LINE THAILAND BUSINESS 2022 สัมมนาธุรกิจ เสริมศักยภาพไทย ฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจโลก

LINE THAILAND BUSINESS 2022 งาน สัมมนาธุรกิจ เสริมแกร่งความรู้ติดอาวุธให้ผู้ประกอบการไทย เติบโตฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจโลก

LINE-BUSINESS-จัดงาน-สัมมนาธุรกิจ

LINE ประเทศไทย จัดงาน LINE THAILAND BUSINESS 2022 สัมมนาธุรกิจ ครั้งใหญ่แห่งปี ครั้งแรกของการกลับมาสำหรับงานอีเวนท์ใหญ่ในรูปแบบออฟไลน์จาก LINE for Business ที่ได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจและธุรกิจ ร่วมเปิดแนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2023 ท่ามกลางกระแสเศรษฐกิจโลกหดตัว วิเคราะห์พฤติกรรมการจับจ่ายของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงในช่วงวิกฤตใหม่ โดยเน้นย้ำความเชื่อมั่นในศักยภาพธุรกิจไทย พร้อมชี้แนะการใช้เทคโนโลยีภายใต้หลักเข้าใจลูกค้า (Customer-Centricity) คือแรงขับเคลื่อนสำคัญเพื่อการเติบโต

นายนรสิทธิ์ สิทธิเวชวิจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ LINE ประเทศไทย กล่าวว่า วันนี้วิกฤตโรคระบาดได้ผ่านไปแล้ว ภาคธุรกิจไทยได้มีการปรับตัวมากมายให้สามารถอยู่รอดและเติบโตมาได้อย่างต่อเนื่อง แต่ความท้าทายยังไม่หมดไป วิกฤตเศรษฐกิจรอบใหม่กำลังก่อตัวขึ้นอีกครั้งและถือเป็นครั้งใหญ่ เราเห็นถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจไทย LINE ในฐานะผู้นำแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อธุรกิจของคนไทย จึงได้จัดงาน LINE THAILAND BUSINESS 2022 ภายใต้แนวคิด Navigating through the Turbulence with Customer-Centricity ทำอย่างไรให้ธุรกิจไทย เติบโตสวนกระแสเศรษฐกิจโลก ชวนผู้เชี่ยวชาญมาร่วมอัปเดตสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น พร้อมชี้แนะแนวทางการปรับตัวเพื่อให้อยู่รอดและเติบโตได้แบบสวนกระแส โดยครั้งนี้เป็นการจัดงานใหญ่ประจำปีแบบออฟไลน์ครั้งแรกในรอบ 2 ปี มีภาคธุรกิจรวมถึงแบรนด์ชั้นนำของไทยให้ความสนใจร่วมงานเป็นจำนวนมากกว่า 250 คน และคาดว่าจะมีบุคคลทั่วไปรับชมแบบออนไลน์กว่าแสนคน

“บรรยากาศอึมครึมทางเศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้น เป็นผลกระทบต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงโควิด-19 และความขัดแย้งในเวทีโลก นำมาสู่ข้อสงสัยและความกังวลว่า ประเทศไทยจะข้ามผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้หรือไม่ ท่ามกลางปัจจัยลบมากมาย หากแต่ในความเป็นจริงสะท้อนให้เห็นว่า คนไทยปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว มีดัชนีชี้วัดหลายตัวที่สะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยยังคงเติบโตต่อเนื่องแม้ในช่วงวิกฤต และกำลังเดินหน้าเข้าสู่การเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ดัชนีการพัฒนามนุษย์ หรือ HDI (Human Development Index) ที่จัดลำดับการพัฒนามนุษย์ในแต่ละประเทศ ซึ่งประเทศไทยได้รับการจัดอันดับจากโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ให้เป็นประเทศที่มีดัชนีการพัฒนามนุษย์สูง (ค่าดัชนีสูงกว่า 0.8) เทียบเท่าประเทศพัฒนาแล้วอื่น ๆ นอกจากนั้น อัตรารายได้ต่อหัวของไทยยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และกลับมาเติบโตได้อีกครั้งในปีที่แล้วแม้เรายังไม่ได้เปิดประเทศ เป็นข้อพิสูจน์ว่าเราได้ก้าวข้ามวิกฤตและสามารถเติบโตต่อไปได้ แม้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวซึ่งเป็นปัจจัยหลักยังไม่ได้กลับมาฟื้นตัวเต็มกำลัง จนปัจจุบัน ประเทศไทยมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวต่อปี (Income per capita) ใกล้แตะ 22,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 800,000 บาท ซึ่งเป็นค่ารายได้เฉลี่ยต่อหัวของประเทศพัฒนาแล้วเช่นกัน ขณะเดียวกัน เมื่อมองในด้านของศักยภาพการแข่งขัน LINE เห็นถึงการปรับตัวอย่างรวดเร็วของผู้ประกอบการไทยขนาดใหญ่ SME และรัฐวิสาหกิจ โดยเฉพาะการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเสริมประสิทธิภาพธุรกิจ และการเข้าถึงประชาชนทั่วประเทศในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนที่ใดในโลก เราจึงเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ด้วยศักยภาพที่มีอยู่อย่างมากมาย ประเทศไทยจะสามารถก้าวข้ามผ่านอุปสรรคครั้งใหญ่ได้ และเติบโตต่อได้อย่างแข็งแกร่ง โดย LINE มุ่งให้การสนับสนุนด้วยโซลูชันทางธุรกิจที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องจากอินไซต์ความต้องการของคนไทย โดยผู้พัฒนาไทย ที่เข้าใจผู้ใช้งานคนไทยอย่างแท้จริง”

นรสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติม

ด้าน ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษาสถาบันวิจัยกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร หนึ่งในวิทยากรในงาน LINE THAILAND BUSINESS 2022 ได้อัปเดตถึงสถานการณ์เศรษฐกิจโลกว่า ยังเป็นสถานการณ์ที่ต้องจับตามอง ทั้งเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาที่ยังควบคุมเงินเฟ้อไม่ได้ จึงต้องมีการเร่งการเพิ่มอัตราดอกเบี้ย เศรษฐกิจของฝั่งประเทศยุโรป ที่ต้องเผชิญกับความยากลำบาก จากเงินเฟ้อพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ เศรษฐกิจถดถอย ในขณะที่เศรษฐกิจจีนได้รับผลกระทบอย่างมากจากมาตรการ Zero COVID ปัญหาในภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การกีดกันด้านเทคโนโลยีจากสหรัฐ และการเดินหน้าเข้าสู่สังคมสูงวัย ไม่ช้าก็เร็ว สิ่งที่เกิดขึ้นทั่วโลกดังกล่าวนี้จะมีผลกระทบต่อประเทศไทย ซึ่งเริ่มเห็นสัญญาณจากอัตราเงินเฟ้อเริ่มปรับตัวสูงขึ้น หากแต่ยังมีปัจจัยบวกเข้ามาเกื้อหนุน อาทิ การกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ ธุรกิจภาคบริการที่เริ่มฟื้นตัวจากนักท่องเที่ยวที่เริ่มกลับเข้ามา อย่างไรก็ตาม ธุรกิจยังต้องจับตามองสถานการณ์รอบตัวอย่างใกล้ชิด เพราะยังมีเรื่องน่ากังวล ไม่ว่าจะเป็นการปรับเพิ่มของต้นทุน ค่าจ้าง และราคาสินค้า ที่เกิดจากภาวะเงินเฟ้อ ผู้ประกอบการไทยต้องตั้งรับและปรับตัวให้ทัน ขณะเดียวกันต้องมองหาโอกาสใหม่ ๆ ในการเติบโต และต้องใช้นวัตกรรมในการขับเคลื่อนธุรกิจ

ในขณะที่ แมคคินซี่ แอนด์ คอมพานี บริษัทที่ปรึกษาธุรกิจระดับโลก ได้ส่งผู้เชี่ยวชาญร่วมแบ่งปันข้อมูลในงานนี้ด้วย โดย มร. อเล็กซานเดอร์ โกรมอฟ และ ดาลัด ตันติประสงค์ชัย พาร์ทเนอร์ แมคคินซี่ แอนด์ คอมพานี เปิดเผยว่า เราทุกคนกำลังอยู่ในยุคแห่งความไม่แน่นอน โลกมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงและรวดเร็ว ทั้งในเรื่องการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ เงินทุนสำรอง การใช้จ่าย และการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศที่ทำให้เกิดภัยภิบัติ นำมาซึ่งทั้งโอกาสและความท้าทายแก่ธุรกิจ โดยเฉพาะประเทศในเอเชียที่กำลังเดินมาถึงจุดเปลี่ยนที่สำคัญ กลายเป็นกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพสูงของโลก อีกทั้งในแต่ละประเทศยังสามารถส่งเสริมและเติมเต็มความได้เปรียบของกันและกันได้เป็นอย่างดี และในทศวรรษที่ผ่านมา เราได้เห็นการเติบโตเชิงเทคโนโลยีในกลุ่มประเทศเอเชียเป็นอย่างมาก ทั้งในเชิงรายได้ของบริษัทเกี่ยวกับเทคโนโลยี การลงทุนในการวิจัยและพัฒนา ไปจนถึงสินทรัพย์ทางปัญญาในโลกเทคโนโลยีที่เติบโตกว่า 87% เหล่านี้นำไปสู่รายได้ประชากรและกำลังซื้อในการบริโภคเพิ่มขึ้นอย่างมาก สำหรับประเทศไทย ก็เช่นกัน มีกำลังซื้อกลุ่มใหม่ ๆ เกิดขึ้นและคาดการณ์ว่าในอีก 10 ปี ข้างหน้าจะมีมูลค่าการบริโภคถึง 4 แสนล้านเหรียญต่อปี

มูลค่าการใช้จ่ายจะเติบโตมากถึง 90% ภายในปี 2030 จากข้อมูลเหล่านี้ เห็นได้ชัดว่า เอเชียจะเป็นภูมิภาคแห่งการเติบโตทั้งในด้านความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและเศรษฐกิจในยุคหลังโควิดนี้ ธุรกิจไทยต้องใช้โอกาสนี้ เตรียมตัวให้พร้อม ใช้เทคโนโลยีให้เป็น เพื่อเดินหน้าธุรกิจพร้อมรับการเติบโตกำลังเกิดขึ้น

ผู้สนใจงาน LINE THAILAND BUSINESS 2022 สามารถติดตามข่าวสารและรับชมงานย้อนหลังได้ทาง FB Fanpage: LINE for Business และทาง YT: LINE for Business ได้เร็ว ๆ นี้