พรีวิว Vivo V15 ราคา Lazada

พรีวิว Vivo V15 น้องเล็กจอใหญ่ กล้องหน้า Pop-Up ราคา 10999 บาท

พรีวิวแกะกล่อง กับ Vivo V15 รุ่นน้องรองลงมาจากรุ่น V 15 Pro แต่ยังเพรียบพร้อมทั้งหน้าจอใหญ่ไร้ติ่ง กล้องหน้า Pop-Up ในราคาเบาๆ แค่ 10,999 บาท

วีโว่ เปิดตัวสมาร์ทโฟนซีรี่ย์ V15 ออกมาพร้อมกัน 2 รุ่น คือ V15 และ V15 Pro โดยที่ปล่อยรุ่นโปรลงตลาดก่อน แล้วส่ง V15 ตามมาติดๆ โดยรวมแล้วคือดีไซน์ภายนอกตัวเครื่องเหมือนกัน มีปรับสเปคบางอย่างลงมาเล็กน้อย แต่ใส่ฟีเจอร์และลูกเล่นใหม่ๆ ที่มีในรุ่น Pro มาให้หลายอย่าง

แกะกล่อง Vivo V15

แกะกล่อง Vivo V 15

ในแพ็กเกจมีของให้มาเหมือนกัน ตั้งแต่ตัวอแดปเตอร์ชาร์ไฟ, สายชาร์จหัวแบบ Micro USB, ชุดหูฟังสมอล์ทอล์ค 3.5 มิลลิเมตร, คู่มือใช้งานเบื้องต้น, เข็มจิ้มซิม และเคสที่เป็นดีไซน์แบบเดียวกับรุ่นโปร ที่ฝาหลังใสโชว์ลวดลายของตัวเครื่อง และขอบรอบข้างเป็นบัมเปอร์ช่วยป้องกันการกระแทก

อุปกรณ์ในกล่อง V15

ตัวอแดปเตอร์ชาร์จที่ให้มา จะรองรับระบบชาร์จเร็วของ Vivo คือ Dual Engine Fast Charge 9V 2A ที่ 18W ที่ช่วยให้ชาร์จไฟได้เร็วขึ้นกว่าเดิม

Hand On ดูดีไซน์รอบเครื่อง

อย่างที่บอกไปตอนต้นครับ ดีไซน์ของ V15 ทั้งรุ่นมาตรฐานและรุ่น Pro หน้าตาจะเหมือนกันเป๊ะ จุดสังเกตเดียวที่แตกต่างก็คือ Vivo V15 จะมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่ที่ด้านหลังของเครื่อง ส่วนรุ่น Pro จะใช้ระบบสแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ นอกนั้นเหมือนกันหมดทุกอย่าง

ตัวเครื่องฝาหลังดีไซน์เป็นแบบโค้งมน ที่เล่นลวดลายเหลือบสะท้อนแสงที่มีมิติ จะมีให้เลือก 2 สีด้วยกันคือ Topaz Blue สีน้ำเงินไล่เฉดพร้อมลวดลายแบบริ้ว และ Glamour Red สีแดงไล่เฉด มีประกาย glitter ดูสวยทั้งคู่

ด้านหลังของเครื่อง ชุดโมดูลของกล้องจะวางเรียงอยู่ทางมุมบน ประกอบด้วยกล้อง 3 ตัว (Main + depth + Super Wide-angle) และไฟแฟลช LED ส่วนนี้จะนูนออกมาจากตัวเครื่องเล็กน้อย เนื่องจากจะรวมที่เก็บกล้องหน้า Pop-up เอาไว้ด้วย

หน้าจอนั้นเป็นแบบ Ultra FullView Display ใหญ่เต็มพื้นที่ ขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด FHD+ อัตราส่วน 19.5:9 ครอบด้วยกระจกโค้ง 2.5D ขนาดจอใหญ่ชิดขอบและไม่มีติ่ง ไม่มีรูเว้นเว้า ถือว่าเป็นข้อดีของจอแบบนี้ เวลาใช้ดูหนัง เล่นเกม ไม่มีอะไรมาแหว่งให้กวนใจ ส่วนความต่างของจอนั้น ใน V15 จะใช้เป็นแบบ IPS LCD 16 ล้านสี ส่วนรุ่น Pro จะใช้เป็น Super AMOLED

จอที่ไม่มีติ่ง ไม่มีรู ดูคลิปกันแบบใหญ่ๆ เต็มพื้นที่ ไม่มีอะไรมากวนใจ

ตัวชุดลำโพงสนทนาและเซนเซอร์ต่างๆ ถูกเลื่อนหลบไว้ที่ขอบด้านบนของเครื่อง ที่ซ่อนจนแทบมองไม่เห็น และกล้องหน้าคือทีเด็ด เพราะใช้เป็นระบบ Pop-Up เลื่อนตัวลงไปซ่อนอยู่ในตัวเครื่อง จะเลื่อนขึ้นมาเมื่อเราเรียกใช้งานเพื่อถ่ายเซลฟี่ หรือใช้สแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคเครื่อง กลไกลเป็นมอเตอร์ที่เลื่อนขึ้นใช้งานได้รวดเร็ว รวมถึงมีความแข็งแรงทนทาน

กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล

กล้องหน้าของ V15 นั้น ความละเอียดอยู่ที่ 32 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง F/2.0 เป็นสเปคเดียวกันกับรุ่น PRO เลย รวมถึงฟีเจอร์ในการถ่ายภาพเซลฟี่ของกล้องหน้าก็มีให้มาครบเหมือนกันทั้งหมด

ด้านข้างทางขวาจะเป็นปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง และปุ่ม Power ทางด้านซ้ายจะมีช่องของถาดซิม และปุ่มใหม่ Smart Button ที่ใช้เรียกระบบ AI อย่าง Jovi และ Google Assitant ขึ้นมาใช้งานได้อย่างรวดเร็ว

ตัวถาดซิมของ V15 จะเป็นแบบ Triple slot ใส่ได้ 2 ซิมแบบ Nano SIM และเพิ่ม microSD ได้ รองรับความจุสูงสุด 256GB

ด้านล่างของเครื่องมีช่องลำโพงเสียง, พอร์ตเชื่อมต่อแบบ Micro USB, ไมค์สนทนา และรูเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร

สเปคภายใน

ตัวของ Vivo V15 จะใช้ชิปเซตเป็น MediaTek Helio P70 เวอร์ชั่นล่าสุด ตัว GPU ประมวลผลกราฟฟิกเป็น Mali-G72 หน่วยความจำภายใน 128GB เพิ่ม microSD ได้อีก 256GB และ RAM ก็ให้มาที่ 6GB สำหรับสมาร์ทโฟนราคาหมื่นต้นๆ ถือว่าจัดหนักมาให้เลยทีเดียว

Funtouch OS

ระบบปฏิบัติการเป็น Funtouch OS 9 เวอร์ชั่นใหม่ บน Android 9.0 มีฟีเจอร์การใช้งานที่ฉลาดและง่ายมากขึ้น ด้วยการที่มีระบบประมวลผล AI มาช่วยการทำงานได้หลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องของเล่นเกม ที่มีระบบ Dual-Turbo มาช่วยเร่งประสิทธิภาพของเครื่องเวลาที่เล่นเกมกราฟฟิคหนักๆ ให้มีความไหลลื่น เฟรมเรตนิ่งกว่าเดิมถึง 300%

รวมไปถึงยังอัพเดท Game Mode 5.0 ทั้งระบบปิดการรบกวนจากสายโทรเข้าเวลาเล่นเกม, เปิดแอปแชตซ้อนเป็นหน้าต่างเล็กๆ, แป้นคีย์บอร์ดแบบ Float ที่ไม่บังระหว่างเล่นเกม, โหมด Auto Gaming และ Game Assistant ที่ช่วยในเวลาที่เล่นเกม

กล้องหลัง 3 เลนส์ AI Triple Camera

Vivo V15 ตัวกล้องหลังจะแบ่งเป็น กล้องหลัก 24 ล้าน (12 ล้านพิกเซลแบบ Dual Pixel Sensor) รูรับแสง F/1.78 ทำงานร่วมกับกล้องวัดระยะ depth ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล F/2.4 และเสริมด้วยกล้อง Super Wide-angle ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.2

AI Scene
ระบบ AI จะสามารถจำแนกซีนของภาพ เพื่อปรับแต่งให้ได้ภาพถ่ายที่สวยงามที่สุด

ระบบกล้องนั้นทางวีโว่ใส่ฟีเจอร์ใหม่ๆ ให้มาเพียบเลย โดยมี AI เข้ามาช่วยในการถ่ายภาพ ตั้งแต่พื้นฐานอย่างระบบ Beauty ที่ปรับแต่งให้อัตโนมัติ หรือเลือกปรับตามใจชอบก็ได้ และลูกเล่นใหม่อย่าง AI Body Shaping ที่ปรับรูปร่างให้ผอมเพรียว ขายาวได้ด้วย

ตัวเลนส์ Super Wide-angle ก็ช่วยให้ถ่ายรูปได้สนุกมากขึ้นกว่าเดิม เพราะช่วยให้เก็บมุมมองของภาพที่กว้างขึ้นถึง 120 องศา และมี AI มาช่วยปรับภาพให้มีความเบี้ยวน้อยลงได้อีก

ซอฟท์แวร์ในการปรับแต่งภาพที่ถ่ายแล้ว ก็ฉลาดขึ้น มีเพิ่ม Smart Framing ที่จะวิเคราะห์องค์ประกอบของภาพที่ถ่ายมาแล้ว ว่าควรจะ crop ภาพให้เป็นแบบไหนแล้วจะดูสวยงามที่สุด

กล้องหน้า Pop Up มีฟีเจอร์ปรับแต่งมากมาย ทั้ง AI Beauty ช่วยปรับให้ภาพเซลฟี่สวยงาม และมีระบบจำลองแสงในการถ่ายภาพให้ด้วย

ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยกล้อง Vivo 15

Vivo V15 กับราคา 10,999 บาทที่คุ้มค่า

เป็นตัวเลือกสำหรับคนที่มีงบประมาณในการซื้อมือถือ ราคาประมาณ หมื่นบาทต้นๆ เพราะได้สมาร์ทโฟนที่ดีไซน์ใหม่ ทันสมัย จอใหญ่แบบไม่มีแหว่ง กล้องหน้าที่ซ่อนไว้ในตัวเครื่อง แล้วยืดขึ้นมาแบบเก๋ๆ ประสิทธิภาพก็ถือว่าดีคุ้มราคา ตัวกล้องหน้าเซลฟี่ลูกเล่นเยอะตามสไตล์ของวีโว่ ส่วนกล้องหลังมีเลนส์ไวด์ถ่ายได้กว้างๆ ก็ช่วยให้ถ่ายภาพสนุกยิ่งขึ้น

Vivo V15 เปิดให้ Pre-Order จองล่วงหน้า ตั้งแต่วันที่ 16-27 มีนาคมนี้ กับหลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น 3 โอเปอเรเตอร์ AIS, dtac, Truemove H รวมไปถึงช่องทางออนไลน์ต่างๆ มีของแถมเป็น VIP Card ประกันจอแตก, Gift Set ฯลฯ

สรุปสเปค Vivo V15

  • ขนาด 161.97 × 75.93 มิลลิเมตร หนา 8.54 มิลลิเมตร
  • หนัก 189.5 กรัม
  • หน้าจอ Ultra FullView Display ขนาด 6.53 นิ้ว แบบ IPS LCD ความละเอียด FHD+ 2340 x 1080 พิกเซล
  • ชิปประมวลผล Mediatek Helio P70 Octa-core 2.1GHz
  • GPU Mali-G72 MP3
  • หน่วยความจำภายใน 128GB เพิ่ม microSD ได้สูงสุด 256GB
  • RAM 6GB
  • กล้องหน้าแบบ Pop-Up 32 ล้านพิกเซล f/2.0
  • กล้องหลัง AI triple Camera
  • ระบบเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, WiFi Direct, hotspot, Bluetooth 5.0, microUSB 2.0, USB On-The-Go
  • แบตเตอรี่ 4,000mAh รองรับระบบชาร์จเร็ว Dual-Engine Fast Charging
  • ระบบปฎิบัติการ Funtouch OS 9 บน Android 9.0
  • มีให้เลือก 2 สี Topaz Blue และ Glamour Red
  • ราคา 10,999 บาท (เปิดตัว มีนาคม 2562)

Blogger สาย Multi Function ตามติดเทคโนโลยีมือถือ, แท็บเล็ต, แอพ, เกมคอนโซล, โลกโซเชียล และจักรยาน