Apple Fitness+ บริการใหม่ เปิดประสบการณ์ออกกำลังกายขั้นสุด ด้วย Apple Watch

เปิดตัวบริการใหม่ Apple Fitness+ เพื่อเปิดประสบการณ์การฟิตเนสและออกกำลังกายใหม่ที่ดึงดูดใจ และเหมาะกับแต่ละบุคคลมากขึ้น โดย Apple Fitness+ เป็นประสบการณ์ฟิตเนสที่สร้างขึ้นเพื่อ Apple Watch โดยเฉพาะ จะเปิดให้ใช้งานได้จริงปลายปีนี้

Fitness+ ได้ผสานการวัดค่าต่างๆ ที่มีใน Apple Watch มาใช้ร่วมกับการออกกำลังกาย เพื่อให้ผู้ใช้งานได้เห็นภาพบนหน้าจอของ iPhone iPad หรือ Apple TV เหมาะกับผู้ที่เพิ่งเป็นมือใหม่สำหรับการออกกำลังกาย ไปจนถึงผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำจริงจังอยู่แล้ว โดยสามารถออกกำลังกายไปพร้อมกับเทรนเนอร์ชั้นนำระดับโลก โดยการออกกำลังกายจะมาพร้อมดนตรีประกอบที่เร้าใจ ช่วยกระตุ้นและทำให้รู้สึกสนุกไปกับการออกกำลังกาย

Apple Fitness+

Jay Blahnik ผู้อำนวยการอาวุโสด้านฟิตเนสเพื่อเทคโนโลยีด้านสุขภาพของ Apple กล่าวถึง Apple Fitness+ ว่า มีการออกกำลังกายแบบสตูดิโอให้เลือกหลากหลายมาก เหมาะกับผู้ใช้งานทุกระดับความสามารถ นำโดยกลุ่มเทรนเนอร์ระดับแนวหน้า นอกจากนี้ มันยังเป็นโปรแกรมที่ใช้งานง่าย ออกแบบมาสำหรับผู้เริ่มต้นไปจนถึงที่ผู้ที่ออกกำลังกายอย่างจริงจัง อีกทั้งยังให้ความยืดหยุ่นในการออกกำลังกายได้ทุกสถานที่ บริการนี้จึงมีตัวเลือกพร้อมและเหมาะสำหรับทุกคน Fitness+ จะช่วยยกระดับการออกกำลังกายด้วย Apple Watch ให้สูงขึ้นอีกขั้นด้วยการมีส่วนร่วม ความสะดวก และการสร้างแรงบันดาลใจในแบบที่ไม่มีใครเทียบได้

Apple Fitness+
Apple Fitness+

Apple Fitness+ จะมีคำแนะนำการออกกำลังกายให้กับแต่ละบุคคล เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานออกกำลังกายในครั้งต่อไปได้เหมาะสมกับตัวเขามากขึ้น ยิ่งใช้งาน Apple Watch ด้วยแล้วจะยิ่งดึงดูดใจและช่วยกระตุ้นให้ความอยากออกกำลังกายนั้นทำต่อไปได้จนจบ โดยที่ Apple Fitness+ จะใช้กลไกคำแนะนำแบบกำหนดเองเพื่อนำการออกกำลังกายต่าง ๆ ที่สำเร็จก่อนหน้านี้มาพิจารณาประกอบ แล้วให้คำแนะนำอย่างชาญฉลาดโดยแสดงตัวเลือกใหม่ ๆ ที่ตรงกับการออกกำลังกายแบบที่ผู้ใช้เลือกบ่อยสุด หรือแนะนำสิ่งแปลกใหม่เพื่อปรับสมดุลให้กิจวัตรการออกกำลังกายปัจจุบัน

ผู้ใช้งานสามารถใช้เครื่องมือกรองที่ใช้งานง่าย เพื่อค้นหาการออกกำลังกายและเลือกสิ่งที่สำคัญกับตนเองมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นประเภทการออกกำลังกาย เทรนเนอร์ ระยะเวลา หรือเพลงประกอบ และยิ่งถ้าผู้ใช้งานเป็นสมาชิก Apple Music แล้วล่ะก็ ผู้ใช้จะสามารถบันทึกเพลงโปรดจากการออกกำลังกาย Fitness+ และฟังในภายหลังได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นระหว่างออกกำลังกายหรือในเวลาอื่น

ผู้ใช้งาน Apple Fitness+ สามารถเลือกดูวิดีโอการออกกำลังกายที่ต้องการกับ iPhone iPad หรือ Apple TV ก็ได้ โดยระบบจะทำงานควบคู่ไปพร้อมกับ Apple Watch ในระหว่างการออกกำลังกายนั้น การวัดค่าต่าง ๆ จาก Apple Watch จะแสดงขึ้นบนหน้าจอและเคลื่อนไหวอย่างมีชีวิตชีวาเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ เช่น เมื่อเทรนเนอร์บอกให้ตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจหรือเริ่มต้นนับเวลาถอยหลัง ตัวเลขดังกล่าวจะเคลื่อนไหวบนหน้าจอ และหากลูกค้าต้องการกระตุ้นตนเองด้วยการแข่งขันเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อสุขภาพที่ดี ตัวเลือก Burn Bar จะแสดงระดับความพยายาม ณ ปัจจุบันของลูกค้าโดยเทียบกับคนอื่น ๆ ที่เคยออกกำลังกายรายการเดียวกันก่อนหน้านี้

วงแหวนกิจกรรมที่คุ้นตาจะแสดงผลบนหน้าจอด้วยเพื่อเน้นให้เห็นถึงความคืบหน้าของผู้สวม และเล่นภาพเคลื่อนไหวฉลองชัยเมื่อปิดวงแหวนได้ ผู้ใช้สามารถแสดงให้เพื่อน ๆ และครอบครัวเห็นการออกกำลังกาย Fitness+ ที่ทำสำเร็จแล้วได้ผ่านการแชร์กิจกรรม และสามารถแชร์การออกกำลังกายไปยังโซเชียลมีเดียที่ชื่นชอบได้

Apple Fitness+

Apple Fitness+ มาพร้อมประเภทการออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่ การปั่นจักรยาน การใช้ลู่วิ่ง การพายเรือ HIIT การฝึกกล้ามเนื้อ โยคะ การเต้น การบริหารกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว และการคูลดาวน์พร้อมทำสมาธิ เป็นต้น โดยในแต่ละกิจกรรมจะมีเพลงประกอบที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถันโดยเทรนเนอร์ ซึ่งในแต่ละสัปดาห์ ทีมเทรนเนอร์ Fitness+ จะมอบการออกกำลังกายใหม่เอี่ยมจากสตูดิโอ โดยมีความยาว ระดับการฝึกฝน และแนวเพลงให้เลือกจำนวนมาก จึงมีการออกกำลังกายใหม่ ๆ มาให้เลือกและลองอยู่เสมอ เชื่อว่านี่เป็นอีกจุดที่จะช่วยให้ผู้ออกกำลังกายไม่รู้สึกเบื่อ

นอกจากนี้ ยังมี โปรแกรม Absolute Beginner ที่ติดตั้งมาใน Fitness+ จะต้อนรับลูกค้าที่ไม่เคยมีประสบการณ์ฟิตเนสมาก่อนหรือกลับมาเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ด้วยการช่วยชี้แนะพื้นฐานการเคลื่อนไหวและออกกำลังกายต่าง ๆ และมอบตัวเลือกให้ลูกค้าได้เตรียมตัวสำหรับ Studio Workouts

ที่สำคัญ ลูกค้าสามารถใช้อุปกรณ์แบรนด์ใดก็ได้กับ Fitness+ และมีการออกกำลังกายจำนวนมากที่ไม่ใช้อุปกรณ์ใด ๆ เลยหรือใช้เพียงชุดดัมเบลเท่านั้น สำหรับผู้ที่เริ่มต้นการใช้ลู่วิ่งด้วย Fitness+ บนเครื่องที่สามารถใช้งานร่วมกับ Apple GymKit ได้ โดยออกกำลังกายดังกล่าวจะแจ้งให้ลูกค้าแตะเพื่อเชื่อมต่อ Apple Watch เพื่อซิงก์การวัดค่าต่าง ๆ

ประเด็นเรื่องความเป็นส่วนตัวเป็นเรื่องสำคัญที่ควรคำนึงถึง เมื่อใช้งาน Apple Fitness+ ข้อมูลการออกกำลังกายทั้งหมดจะถูกบันทึกอยู่ในแอปสุขภาพใน iPhone โดยข้อมูลต่างๆ เช่น แคลอรี การออกกำลังกาย และเทรนเนอร์ที่คุณเลือกไว้จะไม่ถูกจัดเก็บร่วมกับ Apple ID ของคุณ

เมื่อเปิดตัว Apple Fitness+ จะเปิดให้บริการใน 6 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย แคนาดา ไอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา

ผู้ใช้ Apple Watch สามารถใช้งาน Fitness+ ได้ในรูปแบบบริการสมัครสมาชิกภายในสิ้นปี 2020 ในราคา 9.99 ดอลลาร์ หรือประมาณ 310 บาทต่อเดือน หรือ 79.99 ดอลลาร์ หรือประมาณ 2,500 บาทต่อปี ทุกคนสามารถลองใช้งาน Fitness+ ได้ฟรีเป็นเวลาหนึ่งเดือน

นอกจากนี้ ผู้ใช้สามารถแชร์การสมัครสมาชิก Fitness+ กับคนอื่น ๆ ในครอบครัวได้สูงสุด 5 คนผ่านการแชร์แบบครอบครัว (ต้องใช้ Apple Watch Series 3 หรือใหม่กว่า) 

Fitness+ ใช้ได้บน Apple Watch Series 3 หรือรุ่นที่ใหม่กว่า ซึ่งต้องจับคู่กับ iPhone 6s หรือรุ่นที่ใหม่กว่า หรือ iPhone SE 

สำหรับ iPad บริการ Fitness+ ใช้ได้บน iPad Pro, iPad (รุ่นที่ 5 หรือใหม่กว่า), iPad mini 4 หรือรุ่นที่ใหม่กว่า, iPad Air 2 หรือ iPad Air (รุ่นที่ 3) Fitness+ สามารถใช้งานได้ใน Apple TV 4K และ Apple TV HD และไม่จำเป็นต้องสมัครสมาชิก Apple Music

ที่มา : Apple