Microsoft RISE

Microsoft และ RISE ประกาศรายชื่อผู้ชนะจาก Hack the Future Business Rebound

Microsoft และ RISE มอบรางวัลชนะเลิศในโครงการ “Hack the Future: Business Rebound Edition” ซึ่งเป็นการผนึกกำลังนักคิดและนักพัฒนาให้มาร่วมกันสร้างสรรค์แนวคิดและโซลูชั่นใหม่ ๆ จากเทคโนโลยี เพื่อให้ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเอาชนะความท้าทายจากโรคโควิด-19 และตอบรับวิถีชีวิตใหม่จากแพลตฟอร์มคลาวด์ Microsoft Azure

หลังจากการแข่งขันในรอบสุดท้ายที่ขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดในช่วงปลายเดือนสิงหาคม คณะกรรมการผู้ตัดสิน ซึ่งนำโดย ริคกี้ คาปูร์ รองประธานฝ่ายขาย การตลาดและปฏิบัติการของ Microsoft เอเชียแปซิฟิก ได้ตัดสินใจเลือกทีมผู้ชนะทั้งสิ้น 3 ทีม พร้อมมอบรางวัลพิเศษให้อีก 1 ทีม จากทั้งหมด 8 ทีมที่เข้าชิงชัยในโค้งสุดท้าย ได้แก่:

  • Alto Tech: โซลูชัน IoT และคอมพิวเตอร์วิชั่นที่จัดการการใช้พลังงานภายในอาคารโดยอัตโนมัติ โดยพิจารณาจากการใช้งานจริง สามารถรับรู้ได้ว่าห้องใดมีคนใช้งานอยู่หรือไม่ โดยไม่รบกวนความเป็นส่วนตัวของแขกที่มาพัก และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเพียงเล็กน้อยในส่วนของเจ้าของอาคาร
  • Bizcuit: ระบบอัตโนมัติสำหรับการเปิดรับเสียงตอบรับจากลูกค้า ที่นำศักยภาพของ AI มาวิเคราะห์ข้อมูลและให้คำแนะนำได้แบบเรียลไทม์
  • Vii Vision Intelligence: บริการที่นำ AI มาสนับสนุนการทำงานของพนักงานในการดูแลและประสานงานกับลูกค้า โดยช่วยให้ธุรกิจลดภาระด้านกำลังคนและต้นทุนในการให้บริการ
  • Vulcan (รางวัลพิเศษสำหรับการส่งเสริมความเท่าเทียมกันในสังคม): โซลูชันฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้พิการสามารถตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย อาการป่วย และเช็คอินเมื่อเข้าสู่สถานที่หรืออาคารได้โดยอัตโนมัติ ทั้งยังสามารถใช้กล้องตรวจสอบว่าแต่ละคนใส่หน้ากากอยู่หรือไม่ โดยระบบ AI ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดนี้ ผ่านการฝึกโดยทีมงานที่ประกอบไปด้วยผู้ที่ความบกพร่องทางการได้ยิน

ทีมผู้ชนะทุกทีมจะได้รับโอกาสให้ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับไมโครซอฟท์ในการพัฒนาและนำโซลูชั่นเหล่านี้ออกสู่ตลาดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก นอกจากนี้ ทั้ง 4 ทีมยังได้รับเลือกให้เข้าร่วมโครงการ Microsoft for Startups พร้อมคว้ารางวัลพิเศษสุด เครดิตการใช้งานคลาวด์ Azure มูลค่ารวมสูงสุดกว่า 3 ล้านบาทเพื่อสนับสนุนการพัฒนาโซลูชันอย่างต่อเนื่องในทันที

“ทีมที่ได้เลือกให้เป็นผู้ชนะทั้งสามทีม รวมถึงทีมเจ้าของรางวัลพิเศษด้านความเท่าเทียม ล้วนแสดงให้เห็นถึงความเข้าใจที่ลึกซึ้งในปัญหาที่ธุรกิจต่าง ๆ และลูกค้าของพวกเขากำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน และเราก็พร้อมที่จะร่วมทางกับพวกเขาเพื่อพิสูจน์ว่าแนวคิดและผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะสามารถพาธุรกิจและผู้ประกอบการทั่วภูมิภาคไปได้ไกลขนาดไหน” นายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว 

โครงการนี้จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน ถึง 27 สิงหาคม โดยมีทีมเข้าร่วมแข่งขันรวมทั้งสิ้น 14 ทีม แต่ละทีมที่เข้าร่วมจะต้องมีสมาชิกในทีม 3-5 คน ผนึกกำลังร่วมมือกันในการหาโซลูชันเพื่อแก้ปัญหาให้กับธุรกิจ จากโจทย์ที่ผู้ประกอบการต้องเผชิญในสถานการณ์จริง โดยแบ่งโจทย์ออกเป็น 3 ประเด็นใหญ่ ๆ ได้แก่

  • การจัดสรรทรัพยากรและการจัดการการดำเนินงาน (Resource & Operation Management): สนับสนุนให้ผู้ประกอบการจัดการทรัพยากรได้ดีขึ้น เพื่อการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วเมื่อสถานการณ์ของโรคโควิด-19 คลี่คลายลง
  • วิถีการทำงานยุคใหม่โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วย (Digitalization/New Way of Work): การเสริมประสิทธิภาพให้กับพนักงานขององค์กรระดับ SMB และพนักงานระดับปฏิบัติการส่วนหน้า
  • การสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า (New Experience for Customer): สร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่และมอบมูลค่าเพิ่มให้กับลูกค้าของธุรกิจ SMB เพื่อก่อให้เกิดความได้เปรียบทางการแข่งขัน

แต่ละทีมสามารถเลือกคิดค้นโซลูชั่นสำหรับธุรกิจหลายรูปแบบ โดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เช่น ภาคการผลิต และกลุ่มธุรกิจที่ใช้งานโซลูชั่น IoT (Internet of Things) ต่าง ๆ อุตสาหกรรมค้าปลีก บริการ ร้านอาหาร บริการทางการแพทย์ และการท่องเที่ยว โดยเกณฑ์ในการตัดสินประกอบไปด้วยปัจจัย 4 ประการ ได้แก่ การระบุปัญหาและกำหนดลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย (30%) นวัตกรรมการแก้ปัญหาและการใช้งานจริง (30%) ผลกระทบที่มีต่อธุรกิจ (20%) และความเป็นไปได้ในการนำไปใช้ (20%)

นายธนวัฒน์กล่าวเสริมอีกว่า “ทุกทีมในการแข่งขัน “Hack the Future: Business Rebound Edition” ต่างมุ่งเป้าไปที่การแก้ไขปัญหาที่ธุรกิจล้วนเผชิญอยู่ในขณะนี้ และเราก็หวังว่าพวกเขาจะได้ก้าวต่อไปกับแนวคิดของตนเอง เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีต่อไปในภาคธุรกิจไทย ผมขอแสดงความยินดีกับทั้ง 4 ทีมที่ได้รับรางวัลจากผลงานที่โดดเด่นของพวกเขา และพวกเราทุกคนที่ไมโครซอฟท์ก็จะตั้งตารอวันที่โซลูชันของพวกเขาออกสู่ตลาดเพื่อพลิกการทำงานของธุรกิจในอนาคตอันใกล้นี้”