Preview OPPO Reno 10x Zoom

Preview OPPO Reno 10x Zoom ดีไซน์สุดล้ำ ประสิทธิภาพสุดขีด

เปิดตัวในไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทีมงานล้ำหน้าโชว์ จะมาแกะกล่อง Preview OPPO Reno 10x Zoom สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จากออปโป้ ที่พลิกโฉมใหม่หมดกับดีไซน์ ที่สวยงามรอบด้านอย่างลงตัว พร้อมนวัตกรรมใหม่ ที่เร็วแรงแบบสุดๆ

ต้องนับว่า OPPO Reno ถือเป็นซีรี่ย์ตระกูลใหม่ล่าสุดจากออปโป้ ที่จัดเต็มมาให้แบบใหม่หมด ตั้งแต่การดีไซน์ภายนอกที่สวยงาม เริ่มตั้งแต่ตัวกล่องแพ็กเกจกันเลย จากเดิมที่เราคุ้นตากับกล่องเครื่องออปโป้ที่เป็นสีขาวๆ แต่กล่องของ OPPO Reno นั้น มีดีไซน์ที่ต่างไปจากเดิม ด้วยรูปทรงที่ยาวกว่าปกติ เป็นสีเงินแพลทตินั่ม พร้อมเงาเหลือบ เป็นสัญลักษณ์กล้องด้านหลัง และข้อความ OPPO Reno 10x Zoom เรียกว่าแค่กล่องก็ดูพรีเมี่ยมแล้ว

เปิดกล่องเข้ามาด้านในจะมีตัวกระดาษซองใส่คู่มือการใช้งานเบื้องต้น ปิดทับตัวเครื่องเอาไว้ เปิดเข้าไปดูด้านล่างก็จะมีบรรดาอุปกรณ์เสริมที่จัดเรียงมาได้ประหยัดพื้นที่มากๆ เริ่มด้วยตัวเคสฝาหลัง ที่ออกแบบพื้นผิวให้มีสัมผัสจับถนัดมือ มีสายชาร์จ + data แบบ USB-C พร้อมอแดปเตอร์ชาร์จไฟ รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว VOOC 3.0 กำลังไฟ 20W และยังมีหูฟังระดับพรีเมี่ยม เป็นแบบ In-ear และพอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB-C

แกะกล่อง Preview OPPO Reno 10x Zoom

Preview OPPO Reno 10x Zoom สัมผัสรอบเครื่อง กับดีไซน์ใหม่ เรียบหรูแต่ใส่ใจทุกรายละเอียด

หน้าจอของ OPPO Reno 10x Zoom เป็นแบบ Panoramic Fullscreen ขนาด 6.6 นิ้ว ที่ใหญ่ขึ้น กว้างขึ้น เต็มพื้นด้านหน้า ด้วยอัตราส่วนถึง 93.1% ของพื้นที่ด้านหน้าทั้งหมด เรียกได้ว่า แทบจะไม่เหลือขอบด้านข้างเลยล่ะ

OPPO Reno 10x Zoom

ตัวจอเป็น AMOLED ความละเอียด FHD+ 2340 x 1080 พิกเซล อัตราส่วน 19.5:9 ที่ไม่มีรอยบากหรือติ่งหน้าจอใดๆ และใส่ตัวระบบสแกนลายนิ้วมือแบบ Hidden Fingerprint Unlock 2.0 ที่สแกนได้รวดเร็วมากกว่าเดิม 28.5% แม่นยำมากขึ้น 20-30%

Pivot-Rising การซ่อนกล้องที่ไม่เหมือนใคร

OPPO Reno 10x Zoom

เพราะออปโป้ได้นำโครงสร้างกลไกใหม่ที่เรียกว่า Pivot-Rising แบบใหม่ที่ไม่เหมือนใคร มาใช้ในรุ่นนี้ ตัวกล้องหน้า, ไฟแฟลช, ลำโพงสนทนา และไฟแฟลชของกล้องหลัง ถูกเอาไปซ่อนไว้ในกลไกที่ซ่อนเก็บไว้ในตัวเครื่อง เมื่อใช้งานก็จะเลื่อนขึ้นมาแบบบานสวิง เลื่อนขึ้นมาทำมุม 11 องศา ซึ่งกลไกนี้ผ่านการทดสอบเลื่อนขึ้นลงได้มากกว่า 2 แสนครั้ง และยังสามารถตรวจจับสถานะการหล่นของโทรศัพท์ หากตัวกล้องเปิดไว้จะหุบลงทันทีเพื่อป้องกันการเสียหาย

ครั้งแรกกับการซ่อนเซนเซอร์ไว้ใต้หน้าจอ

ความเด่นในการออกแบบสมาร์ทโฟนของออปโป้ ยังพัฒนากันไม่หยุด ใน Reno Series นั้น สามารถทำให้ตัวเครื่องเนียนเรียบไร้ร้อยต่อ และที่น่าสนใจคือตัวบริเวณด้านบนของตัวเครื่อง ที่เอาเซนเซอร์ต่างๆ ไปซ่อนหลบไว้ใต้หน้าจอหมดเกลี้ยง

OPPO Reno 10x Zoom

ปกติแล้วที่หน้าจอของสมาร์ทโฟน นอกจากตัวกล้องหน้าแล้ว จะมีบรรดาเซนเซอร์สำหรับวัดแสงและวัดระยะอยู่ด้วย รวมถึงลำโพงสนทนา ก่อนหน้านี้ออปโป้ใช้วิธีเลื่อนทั้งหมดหลบไปที่ขอบเครื่องด้านบน ซึ่งก็แทบจะมองไม่เห็นแล้ว

มาใน Reno Series ออปโป้จัดการเอาลำโพงสนทนา, กล้องหน้า และไฟแฟลชกล้องหน้า ไปไว้กับ Pivo-Rising เมื่อปิดซ่อนลงมา จะมีเว้นขอบเครื่องด้านบนไว้เล็กน้อย ให้เสียงลำโพงเวลาสนทนานดังขึ้นมาได้

ส่วนตัวเซนเซอร์วัดแสง เพื่อปรับความสว่างของหน้าจออัตโนมัติ ถูกนำมาใส่ซ่อนไว้ที่ใต้จอ และที่พิเศษกับเซนเซอร์วัดระยะ (เอาไว้ตรวจจับการปิดหน้าจอเวลาที่ยกหูมาสนทนา) ได้เปลี่ยนมาใช้เป็นแบบอินฟราเรดแทน ถือว่าล้ำมากๆ เลย

จะเห็นแสงอินฟราเรดกระพริบอยู่ใต้จอ ซึ่งมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น เซนเซอร์ตัวนี้เอาไว้วัดระยะเพื่อดับหน้าจอเวลาที่ยกเครื่องขึ้นมาโทรศัพท์หรือสนทนา

วัสดุประกอบเครื่องที่หรูหรา สวยงาม และแข็งแกร่ง

บอดี้เครื่องของ OPPO Reno Series นั้น ยังคงพิถีพิถัน และใช้วัสดุระดับพรีเมี่ยมพร้อมการประกอบเทคนิคระดับสูง ตัวหน้าจอด้านหน้าใช้เป็น Corning®Gorilla® Glass 6 ที่มีความแข็งแรงทนทานดีที่สุดในท้องตลาดตอนนี้

OPPO Reno 10x Zoom

โครงสร้างของเครื่องที่ประกอบแบบไร้รอยต่อทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ตัวเฟรมเครื่องเป็นโลหะเคลือบสีสวยงาม และที่ฝาหลังนั้นออกแบบให้เป็นกระจกที่ราบเรียบเป็นชิ้นเดียว

ชุดโมดูลกล้องหลังนั้นจะไม่นูนออกมา ซ่อนเอาไว้ใต้กระจก บริเวณรูรับแสงของกล้องได้รับการเคลือบผิวด้วยเทคโนโลยีนาโนถึงสามครั้ง เป็นเวลา 80 นาทีต่อชิ้น โดยจะมีกระจก Corning®Gorilla® 3D Glass 6 ปิดทับไว้อีกชั้น

OPPO Reno 10x Zoom

ตัวเครื่องของ OPPO Reno Series ที่เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย จะมี 2 สีด้วยกันคือ สีดำ Jet Black ที่ตัวเครื่องจะเป็นผิวมันวาว โดยการขัดเลเยอร์พื้นผิวและสลักเส้นด้วยเลเซอร์ เพื่อให้พื้นผิวที่ต่างกัน 3 แบบ

และ สีเขียว Ocean Green นอกจากการทำสีให้มีการเล่นมิติสวยงาม วาววับปรับเปลี่ยนไปตามทิศทางที่มีแสงสะท้อนแล้ว ครั้งนี้ออปโป้ก้าวไปอีกครั้ง ที่ทำให้ฝาหลังเป็นกระจกแบบ 2 ผิวสัมผัส ตัวพื้นฝาหลังจะเป็นสีและผิวสัมผัสแบบด้าน ที่มีรอยนิ้วมือเกิดน้อย แต่ตรงส่วนกลางจะทำเป็นกระจกแบบเงา ที่จะนูนจากฝาหลังเพียงเล็กน้อย และผ่านกระบวนการขัดพื้นผิวด้านแบบ AG ปิดท้ายด้วยการขัดเคลือบสารเคมีทั้ง 2 ด้านของกระจกให้เกิดความเงา ให้พอลูบจับแล้วรู้สึกได้ถึงความแตกต่าง เป็นเทคนิคการผลิตชั้นสูงที่ต้องใช้ความพิถีพิถันในการผลิตมากๆ

สังเกตตรงบริเวณฝาหลัง จะเห็นว่าตรงกลางนั้นมีตุ่มกลมๆ อยู่ มีชื่อเรียกว่า O-Dot เป็นวัสดุเซรามิคที่จะนูนขึ้นมาจากฝาหลังเครื่องเล็กน้อย ออปโป้ไม่ได้ใส่มาให้ดูสวยๆ เก๋ๆ หรอกนะ แต่มันมีประโยชน์เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวกระจกชุดเลนส์กล้องเป็นรอย เพราะตอนนี้เลนส์กล้องนั้นราบเรียบไปกับฝาหลัง เจ้า O-Dot นี่จะทำให้เวลาที่เราวางเครื่องกับโต๊ะแล้ว กระจกส่วนเลนส์จะไม่สัมผัสกับพื้น ช่วยลดโอกาสการเกิดริ้วรอยได้นั่นเอง

ออกแบบเครื่องตามหลัง Symmetry องค์ประกอบศิลป์ที่สมมาตร

จะเรียกว่าเป็นปรัชญาการออกแบบสมาร์ทโฟนของออปโป้เลยก็ว่าได้ หลังจากที่ปัจจุบันสมาร์ทโฟนหลายรุ่นหลายแบรนด์ ออกแบบหน้าตา การวางตำแหน่งกล้อง ปุ่มกด เซนเซอร์ ฯลฯ สลับเบี่ยงซ้ายขวา ไม่ได้วางกึ่งกลาง

OPPO Reno 10x Zoom

การออกแบบโดยหลังสมมาตรหรือ Symmetry นั้นจะเป็นการจัดวางสิ่งต่างๆ ให้อยู่กึ่งกลาง สมดุลทั้งซ้ายขวา ทำให้เกิดความสวยงามแบบเป็นระเบียบและลงตัวสมบูรณ์แบบ ที่ออปโป้จะออกแบบให้สมาร์ทโฟนระดับพรีเมี่ยมตามหลักนี้เสมอ

Preview OPPO Reno 10x Zoom Symmetry

เราจะเห็นได้ว่าใน OPPO Reno Series ตัวเครื่องทุกอย่างรอบเครื่องถูกจัดเรียงเอาไว้ในแนวกึ่งกลางทั้งหมด เด่นชัดคือที่ฝาหลังที่ตัวชุดกล้อง, O-Dot และโลโก้ OPPO พร้อมข้อความ “Design by OPPO” จัดเรียงอยู่กึ่งกลางฝาหลังพอดี

ส่วนตัวปุ่มกดด้านข้างเครื่องทั้งปุ่ม Power, ปรับระดับเสียง, ช่องลำโพงด้านล่าง, พอร์ต USB-C, ถาดซิม ก็เรียงกึ่งกลางตามแนวสันพอดี ทำให้ดูสวยงามและอยู่ในตำแหน่งที่กดใช้งานได้อย่างถนัดมือ

OPPO Reno 10x Zoom
ที่ด้านล่างเครื่อง จะเห็นว่าพอร์ตต่างๆ ถูกเรียงไว้กึ่งกลางอย่างเป็นระเบียบ และตอนนี้พอร์ตเชื่อมต่อเป็น USB-C แล้วด้วย น่าจะถูกใจหลายๆ คน

ไมโครโฟนมีมาให้ถึง 3 ตัว

เราสังเกตเห็นเป็นครั้งแรกที่ออปโป้ ใช้ไมโครโฟนติดตั้งมาในสมาร์ทโฟนถึง 3 ตัว ซึ่งส่วนใหญ่สมาร์ทโฟนจะมีใส่มากันแค่ 2 ตัว ที่ด้านล่างของเครื่องเพื่อรับเสียงพูดเวลาสนทนา และด้านบนเครื่องเพื่อใช้ตัดเสียงรบกวน

แต่ใน OPPO Reno จะมีไมโครโฟนที่ด้านหลังตรงกลางเครื่องอีกตัว ซึ่งเป็นไมโครโฟนที่ช่วยตัดเสียงอีกตัว ทำให้ได้คุณภาพเสียงในการสนทนาได้ชัดและมีเสียงรบกวนน้อยลง

นอกจากนั้น ไมโครโฟนทั้ง 3 ตัวยังเอาไว้ใช้ในการถ่ายวิดีโอ ที่มีระบบเสียงแบบใหม่ Audio Focus เพื่อบันทึกเสียงรอบข้างได้รอบ 360 องศา และยังเลือกปรับโฟกัสของเสียงจากระยะของวัตถุที่ไกลออกไปด้วย

สรุป แกะกล่องดูดีไซน์ Preview OPPO Reno 10x Zoom

Preview OPPO Reno 10x Zoom

ทั้งหมดนี้ เราคุยกันแค่เรื่องของดีไซน์ตัวเครื่องล้วนๆ อย่างเดียว ยังไม่ถึงเปิดเครื่องใช้งานและประสิทธิภาพภายใน เรียกได้ว่าครั้งนี้ออปโป้สร้างสมาร์ทโฟนระดับพรีเมี่ยม ให้มีเรื่องราวและความน่าสนใจมากๆ ทุกสิ่งทุกอย่าง ถูกวางอย่างสวยงามลงตัว ผสานกับการใช้งานและเทคโนโลยีที่อัดแน่นจริงๆ

สำหรับรีวิวเต็มๆ กับภายใน การใช้งาน รวมถึงของเด็ดอย่างกล้อง 10x Zoom แบบไม่สูญเสียรายละเอียด ที่ซูมไกลสุดได้ถึง 60 เท่า ทีมงานล้ำหน้าโชว์จะมารีวิวกันแบบจัดเต็มให้ชมกัน

สเปค OPPO Reno 10x Zoom

  • ขนาดตัวเครื่อง 162.0 x 77.2 x 9.3 มิลลิเมตร
  • หน้าจอ AMOLED แบบ Panoramic Screen ขนาด 6.6 นิ้ว FHD+ (2340 x 1080) อัตราส่วน 19.5:9 ครอบด้วยกระจก Corning Gorilla Glass 6
  • มีให้เลือก 2 สี Ocean Green, Jet Black
  • กล้องหลัง Triple Camera
    • กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล (IMX586) f/1.7 26mm (wide), 1/2.0″, 0.8µm OIS
    • กล้อง Telephoto 13 ล้านพิกเซล f/3.0, 130mm 5x Optical, 10x Hybrid Zoom, 60x Digital Zoom, OIS
    • กล้องมุมกว้าง Ultra-wide Angle 8 ล้านพิกเซล f/2.2, 16mm
    • ระบบโฟกัสแบบ PDAF, Artistic portrait mode
    • วิดีโอถ่าย 4K 60p
  • กล้องหน้า 16 ล้านพิกเซล f/2.0 พร้อมไฟแฟลช Softlight
  • Pivot-Rising ซ่อนในตัวเครื่อง สำหรับชุดลำโพงสนทนา, กล้องหน้า, ไฟแฟลชหน้าและหลัง
  • ชิปเซต Qualcomm Snapdragon 855
  • RAM 8GB
  • หน่วยความจำภายในเครื่อง 256GB (UFS 2.1) รองรับ microSD ได้ 256GB
  • แบตเตอรี่ 4065 mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว VOOC 3.0
  • ไมโครโฟนแบบ 3 ตัว บันทึกเสียง Audio Focus ได้ 360 องศา
  • ระบบปฎิบัติการ Android 9.0 ครอบด้วย ColorOS 6
  • เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือ Hidden Fingerprint Unlock 2.0
  • รองรับ 2 ซิม 4G/3G/2G ถาดซิมแบบ Hybrid
  • รองรับ NFC, OTG,
  • พอร์ตเชื่อมต่อ USB-C
  • ราคา 28,990 บาท (เปิดตัว มิถุนายน 2562)

Blogger สาย Multi Function ตามติดเทคโนโลยีมือถือ, แท็บเล็ต, แอพ, เกมคอนโซล, โลกโซเชียล และจักรยาน