝ้ารอกันมานานว่าเมื่อไร ยักษ์ใหญ่ของวงการไอทีระดับโลกจะลงมาสู่ตลาดของ VR / AR หลังจากที่ซุ่มพัฒนามานานหลายปี เมื่อเผยโฉมออกมาอย่างเป็นทางการ ก็มีกระแสตอบรับที่ดีมา แม้ว่าจะราคาที่ประกาศมานั้นจะสูงถึงหลักแสนบาทก็ตาม
แอปเปิลทำการบ้านมาอย่างดีมาก ในการเข้ามาเป็นผู้เล่นคนล่าสุดในตลาดนี้ โดยนิยามให้ Apple Vision Pro เป็น Spatial Computing ออกแบบให้ผู้ใช้ได้ประสบการณ์สมจริงแบบโอบล้อม และไม่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกถูกตัดขาดจากโลกความจริง แต่เป็นการสอดแทรกและซ้อนคอนเทนต์เข้ามาอย่างกลมกลื่น
Apple Vision Pro ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการสร้างอุปกรณ์ที่สามารถถ่ายทอดประสบการณ์สมจริง ที่แตกต่างจากบริษัทอื่นๆ ที่ทำอุปกรณ์ Headset ออกมาก่อนหน้านี้ ตั้งแต่การพัฒนาชิปเซ็ตใหม่เพื่อจัดการด้านการแสดงผล AR/VR โดยเฉพาะ ส่งผลให้เกิดอาการหน่วงของการแสดงผลและเสียงระหว่างสวมใส่น้อยมาก ผู้ใช้จึงมีความรู้สึกสมจริง ไม่อึดอัด และไม่รู้สึกเวียนหัวจาก Motion Sickness ที่เป็นปัญหาหลักที่เกิดกับอุปกรณ์ประเภทนี้มาโดยตลอด
ทาง Canalys คาดกาณ์ยอดการจัดส่ง Apple Vision Pro ในปีแรกที่เปิดตัวจะทำได้ประมาณ 350,000 เครื่อง โดยในช่วงปีที่ 2 และ 3 จะเป็นการปรับปรุงด้านต้นทุนเพื่อให้บริษัทมีผลกำไรจากการขายมากขึ้น ด้วยการออกรุ่นที่ 2 มาเปิดตลาดให้เข้าถึงผู้ใช้ได้ง่ายขึ้น จะช่วยทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งคาดว่าในช่วงปีที่ 4 และ 5 จะมียอดขายมากกว่า 10 ล้านชุดต่อปี
ยอดจัดจำหน่ายของ Apple Vision Pro ในอีก 5 ปี ข้างหน้า รวมแล้วน่าจะมากกว่า 20 ล้านชุด ถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าสนใจเลยทีเดียว
ความเห็นจากทีมงานล้ำหน้าฯ
สำหรับ Apple Vision Pro เราเชื่อว่าทางแอปเปิลตั้งเป้าที่จะเข้ามายึดครองตลาดแพลตฟอร์มโลกเสมือนจริง หลังจากที่ผ่านมาเกือบ 10 ปี เทคโนโลยี VR AR หรือว่า MR ถูกปล่อยออกมาจากหลากหลายผู้ผลิต แต่มันก็ยังไม่สามารถเป็นผลิตภัณฑ์ระดับ Mass ที่สร้างประสบการณ์จนทำให้ทุกคนรู้สึกว่าต้องมี ต้องใช้ ได้เลย
ความได้เปรียบของ Apple ก็คือ พวกเขาไม่สนว่ามันจะต้องเป็นสินค้าราคาถูกที่ทุกคนซื้อได้ แต่เขาต้องการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด แม้ว่าราคาจะสูงลิ่วแต่คนจะพยายามไขว่คว้ามัน เราจึงเห็นสเปคภายในของ Apple Vision Pro นั้น จัดเทคโนโลยีระดับสูงกว่าทุกเจ้าในตลาด ตั้งแต่จอแสดงผลที่มีความละเอียดมากกว่า 8K (ในแต่ละข้าง) ชิปประมวลผลที่พัฒนาขึ้นเอง ที่มีศักยภาพล้นปรี่
อีกข้อได้เปรียบสำคัญที่ แอปเปิล เหนือกว่าคู่แข่งคือ พวกเขามีนักพัฒนาแอปพลิเคชันจำนวนมหาศาลอยู่ที่ทั่วโลก ในงาน WWDC2023 ได้เปิดตัว Apple Vision Pro พร้อมกับเชิญชวนให้ทุกคนมาสร้างสรรค์แอปและคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
แอปเปิลนำเสนอ Apple Vision Pro ในมุมมองการเป็น Spatial Computing ไม่ใช่อุปกรณ์ VR ของเด็กเล่นที่เน้นแต่การเล่นเกมหรือดูคอนเทนต์เพียงอย่างเดียว แต่มันสามารถสวมใส่เพื่อทำงาน หรือทำกิจกรรมต่างๆ ได้โดยไม่โดนตัดขาดจากโลกความเป็นจริง
ในยุคปัจจุบันที่ตลาดแอปพลิเคชันบนแพลตฟอร์มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์ เริ่มอิ่มตัว หรือแม้แต่คอนเทนต์ประเภทเกมเองก็ไม่ได้เฟื่องฟูสร้างเม็ดเงินได้มากเหมือนก่อนแล้ว การเปิดแพลตฟอร์มใหม่ที่ดูมีอนาคตว่าจะเติบโต จึงเป็นไปได้ที่ แอปเปิล จะมีพาร์ทเนอร์ทุกระดับ ตั้งแต่นักพัฒนารายย่อยไปจนถึงบริษัทชั้นนำ มาเข้าร่วมสนับสนุนให้ Apple Vision Pro เติบโตได้จริง
ข้อมูลจาก Canalys
