Apple สั่งผลิต iPhone X อีกครั้ง หลังจาก iPhone รุ่นใหม่ล่าสุดไม่ปังอย่างที่คิด

หลังจากมีรายงานข่าวก่อนหน้านี้ของ The Wall Street Journal ว่า Apple จะลดการผลิต iPhone รุ่นใหม่ล่าสุด 3 รุ่น เพราะเหตุจากการที่ยอดขายนั้นไม่ปังอย่างที่คาดการณ์ไว้

ล่าสุด Apple มีแผนจะรีสตาร์ทการผลิต iPhone X ใหม่อีกครั้ง

ทั้ง iPhone XS และ iPhone XS Max นั้น เปิดตัวเมื่อเดือนกันยายนอย่างอลังการ และที่สำคัญ ทั้ง 2 รุ่นได้รับรีวิวที่ดีจากหลายๆสื่อ ทำให้คิดได้ว่า iPhone รุ่นใหม่ล่าสุด น่าจะขายดีแน่นอน แต่ มันก็กลับไม่เป็นอย่างที่คิดไว้ และไม่ได้ขายดีเท่า iPhone X เลย

อีก 1 เหตุผลที่ทาง Apple ตัดสินใจรีสตาร์ทการผลิต iPhone X ขึ้นมาใหม่ เนื่องจากเป็นข้อตกลงที่บริษัทฯทำไว้กับ Samsung ที่จะทำการสั่งซื้อจอ OLED ตามจำนวนที่ได้ตกลงกันไว้ (ข้อมูลจากแหล่งข่าว The Wall Street Journal แจ้งเอาไว้แบบนี้)

มีรายงานว่า Apple จะนำ iPhone X ออกขายอีกรอบเพื่อชดเชยยอดขายที่เสียไปของ iPhone XS และ iPhone XS Max ซึ่งจากรายงานเดียวกันระบุว่า ต้นทุนการผลิตของ iPhone X ก็ถูกกว่า เพราะ ส่วนประกอบ และ อุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต เก่ากว่า จึงไม่แปลก ที่ราคาจะถูกกว่า

แต่ การตัดสินใจครั้งนี้ก็ดูแปลกๆ เพราะ มกราคมที่ผ่านมา Apple ได้ตัดการผลิต iPhone X ครึ่งนึง จาก 40 ล้านเครื่อง เหลือ 20 ล้านเครื่อง เพราะ ตลาดหลักของ Apple อย่าง สหรัฐอเมริกา จีน และ ยุโรป นั้นเริ่มซบเซาลง (iPhone X เปิดตัวตั้งแต่ พฤศจิกายน 2017 แล้วด้วย)

ส่วน iPhone รุ่นใหม่ที่ดูไม่ค่อยจะเวิร์คอย่าง iPhone XR นั้น มีข่าวว่า ก็ถูกลดการผลิตในช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมาถึง 1 ใน 3 อีกทั้งยังมีการหั่นราคาในญี่ปุ่น เพื่อ กระตุ้นยอดขาย

แต่ ถึงแม้ยอดขายรุ่นใหม่จะไม่ปังก็เถอะ ยังไงซะ Apple ก็ยังคงเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่แข็งที่สุดในโลก จากการสำรวจข้อมูลล่าสุด ลูกค้าของ Apple (สาวก?!) เป็นกลุ่มนึงที่ดูจะมี brand loyalty สูงมาก เพราะ กลุ่มลูกค้าเหล่านี้ จะเปลี่ยนอุปกรณ์รุ่นใหม่กว่า เมื่อรู้สึกว่า สิ่งที่ใช้อยู่เก่าแล้ว

source