เป็นเวลาเกือบ 1 ปีแล้วที่ Microsoft ยุติการซัพพอร์ตเพิ่มเติมสำหรับระบบปฏิบัติการ Windows 7 ยกเว้นแต่ว่าองค์กรนั้นๆ เต็มใจที่จะจ่ายเงินสำหรับ ESU หรือ อัปเดตระบบความปลอดภัยเพิ่มเติม (extended security updates)
ถึงแม้ Microsoft จะออกมาเตือนผู้คนอยู่บ่อยๆ เรื่องให้อัพเกรดไปใช้งานระบบปฏิบัติการตัวใหม่ เพื่อที่จะได้รับการสนับสนุนเรื่องความปลอดภัยระบบจาก Microsoft อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องจ่ายเงินราคาสูงๆ เพื่อรับการดูแลพิเศษเพิ่มเติม แต่ล่าสุดดูเหมือนว่า จะยังมี คอมพิวเตอร์พีซี อย่างน้อย 100 ล้านเครื่องที่ยังคงใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 7 อยู่
ในวันที่ 14 มกราคม 2020 ที่ผ่านมา เป็นวันสิ้นสุดระยะเวลาการซัพพอร์ตระบบปฏิบัติการ Windows 7 ที่ถูกขยายเพิ่มออกมา หลังจากวันนั้น มีเพียงลูกค้าธุรกิจและลูกค้าการศึกษาที่เต็มใจจ่ายเงินในราคาสูงเท่านั้นจึงจะได้รับ ESU
เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมายังพบว่า มีการใช้งานระบบปฏิบัติการ Windows 7 เกือบ 1 ใน 4 ของอุปกรณ์ทั้งหมด และเมื่อใกล้ถึงวันครบรอบปีแรก จำนวนผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการตัวเก่าดูจะไม่ได้ลดลงอย่างที่คาดหวังเอาไว้เลย
ข้อมูลสถิติจาก StatCounter Global Stats พบว่าระบบปฏิบัติการ Windows 7 ยังคงมีส่วนแบ่งตลาดถึง 17.6% ในเดือนพฤศจิกายน 2020 ซึ่งมียอดเพิ่มมาประมาณ 1% จากเดือนตุลาคม ในขณะที่ Windows 10 เป็นระบบปฏิบัติการที่ใช้งานมากที่สุดที่ 75%
สอดคล้องกับข้อมูลของ NetMarketShare ที่เดือนตุลาคม 2020 นั้น Windows 7 มีส่วนแบ่งอยู่ที่ 21% ในขณะที่ Windows 10 นั้นมีส่วนแบ่งสูงสุดที่ 74%
มีผลสำรวจโดยการสอบถามข้อมูลไปยังเหล่าเกมเมอร์ พบว่า เกมเมอร์นั้นจะชอบ Windows เวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดมากกว่า จากการสำรวจจาก Steam พบว่ามีผู้ใช้งานกว่า 89% ที่ใช้งาน Windows 10 และมีเพียง 5% เท่านั้นที่ใช้ Windows 7
Ed Bott จาก The Bott Report เขียนว่าโครงการ Digital Analytics ของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งรายงานผู้เข้าชมเว็บไซต์ทั้งหมดในสหรัฐฯในช่วง 90 วันที่ผ่านมา พบว่า 18.9% อยู่บน Windows 7 และ 75.8% ที่ใช้งาน Windows 10 โดยทาง Microsoft ระบุว่าระบบปฏิบัติการ Windows มีฐานผู้ใช้งานกว่า 1.5 พันล้านเครื่อง และจากเปอร์เซ็นต์ที่ได้ พบว่ามีผู้ใช้งานอย่างน้อย 100 ล้านเครื่องที่ยังคงใช้งาน Windows 7 อยู่
เดือนหน้า เราคงจะได้เห็นราคา ESU ที่สูงขึ้น โดยผู้ใช้งาน Windows 7 Enterprise จะเริ่มจ่าย 50 ดอลลาร์ หรือประมาณ 1,500 บาทต่อเครื่อง ในขณะที่ Windows 7 Pro จะสูงถึง 100 ดอลลาร์ หรือประมาณ 3,000 บาทต่อเครื่อง ดูจากราคา ESU ที่เพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า คาดว่าหลายองค์กรที่ยังคงใช้งาน Windows 7 อยู่ น่าจะเร่งผลักดันเพื่อเปลี่ยนแปลงไปใช้เวอร์ชั่นใหม่แทน
ที่มา : TECHSPOT
