รีวิว HUAWEI FreeBuds 5i หูฟังไร้สายรุ่นใหม่ สไตล์สวมใส่แบบ In-ear คุณภาพเสียงคมชัดระดับ Hi-res (มี LDAC) ใส่ระบบตัดเสียงรบกวน ANC มาให้ด้วย แบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่องนานสุด 7.5 ชั่วโมง พร้อมมีระบบชาร์จเร็ว เพียง 15 นาที เต็มแบตเตอรี่ให้ใช้ต่อได้ถึง 4 ชั่วโมง แถมยังใช้งานเชื่อมต่อได้ 2 อุปกรณ์พร้อมกัน เรียกได้ว่าฟีเจอร์จัดมาอย่างครบครับ แต่เปิดตัวมาใน ราคา เพียงแค่ 2,799 บาท เท่านั้น!
ข้อมูล สเปค HUAWEI FreeBuds 5i
- ขนาดเคสชาร์จ : 48.2 x 61.8 x26.9 มิลลิเมตร น้ำหนักประมาณ 33.9 กรัม
- ขนาดหูฟัง (1 ข้าง) : 30.9 x 21.7 x 23.9 มิลลิเมตร น้ำหนักประมาณ 4.9 กรัม
- เซ็นเซอร์ : เซ็นเซอร์ฮอลล์/เซ็นเซอร์แคป
- ไดร์เวอร์: แบบไดนามิก ขนาด 10 มิลลิเมตร
- ระบบเสียง รองรับ Hi-res (มี LDAC)
- ระบบตัดเสียงรบกวนรอบข้าง ANC
- ระบบความคุมแบบสัมผัส
- Bluetooth 5.2 : เชื่อมต่อได้ 2 อุปกรณ์
- กันละอองน้ำ กันฝุ่น : IP54
- เชื่อมต่อแบบป๊อปอัพ (รองรับสมาร์ทโฟน EMUI 10 ขึ้นไป)
- แบตเตอรี่ : เคสชาร์จ 410mAh / ตัวหูฟัง 55mAh (ต่อข้าง)
- เล่นเพลงต่อการชาร์จ 1 ครั้ง สูงสุด 6 ชั่วโมง (เปิด ANC) 7.5 ชั่วโมง (ปิด ANC)
- ใช้งานร่วมกับกล่องชาร์จ สูงสุด 18 ชั่วโมง (เปิด ANC) 28 ชั่วโมง (ปิด ANC)
- เวลาในการชาร์จหูฟังในเคสชาร์จ 0-100% ประมาณ 60 นาที
- เวลาในการชาร์จเคชชาร์จ 0-100% ประมาณ 110 นาที
แกะกล่องตัวแพ็กเกจของ HUAWEI FreeBuds 5i ที่ตัวกล่องจะเป็นกระดาษ 100% นำไปทำการรีไซเคิลได้ง่าย หน้ากล่องจะมีรูปของตัวเคสหูฟังขนาดเท่าจริงอยู่ พอเข้ามาด้านในนอกจากตัวเคสที่มีตัวหูฟังเก็บอยู่ด้านใน ที่ด้านข้างทั้ง 2 ด้านจะมีอุปกรณ์แถมมาให้อีก เป็นสายชาร์จ USB-A to USB-C แบบสั้นสะดวกพกพา และยังมีจุกยางซิลิโคนขนาด S และ L รวมกับไซส์ M ที่ติดตั้งกับตัวหูฟังอยู่แล้ว เราจะเลือกขนาดของจุกยางได้ถึง 3 ขนาดเพื่อให้สามารถสวมใส่ได้อย่างกระชับที่สุด
ตัวเคสชาร์จนั้น มีการออกแบบมาโดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากรูปทรงของหินกรวดภูเขาไฟบนหาดทรายสีดำของประเทศไอซ์แลนด์ ด้วยลักษณะเด่นคือ มีความราบเรียบ มนกลม พร้อมกับผิวสัมผัสที่เนียนด้านนุ่มมือ โดยมีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 3 สีคือ น้ำเงิน Isle Blue, ดำ Nebula Black และ ขาว Ceramic White
ตัวฝาของเคสชาร์จเปิดมาจะเสียบเก็บตัวหูฟังเอาไว้ โดยจะมีแม่เหล็กยึดไว้ทำให้ไม่หลุดง่าย โดยภายในเคสจะใช้วัสดุเป็นมันวาวตัดกับภายนอกที่เป็นผิวด้าน
ที่ด้านข้างของเคสชาร์จ จะมีปุ่มสำหรับกดเพื่อทำการเปิดโหมดเชื่อมต่อ โดยกดค้างไว้ประมาณ 3-4 วินาทีจะเป็นไฟกระพริบสีฟ้า เราสามารถเปิดคำสั่ง Bluetoot
รูปทรงของตัวหูฟังนั้นเรียกว่าคล้ายกับรุ่นก่อนมากๆ โดยการสวมใส่เป็นแบบ In-ear ที่จะเป็นจุกซิลิโคน เวลาสวมคือต้องอุดเข้าไปที่หูให้แน่นกระชับ โดยเจ้าจุกซิลิโคนของ HUAWEI FreeBuds 5i นั้นใช้วัสดุที่ผ่านมาตรฐานจาก FDA และ LFGB ในเรื่องของความปลอดภัยของวัสดุ ที่สามารถป้องกันแบคทีเรียและอาการแพ้ได้
ตัวหูฟังนั้น ถือว่ามีน้ำหนักที่เบามาก โดยแต่ละข้างจะหนักเพียงแค่ 4.9 กรัม ทำให้สวมใส่แล้วไม่รู้สึกถ่วงหนักให้รำคาญ โดยในส่วนก้านไมโครโฟนจะยาว 29 มิลลิเมตร เทียบกับ HUAWEI FreeBuds 4i รุ่นก่อน จะสั้นกว่าถึง 7 มิลลิเมตร ทำให้ดูมีความกระทัดรัดมากขึ้น
ที่ตัวหูฟังด้านนอกจะเป็นจุดสัมผัสสำหรับใช้สั่งการควบคุมการทำงานจากตัวหูฟังได้โดยตรง
- แตะ 2 ครั้ง เพื่อทำการเล่น/หยุดเพลง หรือ รับ/วางสายสนทนา
- แตะค้างไว้ 3 วินาที เพื่อเปลี่ยนโหมดการตัดเสียงรบกวน ที่เลือกได้ว่าจะเป็นแบบ Awareness, OFF หรือ Active noise cancellation
- แตะแล้วเลื่อนขึ้นลง เพื่อปรับเพิ่มลดระดับเสียง
การเชื่อมต่อ
HUAWEI FreeBuds 5i รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์บนมาตรฐาน Bluetooth 5.2 โดยสามารถใช้งานได้กับอุปกรณ์ของ HUAWEI ทั้งสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต และ แล็ปท็อป รวมไปถึงยังรองรับการใช้งานกับอุปกรณ์อื่นๆ ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android และ iOS ได้อีกด้วย
สำหรับการใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ตของหัวเว่ย จะรอบรับการเชื่อมต่อแบบ Pop up ที่เพียงแค่เปิดฝาเคสชาร์จ ก็จะมีการเด้งเตือนการเชื่อมต่อขึ้นที่หน้าจอให้ทันที
แนะนำว่าก่อนเริ่มใช้งาน ให้ทำการติดตั้งแอป HUAWEi AI Life เพื่อทำการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน โดยในแอปจะมีเมนูสำหรับการตั้งค่าใช้งานอย่างละเอียดเพื่อปรับแต่งการทำงานอย่างที่เราต้องการ ไม่ว่าจะเป็น เปิดใช้ LDAC การเลือกโหมดตัดเสียงรบกวน, ปรับคุณภาพเสียง EQ, ปรับแต่งคำสั่งการสัมผัส, ค้นหาหูฟัง, ทดสอบความพอดีของหูฟังเวลาสวมใส่ และใช้สำหรับอัปเดตเฟิร์มแวร์ให้กับตัวหูฟัง
และอีกคุณสมบัติการเชื่อมต่อที่เพิ่มขึ้นมา คือสามารถเชื่อมต่อได้ 2 อุปกรณ์พร้อมกัน โดยเราสามารถสั่งตัวหูฟังจดจำการ Pairing ไว้ได้ 2 อุปกรณ์ และเวลาการใช้งานก็สามารถสลับเปลี่ยนได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลากด Pair กันใหม่ ถือว่าสะดวกสบายขึ้นมาก
ประสิทธิภาพด้านเสียง
HUAWEI FreeBuds 5i ตัวหูฟังใช้ไดรเวอร์ไดนามิกความไวสูง ขนาด 10 มิลลิเมตร ขับเคลื่อนเสียงย่านต่ำที่ทำงานร่วมกับไดอะเฟรมคอมโพสิตโพลีเมอร์ที่ให้เสียงโทนแหลม และยังมีตัวแปลงสัญญาณเสียง LDAC™ HD audio codec มีประสิทธิภาพรองรับเสียงได้ถึงระดับ Hi-res ที่ตอบสนองความถี่เสียงที่กว้างถึง 40,000 Hz และยังให้เสียงความละเอียดสูงแบบ Loseless HD
อีกทั้งยังรองรับการปรับแต่ง เอฟเฟ็กต์ multi-EQ เพื่อเล่นและส่งผ่านเสียง HD ด้วยการส่งผ่านที่รวดเร็วถึง 990 kbit / s เช่นเดียวกับเสียงสูงสุด 24-bit 96 kHz ด้วยเอฟเฟกต์ Multi-EQ คุณสามารถเลือกระหว่าง ค่าเริ่มต้น เพิ่มเสียงเบส และเพิ่มเสียงแหลม เพื่อสร้างประสบการณ์การฟังในแบบที่คุณต้องการ
นอกจากนี้ ใน HUAWEI FreeBuds 5i ยังมีเทคโนโลยี Active Ear Matching (AEM) กับอัลกอริธึมการปรับแต่ง EQ แบบคู่ที่เราสามารถ Calibrate โครงสร้างช่องหูและสถานะการสวมใส่เพื่อปรับเสียงให้เหมาะสมในทุกช่วงความถี่กับผู้ใช้งาน ทำให้ได้เสียงที่คมชัดและมิติที่เหมาะสมกับผู้ใช้แต่ละคน
การตัดเสียงรบกวน
HUAWEI FreeBuds 5i ใช้เทคโนโลยีในการตัดเสียงรบกวนแบบไฮบริด เป็นการทำงานร่วมกันผ่านไมโครโฟน 2 ตัวที่ติดตั้งไว้ด้านนอกและด้านในหู เพื่อทำการตรวจจับเสียงรบกวนรอบข้างจากภายนอก รวมกับเสียงที่อยู่ในช่องหู เพื่อใช้สร้างคลื่นเสียงตัดเสียงรบกวนได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ตามสเปคการทดสอบในห้องทดลอง ตัวระบบ ANC ของ HUAWEI FreeBuds 5i นั้นสามารถลดความดังของเสียงรบกวนรอบข้างได้มากถึง 42 เดซิเบล
โดยที่โหมด ANC ยังสามารถเลือกปรับระดับการตัดเสียงรอบข้างได้ถึง 3 ระดับคือ สูงเป็นพิเศษ (Ultra), ทั่วไป (General) และสบาย (Cozy) เพื่อให้สามารถลดเสียงรบกวนได้เหมาะสมกับสภาวะรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นบนท้องถนน, ชุมชน, ห้องสมุด หรือสำนักงาน
และยังมีโหมด Awareness ที่สั่งเปิดให้ผู้ใช้ได้ยินเสียงจากภายนอกได้โดยไม่ต้องถอดหูฟัง ทำให้บางครั้งที่ต้องสนทนากับผู้อื่อน หรือจำเป็นจะต้องได้ยินเสียงจากภายนอก สามารถทำได้โดยไม่ต้องหยิบหูฟังออก
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่ในตัวหูฟังเทียบกับรุ่นก่อนแล้ว HUAWEI FreeBuds 5i มีความจุเท่าเดิม แต่ระยะเวลาการใช้งานน้อยลงเล็กน้อย จากเดิมที่เล่นเพลงแบบเปิด ANC ได้ 7.5 ชั่วโมง ลดลงมาเหลือ 6 ชั่วโมง คาดว่าน่าจะเพราะเทคโนโลยีเรื่องเสียงที่เพิ่มขึ้นมาอย่าง LDAC และ ANC ที่ดีขึ้นเป็นตัวที่ใช้พลังงานมากขึ้นด้วยเช่นกัน
แต่สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือ แบตเตอรี่ของตัวเคสชาร์จมีความจุมากขึ้น ทำให้การใช้งานร่วมกันในการชาร์จเติมแบตเตอรี่แล้ว ได้มากขึ้น (รุ่นก่อนใช้งานรวม 22 ชั่วโมง แต่ HUAWEI FreeBuds 5i ได้ 28 ชั่วโมง แล้วยังมีระบบชาร์จเร็วที่เสียบเก็บหูฟังชาร์จไว้ในเคสแค่ 15 นาที ก็ได้พลังงานสำหรับใช้ฟังเพลงได้ถึง 4 ชั่วโมง
สรุป รีวิว HUAWEI FreeBuds 5i หลังทดสอบใช้งาน ดีแค่ไหน? คุ้มค่าหรือไม่? กับค่าตัว ราคา ไม่ถึง 3,000 บาท
ขอพูดถึงอย่างแรกเลยก็คือคาแรคเตอร์เสียง ถ้าดูกันที่สเปคตัวฮาร์ดแวร์แล้วถือว่าแทบจะไม่ต่างจากรุ่นก่อน แต่การที่เพิ่มรองรับ LDAC นั้น ทำให้เวลาใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ที่ส่งสัญญาณเสียงระดับสูงได้ ตัวเสียงมีมิติและคมชัดในรายละเอียดในย่านต่างๆ มากขึ้น
ในช่วงเสียงเบส ถือว่ากระชับชัดเจน แต่ว่าไม่ได้ลูกโตมากนัก เสียงร้องให้ความสดใสคมชัด ส่วนเสียงกลางแหลมก็ไม่ได้จี๊ดจ้าดมาก โดยรวมแล้วถือว่าเป็นเสียงแบบกลางๆ แต่ให้ความชัดเจนของเสียงแต่ละเครื่องดนตรีได้อย่างละเอียด เหมาะกับการฟังเพลงได้หลากหลายแนว ทั้ง POP, Rock, R&B หรือ Techno EDM ก็ให้อารมณ์ได้อย่างเพลิดเพลิน
การเชื่อมต่อเรื่องความหน่วงนั้นทำได้ดี ใช้ดูหนัง ดูซีรีย์ ดูคลิป YouTube เสียงไม่มีการดีเลย์ และถ้าต้องการใช้ในการเล่นเกมก็เลือกปรับความหน่วงพิเศษได้ แต่ว่าจะมีผลต่อแบตเตอรี่ที่จะหมดเร็วมากขึ้นด้วย
ปุ่มสัมผัสเพื่อควบคุม ถือว่าออกแบบมาได้ดี ที่ให้ใช้เป็นการแตะ 2 ครั้งหรือแตะค้าง เพราะส่วนตัวเคยเจอปัญหากับบางรุ่นที่แตะทีเดียวแล้วก็สั่งงานเลย บางครั้งที่เผลอนิ้วไปแตะ ก็กลายเป็นสั่นสั่งให้เล่นหรือหยุดเพลงไปโดยไม่ได้ตั้งใจ แล้วในรุ่นนี้มีเพิ่มแตะเลื่อนเพื่อปรับเพิ่มลดเสียงมาได้ด้วย ก็ช่วยให้ใช้งานในการควบคุมได้ดียิ่งขึ้น
เรื่องของแบตเตอรี่ ถึงแม้จะใช้งานต่อเนื่องน้อยลงกว่ารุ่นก่อน แต่ก็ได้เคสที่ชาร์จได้มากขึ้น และมีชาร์จเร็วมาทดแทน และมีจุดสังเกตว่าในรุ่นนี้ตัวเคสชาร์จนั้นการชาร์จจะใช้วิธีชาร์จผ่านสายเพียงอย่างเดียว ยังไม่รองรับการชาร์จแบบไร้สาย
โดยรวมแล้วถือว่า HUAWEI FreeBuds 5i คุ้มค่ากับราคาไม่เกิน 3,000 บาท เพราะมีฟีเจอร์ที่หาไม่ได้จากหูฟังแบรนด์อื่นในระดับราคาเท่านี้ อย่างการตัดเสียงรบกวน ANC และระบบเสียง LDAC แถมยังใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ทุกระบบปฏิบัติการแบบไม่แบ่งค่าย ใครอยากได้หูฟังไร้สายมีตัดเสียงรบกวนในราคาสุดคุ้ม เราแนะนำเลยกับรุ่นนี้
ล้ำหน้า CHOICE
สำหรับการ รีวิว HUAWEI FreeBuds 5i ทางทีมงานล้ำหน้าฯ เรายกจุดเด่นให้เรื่องของ ประสิทธิภาพ และ ความคุ้มค่า
Best Performance
ในเรื่องประสิทธิภาพของเสียง ถือว่าเป็นหูฟังไร้สายที่ให้เสียงดีในระดับกลาง ไม่โดดเด่นทางใดทางหนึ่ง ซึ่งทำให้การใช้งานฟังเพลงทั่วไป หรือการเล่นเกมอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจ โดยสามารถปรับ EQ เพิ่มตามสไตล์ที่ชอบเองได้ รวมทั้งยังมี ANC ในการตัดเสียงรบกวนที่ทำได้ดี ไมโครโฟนสนทนาให้เสียงคมชัด และแบตเตอรี่ที่ใช้งานต่อเนื่องได้นาน
Best Value
ต้องยอมรับเลยว่า หลายฟีเจอร์ที่อยู่ใน HUAWEI FreeBuds 5i นั้นเป็นฟีเจอร์ที่ใส่ให้ในหูฟังรุ่นเรือธง ไม่ว่าจะเป็นการตัดเสียงรบกวน, การปรับควบคุมเสียงแบบสัมผัสที่ตัวหูฟัง และรองรับ LDAC ฯลฯ เรียกได้ว่าครบถ้วนมากๆ ใน ราคา เปิดตัว 2,799 บาท เท่ากับรุ่นก่อน เรียกได้ว่าเป็นหูฟังที่คุ้มค่ากับราคามากๆ
ราคา และ โปรโมชัน HUAWEI FreeBuds 5i
HUAWEI FreeBuds 5i พิเศษ สั่งซื้อที่ Lazada https://bit.ly/3YIyRnt ลดราคาเหลือเพียง 1,418 บาท จากราคาปกติ 2,799 บาท เมื่อสั่งซื้อตั้งแต่วันที่ 3 มีนาคม 2566 ถึง 19 มีนาคม 2566
- สำหรับลูกค้าท่านแรกที่สั่งซื้อที่ร้านค้าอย่างเป็นทางการของหัวเว่ยบน Lazada รับฟรี HUAWEI Band 4 มูลค่า 999 บาท พร้อมทั้งรับกระเป๋า Canvas Bag มูลค่า 790 บาท และ Stainless Steel Thermos มูลค่า 590 บาท รวมมูลค่า 2,379 บาท
- สำหรับลูกค้าลำดับที่ 100 ท่านแรก รับฟรี กระเป๋า Canvas Bag มูลค่า 790 บาท และ Stainless Steel Thermos มูลค่า 590 บาท
รีวิว
โดย
TechOffside
วันที่
สินค้า
HUAWEI FreeBuds 5i
คะแนน
สินค้า
HUAWEI FreeBuds 5i
ราคา
THB 2799
