ผู้ใช้ YouTube เซ็ง เจอโฆษณาคั่นถี่ขึ้น หนักสุด เจอ 10 ตัวติดกันและกดข้ามไม่ได้

ผู้ใช้ YouTube ที่ไม่ได้จ่ายเงินใช้ YouTube Premium น่าจะประสบกับการมีโฆษณาคั่นกันทุกคน แต่ล่าสุด ดูเหมือน YouTube จะข้ามขีดจำกัดด้วยการมีโฆษณาคั่นแบบกดข้ามไม่ได้มากถึง 10 ตัวติดต่อกัน ทำเอาผู้ใช้ออกมาโวย

โดยทั่วไปแล้ว โฆษณาที่ขึ้นแทรกจะปรากฏไม่ก่อนที่วิดีโอจะเริ่ม ก็จะปรากฏระหว่างที่วิดีโอเริ่มเล่นไปแล้ว โดยเวลาของโฆษณาคั่นนี้อาจใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที ไปจนถึงเวลาเป็นนาที แต่หากมันเป็นโฆษณาที่ยาว ก็มักจะมีตัวเลือกให้กดข้ามโฆษณาได้หลังจากผ่านระยะเวลาไปแล้วช่วงหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา มีผู้ใช้ YouTube บางคนสังเกตว่าโฆษณาบนแพลตฟอร์มนั้นมีการขยายระยะเวลารวมไปถึงปริมาณการเล่นที่มากขึ้นกว่าเดิมมาก ที่สำคัญคือ มันมาในรูปแบบโฆษณาที่ไม่สามารถกดข้ามได้

YouTube UNSKIPPABLE Ads
YouTube UNSKIPPABLE Ads

จากการสังเกตกระทู้ในเว็บไซต์ Reddit (1,2) พบว่ามีโพสต์ที่บ่นเกี่ยวกับโฆษณาคั่นที่ยาวนานขึ้นและมีความถี่ที่มากขึ้น (ทุกๆ 2-3 นาที) ที่มันแย่ไปกว่านั้น คือ การที่โฆษณาคั่นเหล่านั้นมันเป็นแบบที่กดข้ามไม่ได้

หรือแม้แต่บน Twitter เองก็มีผู้ใช้ที่โพสต์ถึงโฆษณาคั่นเวลาแบบกดข้ามไม่ได้ที่มากถึง 10 ตัวติดต่อกัน

ถึงแม้มันจะไม่เกิดขึ้นกับผู้ใช้ YouTube ทุกคน แต่ระยะหลังมานี้ก็มีผู้ใช้หลายคนที่ประสบกับเรื่องนี้อยู่ ที่เห็นและพบเจอบ่อยกว่าการเห็นโฆษณาแบบ 10 ตัวติดกัน คือ การคั่นด้วยโฆษณาคั่นแบบ 5 ตัวติดกัน

ไม่รู้ว่าจะเรียกสิ่งนี้ว่าเป็นข่าวดีดีหรือไม่ เมื่อโฆษณาที่คั่นแต่ละตัวนั้นไม่ได้ยาวมาก จากที่สังเกต โฆษณาคั่นจะมีความยาวเพียง 5-6 วินาที นั่นหมายความว่า หากมีโฆษณาคั่นแบบกดข้ามไม่ได้ขึ้น 10 ตัวติดต่อกัน ก็จะใช้เวลารวมๆ ประมาณ 60 วินาที หรือ 1 นาที

ดูเหมือนว่าทาง YouTube จะไม่ทราบเรื่องการขึ้นของโฆษณาคั่นบนแพลตฟอร์มนี้ แต่มีบัญชีที่ใช้ชื่อว่า TeamYouTube บน Twitter ไปตอบกลับการร้องเรียนของผู้ใช้รายหนึ่ง โดยเรียกโฆษณาคั่นดังกล่าวว่า “bumper ads” ซึ่งเป็นรูปแบบที่ปรากฏตอนก่อนวิดีโอเริ่มต้นและการแสดงโฆษณาสั้นๆ บางส่วนคั่นระหว่างการดูวิดีโอ

การแสดงโฆษณาคั่นในปริมาณที่เพิ่มขึ้นในรูปแบบที่กดข้ามไม่ได้ จะยิ่งส่งผลให้พฤติกรรมของผู้ใช้ YouTube เปลี่ยนไปจากเดิม เช่น

  • เมื่อรำคาญโฆษณาคั่นจนถึงจุดหนึ่งที่อาจตัดสินใจยอมจ่ายเงินใช้ YouTube Premium
  • หรือไม่ ก็อาจทำให้ผู้ใช้ YouTube รู้สึกมีความอยากใช้งานแพลตฟอร์มนี้ลดลง ไปจนถึงเลิกใช้งานไปเลยก็ได้

ที่มา : 9to5Google