iOS11 รวมทุกฟีเจอร์ใหม่ ใช้งานง่ายขึ้น เพิ่มเทคโนโลยี AR และ Machine Learning

ที่งาน WWDC เมื่อคืนนี้ แอปเปิลได้เปิดตัวระบบปฏิบัติการ iOS11 แล้วอย่างเป็นทางการ

บนเวที WWDC นาย Craig Federighi ตำแหน่ง SVP ฝ่ายวิศกรรมซอฟต์แวร์ของแอปเปิลระบุว่าการเปลี่ยนแปลงโดยรวมของ iOS11 นั้นจะเป็นเรื่องของการนำเอาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใส่ในตัวระบบปฏิบัติการเป็นหลัก  ทั้งนี้ใน iOS11 ก็ยังคงมีฟีเจอร์ใหม่ๆ เพิ่มเติมเข้ามาด้วยเช่นกัน

ARKit แพลตฟอร์ม AR จากแอปเปิล

หลังจากที่คู่แข่งอย่างไมโครซอฟท์, เฟซบุ๊ค, และกูเกิล ได้ชิงลงเล่นในตลาด AR/VR ล่วงหน้าแอปเปิลไปก่อนแล้ว  ล่าสุดแอปเปิลก็เปิดตัว ARKit แพลตฟอร์ม AR ของตัวเองออกมาด้วยเช่นกัน

ARKit จะอาศัยกล้องของอุปกรณ์ เซ็นเซอร์ต่างๆ และชิปประมวลผลใน SoC ในการจำลองสภาพแวดล้อมต่างๆ ขึ้นมาโดยไม่จำเป็นต้องใช้ฮาร์ดแวร์เฉพาะในการติดตามการเคลื่อนไหวต่างๆ แต่อย่างใด  โดยแอปเปิลกล่าวว่ามีไอโฟนพร้อมใช้ฟีเจอร์ดังกล่าวอยู่แล้วกว่าร้อยล้านเครื่อง

iMessage ซิงค์ข้อความได้, ส่งเงินให้ผู้รับได้

แอพแชทหลักของ iOS อย่าง iMessage นั้นจะได้รับการปรับปรุงในเรื่องของการส่งสติ๊กเกอร์  ที่ผู้ใช้จะสามารถส่งสติ๊กเกอร์หาคู่สนทนาได้ง่ายกว่าเดิม  และเพิ่มฟีเจอร์การซิงค์ข้อความใน iMessage ขึ้นบน iCloud ด้วย  ทำให้ผู้ใช้สามารถเปิดดูข้อความบน iMessage ได้จากบนทุกอุปกรณ์ (รวมถึงบนแมคด้วย)

ก่อนหน้านี้มีข่าวลือหนึ่งว่าแอปเปิลเตรียมเปิดให้ผู้ใช้สามารถส่งเงินให้กันได้แล้ว (จากเดิมที่ทำได้แค่จ่ายเงินให้ร้านค้า) ใน iOS11 ก็ได้เปิดตัวฟีเจอร์นี้อย่างเป็นทางการ  โดยผู้ใช้จะสามารถส่งเงินให้กันได้ผ่านทางแอพ iMessage นี้  โดยผู้รับจะได้รับเงินเป็น Apple Pay Cash Card ที่สามารถเอาไปใช้จ่ายผ่าน Apple Pay ได้, ส่งต่อให้คนอื่นได้, หรือถอนออกมาเป็นเงินสดก็ได้ด้วยเช่นกัน

Siri ฉลาดขึ้น รองรับการแปลภาษาในตัว

ระบบผู้ช่วยคู่บุญของแอปเปิลอย่าง Siri ก็ได้รับอัพเดทใน iOS11 นี้เช่นกัน  โดย Siri จะรองรับการแปลภาษาในตัว  ผู้ใช้สามารถสั่งแปลข้อความเป็นภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี และภาษาจีนได้ทันที

นอกจากนี้แอปเปิลยังกล่าวว่าใน iOS11 นั้น Siri จะฉลาดขึ้นกว่าเดิม  และเข้าใจเนื้อหาและบริบทคำสั่งต่างๆ ได้มากขึ้น  โดยมีการใช้เทคนิค Machine Learning เข้ามาช่วยในการแนะนำผลลัพธ์

ตัวอย่างเช่นหากถาม Siri ขึ้นมาเฉยๆ ว่า “อีกไกลแค่ไหน” (ที่ไม่เกี่ยวกับไกลแค่ไหนคือใกล้) Siri จะลองค้นในปฏิทินนัดหมายว่ามีการนัดหมายใดๆ เร็วๆ นี้หรือไม้  แล้วจะคำนวนระยะทางปัจจุบันไปยังจุดนัดหมายให้ในทันที  หรือถ้าผู้ใช้ค้นหาข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวในไอซ์แลนด์ Siri ก็จะเพิ่มคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับผลการค้นหา เช่นชื่อเมืองหลวง Reykjavik ลงในพจนานุกรมให้โดยอัตโนมัติ  รวมทั้งอาจจะแนะนำข่าวเกี่ยวกับไอซ์แลนด์ในแอพ News ให้ด้วย

แอพ Camera รองรับ H265 วิดีโอคุณภาพดีขึ้น ขนาดไฟล์เล็กลง, อ่าน QR Code ได้ในตัว

ช่วงหลังมานี้หลายคนน่าจะเริ่มได้เห็นไฟล์ประเภท H265 หรือ HEVC (High Efficiency Video Coding) กันมาบ้างแล้ว  ซึ่ง H265 นี้จะช่วยให้สามารถเข้ารหัสวิดีโอให้มีคุณภาพดีขึ้นได้  ในขณะที่ไฟล์เล็กลง  ตัวอย่างเช่นไฟล์เดียวกันใน H264 ที่ความละเอียด 720p มีขนาดไฟล์ที่ 700MB เมื่อเข้ารหัสด้วย H265 แล้วจะเหลือเพียงประมาณ 200MB เท่านั้น

ซึ่งแอพ Camera ของ iOS11 นี้ก็จะรองรับการถ่ายวิดีโอเป็น H265 ด้วยในตัว

นอกจากนี้ใน iOS11 ยังมีการปรับปรุงซอฟต์แวร์ประมวลผลภาพในตัวด้วย  ทำให้อุปกรณ์ที่อัพเดทเป็น iOS11 นั้นจะสามารถถ่ายภาพที่คุณภาพสูงขึ้นได้  แม้จะใช้ฮาร์ดแวร์เดิมก็ตาม

อีกฟีเจอร์หนึ่งที่เพิ่มเข้ามาในแอพกล้อง  นั่นคือแอพกล้องใน iOS11 จะสามารถอ่าน QR Code ได้ในตัวแล้วโดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งแอพอ่าน QR Code เพิ่มเติมแต่อย่างใด

Control Center ได้รับการปรับปรุงใหม่

ใน iOS11 จะมีการปรับปรุง Control Center ใหม่  โดยเป็นการยกเครื่องหน้าตาใหม่ทั้งหมด  เปลี่ยนจากการแสดงผลเป้นแท็บแยก  เป็นการเอาปุ่มควบคุมทั้งหมดมาแสดงในหน้าจอเดียว  ผู้ใช้สามารถกดค้าง (3D Touch) เพื่อเข้าถึงการตั้งค่าเพิ่มเติมของแต่ละคอนโทรลได้ด้วย

Apple Maps เพิ่มข้อมูลแผนที่ในอาคาร และโหมดห้ามรบกวนขณะขับรถ

สำหรับผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกา  แอปเปิลได้เพิ่มแผนที่ภายในอาคารของห้างสรรพสินค้าในเมืองใหญ่และตามสนามบินเข้ามาด้วย  ซึ่งยังคงมีเฉพาะข้อมูลในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น

ส่วนผู้ใช้ทั่วโลก  แอปเปิลได้เพิ่มโหมดห้ามรบกวนขณะขับรถเข้ามาด้วย  โดยเมื่อผู้ใช้เชื่อมต่อไอโฟนเข้ากับระบบเครื่องเสียงในรถยนต์  หรือว่าเซ็นเซอร์ในไอโฟนตรวจจับได้ว่าผู้ใช้กำลังขับรถอยู่  ไอโฟนจะสลับไปเป็นโหมด Do Not Disturb โดยอัตโนมัติ  ซึ่งผู้ใช้จะไม่ได้รับการแจ้งเดือนใดๆ จนกว่าจะปิดโหมดดังกล่าว  นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถตั้งค่าการตอบกลับข้อความอัตโนมัติระหว่างขับรถอยู่ได้ด้วย

AirPlay 2 รองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์หลายตัวพร้อมกัน

ในสินค้าของแอปเปิลและพาร์ทเนอร์  จะมีฟีเจอร์ที่เรียกว่า AirPlay ที่ใช้สำหรับแคสท์วิดีโอ ภาพ หรือเสียง ไปเล่นบนอุปกรณ์นั้นๆ (ลักษณะเดียวกับพวก Chromecast) ซึ่งใน iOS11 นี้จะมาพร้อมกับ AirPlay 2 ที่รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์หลายตัวพร้อมกัน  และผู้ใช้ยังสามารถควบคุมอุปกรณ์แต่ละตัวผ่านทางอุปกรณ์ iOS ได้ด้วย

ในขั้นต้น  จะมีลำโพงจาก Libratone, Devialet, Bose, และ B&O ที่เริ่มรองรับ AirPlay 2 นี้  โดยแอปเปิลกล่าวว่าในอนาคตจะมีสินค้าจะมีสินค้าจากพาร์ทเนอร์รายอื่นที่รองรับ AirPlay 2 เพิ่มเติมด้วย

นอกจากนี้ แอปเปิลยังเปิด API ของ AirPlay 2 ให้นักพัฒนาสามารถเข้าใช้งานได้แล้ว

MusicKit API สำหรับเข้าถึง Apple Music

พร้อมกันนี้แอปเปิลยังได้เปิดตัว MusicKit ซึ่งเป็น API ชุดใหม่ที่เปิดให้นักพัฒนาสามารถทำงานร่วมกับ Apple Music ได้  เช่นในแอพ Shazam ที่เมื่อผู้ใช้สแกนหาเพลงแล้ว  ก็สามารถค้นหาและเพิ่มเข้าไปในเพลย์ลิสต์ของ Apple Music ได้ในทันที

App Store ถูกออกแบบใหม่

หัวใจสำคัญของ iOS อย่าง App Store ก็ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมดรับ iOS11 ด้วยเช่นกัน โดยการเปลี่ยนแปลงโดยรวมนั้นทำให้ App Store มีหน้าตาดูคล้ายกับแอพ Apple News มีการปรับดีไซน์ให้ดูสะอาดตามากขึ้น  ซึ่งการออกแบบใหม่นี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงแอพต่างๆ ได้รวดเร็วขึ้นด้วย  นอกจากนี้ยังได้เพิ่มฟีเจอร์ Today ซึ่งเป็นหน้าแนะนำแอพที่คัดสรรมาเพื่อผู้ใช้แต่ละคนโดยเฉพาะเข้ามาด้วยเช่นกัน

ฟีเจอร์เฉพาะสำหรับ iPad

นอกจากฟีเจอร์โดยรวมของ iOS แล้ว  ใน iOS11 ยังมีฟีเจอร์เฉพาะสำหรับการใช้งานบน iPad อยู่ด้วยอีกจำนวนหนึ่ง  โดยฟีเจอร์เหล่านี้ถือได้ว่าเป็นตัวช่วยเพิ่มความสามารถในการใช้ไอแพดทำงานได้สะดวกยิ่งขึ้นไปอีก

Dock แบบบน macOS

ใครที่เคยใช้งาน macOS น่าจะคุ้นเคยกับ Dock ซึ่งเป็น Task Switcher ของ macOS กันเป็นอย่างดี  ซึ่งใน iOS11 นี้ก็ได้เพิ่มฟีเจอร์ Dock เข้ามาบน iPad ด้วยเพื่อให้ผู้ใช้สามารถสลับไปมาระหว่างแอพได้ง่ายขึ้น  และผู้ใช้ยังสามารถลากแอพจาก Dock ขึ้นมาเปิดใช้แบบ Split view ได้อีกด้วย

นอกจากนี้หน้าจอ Picker ใน Split view ได้ถูกปรับปรุงใหม่  โดยแสดงพรีวิวของแอพที่เปิด  พร้อมกับปุ่มควบคุมบน Control Center จากเดิมใน iOS10 ที่แสดงเพียงแค่ไอคอนของแอพเท่านั้น

Files แอพจัดการไฟล์บนไอแพด

เมื่อวานนี้แอปเปิลได้หลุดข้อมูลแอพ Files ขึ้นมาบน App Store ไม่กี่ชั่วโมงก่อนงาน WWDC เมื่อถึงเวลางาน  ทางแอปเปิลก็ได้เปิดตัวแอพนี้ออกมาอย่างเป็นทางการ

แอพ Files นี้จะเปิดให้ผู้ใช้สามารถจัดการไฟล์ต่างๆ ได้ทั้งไฟล์จากบนไอแพดเอง  รวมไปถึงบริการเก็บไฟล์บนคลาวด์ต่างๆ ด้วย  ไม่ว่าจะเป็น iCloud, Google Drive, OneDrive, หรือ Dropbox ด้วย

นอกจากนี้แอพ Files ยังรองรับการใช้งานแบบ Drag and Drop ด้วย  นั่นคือผู้ใช้สามารถลากไฟล์จาก Files ไปใส่ในแอพอื่นๆ เพื่อเปิดไฟล์ขึ้นมาในแอพนั้นๆ ได้ทันที

แอพ Notes รองรับการวาดด้วย Apple Pencil

ใน iOS11 ได้มีการปรับปรุงแอพ Notes บน iPad ใหม่  โดยจะรองรับการวาดและจดข้อความด้วย Apple Pencil แล้ว  และแอพ Notes จะใช้เทคนิค OCR ในการจดจำลายมือเป็นข้อความให้โดยอัตโนมัติ  เพื่อให้ผู้ใช้สามารถค้นหาโน้ตที่เขียนด้วยลายมือได้

แอพ Camera รองรับการสแกนเอกสารในตัว

ในช่วงหลังนี้แอพที่ใช้ถ่ายรูปเอกสารแล้วแปลงเป็น PDF เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ (ล่าสุด Adobe ก็เพิ่งเปิดตัว Adobe Scan ไป) ซึ่งใน iOS11 บน iPad นี้  แอปเปิลก็ได้เพิ่มฟีเจอร์ลักษณะเดียวกันเข้ามาในแอพกล้องด้วยเช่นกัน


iOS11 จะรองรับ iPad 5 หรือใหม่กว่า, iPad Air หรือใหม่กว่า, iPad Mini 2 หรือใหม่กว่า, และ iPhone 5s หรือใหม่กว่า  โดยในตอนนี้ได้เปิดให้ทดสอบแบบ Developer แล้ว  ส่วนตัวจริงจะปล่อยให้อัพเดทกันในเดือนกันยายนนี้

อ้างอิง – TechCrunch (1), TechCrunch (2), Neowin, Mashable