รีวิว Fitbit Ace 3 ฟิตเนสแทร็คเกอร์ที่ออกแบบมาสำหรับเด็กโดยเฉพาะ เน้นกระตุ้นให้น้องหนูทำกิจกรรม และออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง มาพร้อมดีไซน์ที่เหมาะกับให้เด็กสวมใส่ พร้อมระบบเชื่อมต่อที่พ่อแม่สามารถติดตามกิจกรรมต่างๆ ของลูกได้ด้วย กับ ราคา 2,790 บาท
ฟิตบิท ถือว่าเป็นเจ้าแรกๆ ที่พัฒนาอุปกรณ์สวมใส่เพื่อสุขภาพอย่าง Fitness Tracker สำหรับให้เด็กใช้งานโดยเฉพาะ ออกแบบมาสำหรับให้กับเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 6-12 ปี
แกะกล่อง Fitbit Ace 3
ในแพ็กเกจจะมีของมาให้นอกจากตัวเครื่องพร้อมสายรัดแล้ว ก็จะมีตัวสายชาร์จแบบ USB และเอกสารคู่มือการใช้งานเบื้องต้นมาให้ด้วย โดยสีของตัว Fitbit Ace 3 นั้น จะมีให้เลือกทั้งหมด 2 สีด้วยกัน คือ สีม่วง/เขียว (Cosmic Blue / Astro Green) และตัวที่เรามา รีวิว กันนี้จะเป็นสีดำ/แดง (Black / Sport Red) และจะมีอีกสีเป็น Special Edition ที่เป็นสีเหลือง/น้ำเงิน และลวดลายของเจ้า Minions ตัวแสบ
สเปคหลักๆ นั้น ตัวหน้าจอจะแสดงผลสีเดียว ขาวดำ แบบ PMOLED ควบคุมได้ด้วยการสัมผัสหน้าจอ สายนาฬิกาจะมีเป็นขนาดเดียว ปรับได้ตั้งแต่ 4.8″ – 6.8″ ภายในมีตัวเซ็นเซอร์ Accelerometor แบบ 3 แกน เพื่อตรวจจับการเคลื่อนไหวได้ตลอดทั้งวัน โดยจะมีมอเตอร์ภายในตัวเพื่อใช้สั่นแจ้งเตือนที่ข้อมือ และที่ด้านหลังตัวเรือน จะมีเซ็นเซอร์สำหรับวัดอัตราการเต้นของหัวใจด้วย
ตัวเรือนจะกันน้ำ 5ATM สามารถสวมใส่เพื่อว่ายน้ำได้ แบตเตอรี่เมื่อชาร์จเต็ม จะสามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานสูงสุดถึง 8 วัน ใช้เวลาการชาร์จจาก 0-100% ภายใน 2 ชั่วโมง โดยการใช้งานจะเชื่อมต่อไร้สายแบบ Bluetooth กับสมาร์ทโฟน รองรับได้ ทั้ง iOS และ Android
ทำไมต้องมี Fitness Tracker สำหรับเด็ก?
หลายคนอาจจะสงสัยว่า อ้าว แล้ว Fitness Tracker สายรัดข้อมือที่มีทั่วไปในท้องตลาดจะให้เด็กๆ ใช้ไม่ได้เหรอ? เราคงต้องบอกว่าไม่เหมาะ เพราะว่าเด็กกับผู้ใหญ่ มีพฤติกรรมในแต่ละวันที่แตกต่างจากผู้ใหญ่ ทำให้แต่การเก็บข้อมูลและวิเคราะห์กิจกรรมสำหรับเด็กนั้นก็แตกต่างจากผู้ใหญ่ไปด้วยเช่นกัน ซึ่งเรื่องนี้ Fitbit คิดมาเรียบร้อย พร้อมทั้งออกแบบให้เหมาะกับเด็กมากที่สุด
ดีไซน์
ตัวเรือนจะเป็นสายซิลิโคนที่มีความนุ่มและยืดหยุ่น สวมใส่สบาย ขนาดของสายก็ถือว่ามีขนาดที่เล็กกว่าสายรัดข้อมือทั่วไปในท้องตลาด เพราะเด็กนั้นข้อมือนั้นเล็กมากๆ ตัวสายคล้องล็อคเป็นแบบนาฬิกา ที่ตัวเรือนจะเล่นสีตัดกัน 2 โทน คือตัวสายกับตัวสายล็อค สังเกตดีๆ จะเห็นว่าหน้าตาของมันจะมีความโค้งมน รวมถึงในส่วนของตัวเรือน สายที่เป็นซิลิโคนจะหุ้มเป็นเคสหนาขึ้นมา เพื่อช่วยในเรื่องของการกระแทก
ตัวเรือนที่เลือกใช้หน้าจอเป็น PMOLED สีดำ ช่วยทำให้ตัวเรือนที่มีขนาดเล็กสามารถใช้พลังงานน้อย ทำให้ใช้งานต่อเนื่องได้หลายๆ วัน รวมถึงตัวสายที่หุ้มป้องกันตัวเรือน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกระแทกหรือเสียหาย จากการที่เด็กๆ อาจจะไม่ระมัดระวังได้
การเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน
โดยปกติแล้ว อุปกรณ์สวมใส่นั้น จะต้องทำการเชื่อมต่อกับแอปในสมาร์ทโฟนเพื่อใช้ทำงานร่วมกัน แต่ว่าสำหรับเด็ก ที่เรายังไม่มีสมาร์ทโฟนให้เขาใช้เป็นของส่วนตัว เพราะยังไม่ถึงเวลาอันควร การจะเชื่อมต่อจึงต้องใช้เชื่อมกับสมาร์ทโฟนของคุณพ่อคุณแม่แทน ซึ่งถ้าหากผู้ปกครองเอง ก็มีอุปกรณ์สวมใส่อยู่แล้วเองด้วย จะมีของลูกมาเพิ่มอีกก็จะเริ่มมีความลำบาก และจะยุ่งยากขึ้นไปอีกถ้าหากว่ามีลูกมากกว่า 1 คน
สิ่งนี้ทาง Fitbit ได้คิดมาแล้ว จึงออกแบบให้ตัวFitbit Ace 3 นั้นเชื่อมต่อกับแอปในสมาร์ทโฟนในรูปแบบ Family Account โดยผู้ปกครองจะสามารถสร้างบัญชีผู้ใช้ให้กับลูกๆ ผูกไว้กับแอปในสมาร์ทโฟนของตัวเอง รวมไว้ได้หลายบัญชี เพื่อที่ว่าจะเอาไว้เชื่อมต่อเพื่อดูข้อมูลกิจกรรมของเด็กแต่ละคน
ซึ่งการใช้งาน คุณไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อFitbit Ace 3 กับสมาร์ทโฟนตลอดเวลา เพราะตัวมันมีหน่วยความจำสามารถเก็บข้อมูลกิจกรรม การเคลื่อนไหว แบบละเอียดไวได้ถึง 7 วัน และเก็บข้อมูลได้สูงสุดถึง 30 วัน โดยเมื่อทำการ Sync แล้ว ก็จะถูกนำไปแสดงเป็นสถิติในแอป Fitbit บนสมาร์ทโฟน
หรือถ้าผู้ปกครองเห็นเหมาะสมว่าลูกถึงวัยที่จะมีสมาร์ทโฟนแล้ว ก็สามารถเชื่อมต่อFitbit Ace 3 กับสมาร์ทโฟนของลูกเองก็ได้ แล้วสั่งล็อคให้เข้าถึงข้อมูลเท่าที่ต้องการ โดยที่ข้อมูลการเคลื่อนไหวจากFitbit Ace 3 ของลูก จะส่งมาที่ตัวแอปของพ่อแม่ เพื่อให้ตรวจเช็คกิจกรรมของเด็กๆ ได้ด้วย
เก็บข้อมูลกิจกรรม ตลอด 24 ชั่วโมง
เพราะในแต่วัน เด็กๆ ไม่ได้มีกิจกรรม หรือการออกกำลังกายเหมือนกับผู้ใหญ่Fitbit Ace 3 หลักๆ จึงจะเก็บแค่จำนวนก้าวเดินในแต่ละวัน กับ ช่วงเวลา+ระยะเวลาการนอนของเด็กเท่านั้น จะไม่ได้มีการบันทึกกิจกรรมเล่นกีฬา หรือการวัดค่าด้านสุขภาพชั้นสูงแบบอุปกรณ์สำหรับผู้ใหญ่
ฟีเจอร์สำคัญอื่นๆ ในFitbit Ace 3
- มีการสั่นเพื่อแจ้งเตือน ในเวลาที่เด็กๆ นั่งเฉยๆ เป็นเวลานานๆ เพื่อกระตุ้นให้เขาลุกขึ้นเดินเพื่อยืดเส้นยืดสาย พร้อมทั้งเตือนให้เดินได้จำนวนก้าวที่ตั้งเป้าเอาไว้
- ทำการจัด Challenge กันภายในครอบครัวที่ใช้อุปกรณ์ Fitbit ด้วยกัน เพื่อเป็นการแข่งขันและจูงใจให้เด็กทำกิจกรรม อย่างเช่น แข่งสะสมจำนวนก้าวเดิน และมีการให้รางวัลและ Badge เมื่อสามารถชนะการท้าทายต่างๆ
- ข้อมูลการนอน มีการสรุปทั้งระยะเวลาที่นอน และคุณภาพของการนอน พ่อแม่สามารถดูพฤติกรรมการนอนของเด็กได้ว่า นอนดึกเกินไปหรือไม่ และพักผ่อนเพียงพอหรือเปล่า
- มีการสั่นเพื่อแจ้งเตือนให้เด็กๆ ตื่นในตอนเช้า ในช่วงเวลาที่ดีที่สุดตามที่เรากำหนดเอาไว้
- ตัวเรือนกันน้ำมาตรฐาน 5ATM สามารถใส่เพื่อว่ายน้ำในสระได้อย่างไม่มีปัญหา
- หน้าจอจะมีกราฟฟิคตัวการ์ตูนน่ารักๆ ที่จะเปลี่ยนไปตามกิจกรรมของเด็ก
- กรณีเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนของเด็กเอง จะเลือกดูข้อมูลกิจกรรมแบบ Kid View ได้ รวมถึงใช้ฟีเจอร์รับการแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟนได้ด้วย
สรุปรีวิว
จะเห็นได้ว่า Fitbit Ace 3 นั้น ฟีเจอร์การใช้งานอาจจะไม่ได้มากหรือหลากหลายเมื่อเทียบกับ Fitness Tracker ทั่วๆ ไป แต่นั่นก็เป็นสิ่งที่ฟิตบิทคิดมาแล้วว่า ฟีเจอร์เพียงเท่านี้ก็เพียงพอและเหมาะสมสำหรับเด็กวัย 6-12 ปีแล้ว เพราะถ้าฟีเจอร์มากกว่านี้ ก็อาจจะกลายเป็นอุปกรณ์ที่จะมาเบี่ยงเบนหรือดึงความสนใจในแต่ละวันของเด็กมากจนเกินไป ซึ่งอาจจะกระทบกับพัฒนาการที่เหมาะสมของเด็กได้
การทำงานควบคุมบัญชีแบบ Family ที่ช่วยให้ผู้ปกครองติดตามผลกิจกรรมของลูกๆ ได้ ให้คุณรู้ว่าลูกของคุณนั้นในแต่ละวันอยู่แต่ในบ้านเฉยๆ ไม่ออกไปเดินไปวิ่งเล่น หรือว่านอนดึกเกินไป นอนพักผ่อนไม่เพียงพอ ข้อมูลที่ได้จาก Fitbit Ace 3 จะเป็นสถิติที่ให้เราเอามาวิเคราะห์และดูแลสุขภาพของเด็กได้ดียิ่งขึ้น
Fitbit Ace 3 ถือว่าเป็นอีกอุปกรณ์ที่จะมาช่วยให้เด็กๆ ในช่วงสถานการณ์ที่ต้องอยู่บ้าน กิจกรรมวิ่งเล่นน้อยลง ก็จะช่วยให้ผู้ปกครองเอาไว้ใช้งานกระตุ้นให้เด็กๆ แอคทีฟมากขึ้น ถ้ามีเด็กวัยเดียวกัน เราก็ใช้สร้างกิจกรรมท้าทายให้พวกเขาได้แข่งขันกันได้อีกด้วย ตอนนี้มีวางจำหน่ายแล้ว ราคา 2,790 บาท หาซื้อได้แล้วที่ตัวแทนจำหน่าย หรือทางออนไลน์ Shopee, Lazada และ JD Central
