EventX

EventX ผนึก HTC VIVE ระดมทุน 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สร้างนิยามการจัดงานรูปแบบเสมือนจริง

EventX ระดมทุน 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เดินหน้าผนึกพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับ HTC VIVE สร้างนิยามใหม่ให้กับประสบการณ์การจัดงานรูปแบบเสมือนจริง

EventX แพลตฟอร์มการจัดงานอีเวนต์รูปแบบเสมือนจริงชั้นนำของเอเชีย ได้ปิดการระดมเงินทุนระดับ series B มูลค่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นำโดย HTC บริษัทชั้นนำด้าน Virtual Reality (VR) และ Gaocheng Capital กองทุนไพรเวทอิควิตี้ชั้นนำของจีน ที่ให้ความสำคัญกับภาคธุรกิจการให้บริการด้านซอฟต์แวร์สำหรับองค์กร และภาคบริการด้านเทคโนโลยีต่างๆ ด้วยความสามารถเฉพาะตัวของ EventX ในการสนับสนุนงานอีเวนต์ต่างๆ ในประเทศจีน และการจัดงานข้ามพรมแดนกับจีนแผ่นดินใหญ่ ส่งผลให้บริษัทได้ร่วมงานกับบรรดาผู้ให้บริการและแบรนด์จัดงานอีเวนต์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในอุตสาหกรรมอีเวนต์ทั่วโลก ได้แก่ PwC, GL Events, Informa, Reed Exhibition, Yahoo รวมไปถึงหน่วยงานราชการ และมหาวิทยาลัยต่างๆ เป็นต้น

EventX คือผู้นำด้านแพลตฟอร์มการจัดงานอีเวนต์รูปแบบเสมือนจริงชั้นนำของเอเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับจีนแผ่นดินใหญ่ ที่มีสถาปัตยกรรมการออกแบบที่ไม่เหมือนใคร และสามารถเอาชนะไฟร์วอลล์ของอินเตอร์เน็ตเพื่อให้บริการจัดงานอีเวนต์แบบข้ามภูมิภาคได้สำเร็จ ในขณะเดียวกัน HTC VIVE เองก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากด้วยความก้าวหน้าล่าสุดในการวิจัยและพัฒนาเทคโนยี VR ด้วยเหตุนี้ การผนึกความรู้และความสามารถของผู้บุกเบิกแพลตฟอร์มดิจิทัลทั้งสอง จะนำมาซึ่งประสบการณ์การใช้งานที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัวผ่านพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ครั้งนี้ ทั้งการก่อตั้งพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ดังกล่าวและความกระตือรือร้นอย่างมากของนักลงทุนนั้นเพิ่มขึ้นมาจากปีแห่งความสำเร็จของ EventX ซึ่งเป็นช่วงปีที่บริษัทได้มีการเติบโตของผู้ใช้เพิ่มมากขึ้นกว่า 800% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า บวกกับจำนวนผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 5 ล้านคนในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ผ่านกิจกรรมมากกว่า 20,000 อีเวนต์ ที่จัดขึ้นทั้งแบบออนไลน์ แบบไฮบริด และแบบออฟไลน์

นาย จิง ฮง ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Gaocheng Capital กล่าวว่า “Gaocheng มีความมุ่งมั่นในการสนับสนุนโซลูชันการให้บริการในด้านซอฟต์แวร์ (Software-as-a-Service: SaaS) เจเนอเรชั่นใหม่ และนำโซลูชันเหล่านี้ไปสู่การเติบโตในอีกขั้นที่เหนือกว่า เรามีความประทับใจเป็นอย่างยิ่งกับการนำเสนอผลิตภัณฑ์นวัตกรรมใหม่ รวมไปถึงทีมผู้บริหารที่มีความสามารถและการเติบโตแบบไฮเปอร์ชาร์จของ EventX ในขณะที่การระบาดใหญ่ครั้งนี้ยังคงเป็นอุปสรรคต่อการจัดนิทรรศการและงานแสดงสินค้าแบบออฟไลน์ เทคโนโลยีเสมือนจริงแบบออนไลน์และแบบไฮบริดของ EventX จึงอยู่ในตำแหน่งที่ไม่เหมือนใคร เพื่อช่วยให้ธุรกิจในระดับต่างๆ สามารถดึงดูดลูกค้า และขยายการเชื่อมต่อทั้งในประเทศจีนและทั่วโลกได้ง่ายขึ้น”

นายซัม หว่อง ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ EventX

สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ลดการท่องเที่ยวและลดการเข้าไปอยู่ในสถานที่ที่มีคนพลุ่กพล่าน ซึ่งส่งผลกระทบร้ายแรงอย่างมากต่ออุตสาหกรรมการจัดอีเวนต์ ที่คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่ามากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด โดยการแพร่ระบาดครั้งนี้ได้เปลี่ยนโฉมรูปแบบการจัดงานอีเวนต์ไปอย่างถาวร และส่งผลให้นักลงทุนจำนวนมากหันมาลงทุนในซอฟต์แวร์สำหรับจัดงานอีเวนต์เสมือนจริงมากยิ่งขึ้น เปรียบเทียบได้จากบริษัท Hopin ในสหราชอาณาจักรที่ สามารถระดมเงินทุนได้มากถึง 565 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมีมูลค่าบริษัทสูงถึง 5.65 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯได้ภายในเวลาเพียง 2 ปี ถือเป็นสตาร์ตอัพที่เติบโตรวดเร็วที่สุดในยุโรปเท่าที่เคยมีมา

ข้อมูลจากสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.) พบว่า ในปีพ.ศ. 2561 ธุรกิจการประชุมองค์กร (Meetings) การประชุมนานาชาติ (Conventions) และการแสดงสินค้า (Exhibitions) ของประเทศไทย มีจำนวนผู้เข้าร่วมประมาณ 1.63 ล้านคน ทำรายได้ประมาณ 116.5 ล้านบาท ในขณะที่ปี พ.ศ. 2562 จำนวนผู้เข้าร่วมงานลดลงอย่างมากอยู่ที่ 0.9 ล้านคน (ลดลงประมาณ 45%) และทำรายได้ประมาณ 73.8 ล้านบาท โดยลดลงประมาณ 37% นอกจากนี้ ท่ามกลางสถานการณ์โควิด 19 ส่งผลให้กิจกรรมต่างๆ ในประเทศไทยถูก ‘ยกเลิก’ และ ‘เลื่อน’ อย่างไม่มีกำหนด การเพิ่มขึ้นของแนวโน้มการทำงานจากที่บ้านและกระแสโลกาภิวัตน์ของธุรกิจได้ผลักดันการเติบโตของตลาดงานอีเวนต์เสมือนจริงในประเทศไทย โดยขณะนี้ บริษัทผู้วางแผนกิจกรรมต่างๆ กำลังเปลี่ยนและมุ่งเน้นไปที่ประสบการณ์การจัดอีเวนต์แบบไฮบริด ซึ่งเป็นการควบรวมงานอีเวนต์เสมือนจริงอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

EventX ถือเป็นผู้ให้บริการด้านการจัดอีเวนต์ทั้งแบบเสมือนจริงและแบบผสมผสาน (Hybrid) ชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย ด้วยความสามารถในการเข้าถึงแบบพิเศษจากจีนร่วมกับเทคโนโลยีจาก HTC VIVE พวกเขาได้นำ VR  และเทคโนโลยีการหากลุ่มเป้าหมาย (prospecting technology) เข้ามารวมกันเป็นความสามารถหลักของผลิตภัณฑ์การให้บริการเข้าถึงงานอีเวนต์ผ่านซอฟแวร์หรือระบบ Cloud (Event SaaS) ซึ่งช่วยให้การเข้าถึงเป็นไปได้ง่ายขึ้น และยังเป็นการนิยามประสบการณ์งานอีเวนต์เสมือนจริงในรูปแบบใหม่อีกด้วย ในการทดลองใช้ VR และเทคโนโลยีการหากลุ่มเป้าหมายครั้งแรก ทาง EventX ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มจัดอีเวนต์เสมือนจริงแบบไลต์ (Lite) และเปิดให้องค์กรต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร สตาร์ตอัพ รวมไปถึงธุรกิจขนาดกลางไปจนถึงขนาดย่อยสมัครสมาชิกและทดลองใช้ฟรีได้ที่นี่

นาย โจเซฟ ลิน ประธานบริษัท VIVEPORT กล่าวว่า “เทคโนโลยี VR นั้นมีพลังในการเปลี่ยนแปลงโลกไปในทางที่ดีขึ้น และที่ HTC VIVE เรามุ่งมั่นในการสร้างสรรค์เครื่องมือต่างๆ เพื่อเร่งการนำ VR มาปรับใช้ โดยไม่เพียงแต่ใช้สำหรับอุปกรณ์ VR ของเราเท่านั้น แต่ยังรวมถึงคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน ช่วยให้อุปกรณ์ต่างๆ เหล่านี้สามารถโต้ตอบกันได้อย่างมีประสิทธิภาพเช่นกัน การเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับ EventX แสดงให้เห็นถึงความพยายามอย่างต่อเนื่องของ HTC VIVE ในการจัดหาเครื่องมือให้กับผู้คนและองค์กรต่างๆ เพื่อการพบปะสังสรรค์ และเรียนรู้เกี่ยวกับ VR และเทคโนโลยีอื่นๆ ของ HTC VIVE เพื่อช่วยให้ผู้คนได้ใกล้ชิดกันมากขึ้นอย่างไร้พรมแดน”

นายซัม หว่อง ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ EventX ได้ให้ความเห็นต่อการเป็นพันธมิตรครั้งนี้ว่า “เป็นที่แน่นอนว่า พื้นที่ทำงานและงานอีเวนต์เสมือนจริงกำลังจะกลายเป็นบรรทัดฐานใหม่ของโลกเรา การสร้างพันธมิตรในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะส่งผลให้เกิดการบูรณาการเชิงลึกระหว่างความเชี่ยวชาญของเรากับผลงานรูปแบบใหม่ของ HTC VIVE ในด้านเทคโนโลยี VR เท่านั้น แต่จะส่งผลให้ EventX สามารถยกระดับประสบการณ์ต่างๆ ของการจัดงานอีเวนต์เสมือนจริงและแบบไฮบริดให้ก้าวไปอีกขั้น ในแง่ของการมีส่วมร่วมเสมือนอยู่ในเหตุการณ์จริงๆ ในฐานะผู้นำในอุตสาหกรรมงานอีเวนต์ EventX จะยังคงมองหาความเป็นไปได้ใหม่ๆ ของเทคโนโลยีงานอีเวนต์ พร้อมทั้งเพิ่มความนิยมของแอปพลิเคชัน และสร้างความต้องการของผู้ใช้งานให้เพิ่มมากขึ้น”

กับผลิตภัณฑ์และวิศวกรรมศาสตร์ ที่จะนำไปสู่การฟื้นฟูอุตสาหกรรมอีเวนต์ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไว้รัสโควิด 19 ณ ปัจจุบัน โดยการฟื้นตัวในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะรักษาเสถียรภาพและเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่บริการงานด้านอีเวนต์เสมือนจริงที่มีอยู่แล้วเท่านั้น แต่ยังคงสร้างโอกาสใหม่ๆ สำหรับอุตสาหกรรมการตลาดและงานอีเวนต์อีกด้วย