รู้จักกับ Samsung Galaxy A 2017 เปลี่ยนโฉมใหม่ดูดีมีฟีเจอร์พร้อม!

Samsung Galaxy A 2017 ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงตระกูลหนึ่งของ Samsung นอกเหนือจาก J-Series ที่จับกลุ่มตลาดฐานใหญ่ราคาต่ำหมื่นบาทลงมา S-Series, Note-Series ที่จับกลุ่มตลาดฐานไฮเอนด์ในระดับราคาสองหมื่นขึ้นไป โดยตระกูล A-Series จะอยู่ระดับราคาหมื่นต้นถึงหมื่นกลางๆ ปีนี้นับเป็นปีที่ 3 ของตระกูล A-Series โดยใช้ชื่อเรียกเหมือนเดิมคือ A7, A5 แล้วมีเลขปีต่อท้ายเป็น A7 (2017) และ A5 (2017) ปีนี้มาแปลกตรงที่ A7, A5 นั้นมีสเปคเหมือนกันโดยภาพรวม จะแตกต่างก็ตรงขนาดหน้าจอ ขนาดเครื่อง ที่แตกต่างกันไป โดยที่ A7 (2017) จะใช้หน้าจอขนาด 5.7” Full HD  ส่วน A5 (2017) จะใช้หน้าจอขนาด 5.2” Full HD โดยทั้งสองรุ่นจะใช้จอแบบ Super AMOLED ซึ่งถือว่าเป็นสเปคจอระดับสูงที่ Samsung เลือกใช้สำหรับสมาร์ทโฟนในระดับ Hi-End ทั้งสองรุ่นมีสเปคของฮาร์ดแวร์ดังนี้

ข้อมูล Samsung Galaxy A 2017 | A5 2017 | A7 2017

  • 5.7” FHD 1080p, 386 ppi, Ratio 73.6% ของขนาดหน้าจอ (รุ่น A7)
  • 5.2” FHD 1080p, 424 ppi, Ratio 71.5% ของขนาดหน้าจอ (รุ่น A5)
  • หน้าจอแบบ Super AMOLED Display Gorilla Glass
  • รองรับระบบ 4G LTE FDD Cat 6 (300/50 Mbps) 2CA, Band 1/2/3/4/5/7/8/17/20/28
  • รองรับระบบ 4G LTE TDD Band 38/40/41
  • รองรับระบบ 3G HSPA+ Quad band, GSM Quad band
  • รองรับการใช้งานแบบ Dual SIM (Nano SIM) : SIM 1 รองรับ 4G/3G/2G, SIM 2 รองรับ 3G/2G
  • CPU : Exynos 7880 Octa Core 1.9 GHz Cortex A53, GPU : Mali-T830MP3
  • RAM 3 GB, ROM 32 GB, Micro SD เพิ่มได้สูงสุด 256 GB
  • กล้องหลัง 16 MP CMOS F/1.9 AF, 27 มม. พร้อมไฟ LED Flash
  • กล้องหน้า 16 MP F/1.9 พร้อมไฟแฟลชจากหน้าจอ
  • WiFi 802.11 a/b/g/n/ac Dual Band, WiFi Direct
  • Finger print scan, Always On Display, กันน้ำได้ลึก 1.5 เมตร เป็นเวลา 30 นาที และกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP68
  • รองรับ Samsung Pay, FM Radio
  • Bluetooth 4.2 , ANT+, NFC, USB Type C 1.0
  • Android Marshmallow เวอร์ชัน 6.0.1
  • ความจุแบตเตอรี 3,600 mAh สำหรับรุ่น A7 และ 3,000 mAh สำหรับรุ่น A5

ดีไซน์และการออกแบบ

Samsung Galaxy A 2017 ออกมาเป็นแบบ Unibody ซึ่งดูไปแล้วก็คล้ายกับการดีไซน์ของ Galaxy S7 ในปีที่ผ่านมา ใช้กระจกเป็นองค์ประกอบทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยกระจกด้านหน้าที่เป็น 2.5 D โค้งเข้าหาแกนกลางของเครื่องที่เป็นโลหะได้อย่างกลมกลืน ขณะที่กระจกด้านหลังที่เป็น 3D จะโค้งเข้ามากหน่อยทำให้การจับในอุ้งมือดูกระชับและลงตัวมาก ต่างจาก A-Series ของปีก่อนที่กระจกด้านหน้าเป็น 2.5 D ก็จริง แต่ด้านหลังนั้นเป็นแบบตรง ไม่สอดรับกับโครงสร้างแกนกลางของเครื่องทำให้เวลาถือจะรู้สึกตรงๆ คมๆ ไม่สอดรับในเวลาถือเท่าไร

สำหรับ Galaxy A5 (2017) ในไซส์ขนาดหน้าจอ 5.2” ถือว่าเป็นขนาดที่ลงตัวมากๆ ด้วยขนาดหน้าจอที่ไม่เล็ก แต่ก็ใหญ่พอดีในการใช้งาน การทำงานด้วยมือเดียวก็ง่ายเพราะขนาดเครื่องกำลังพอดี (กว้าง 71.4 มม.) ขณะที่ Galaxy A7 (2017) ในขนาดหน้าจอ 5.7” ก็ไม่ได้รู้สึกใหญ่แต่อย่างใด วางเทียบกับ iPhone 7 Plus ที่มีขนาดหน้าจอ 5.5” ตัวเครื่อง A7 ยังมีขนาดที่สั้นกว่าเสียด้วยซ้ำขณะที่ความกว้างก็น้อยกว่าอีกด้วย (กว้างเพียง 77.6 มม.) ทำให้ขนาดของ A7 น่าจะถูกใจคนที่อยากได้สมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่แต่เครื่องไม่ใหญ่ ตัวเครื่องมีการดีไซน์ที่พัฒนาไปอีกขั้นหนึ่งจากปีก่อน โดยเครื่องเป็นแบบแบตเตอรี่ Built-in ตามสไตล์เครื่องรุ่นใหญ่ซึ่งสมัยนี้จะไม่มาถอดแบตฯกันอีกแล้ว เพราะฉะนั้นการใส่ซิมก็จะเป็นแบบถาดซิม

Samsung Galaxy A 2017 | A5 (2017) และ A7 (2017)

A5 และ A7 เวอร์ชันปี 2017 สเปคข้างในทุกอย่างเหมือนกัน ต่างกันคือขนาดหน้าจอ

ด้านข้างเป็นช่องใส่ SIM 1 ส่วนด้านบนเป็นช่องใส่ SIM 2 + Micro SD การ์ด

โดยเครื่อง Samsung Galaxy A 2017 จะมีถาดซิมสองอัน ตรงด้านบนนั้นจะเป็นซิม 2 + Micro SD การ์ด ส่วนซิม 1 จะอยู่ด้านซ้ายของเครื่องฝั่งเดียวกับปุ่ม Volume ที่เอาไว้เพิ่มลดความดังเสียงนั่นเอง ส่วนปุ่ม Power ยังอยู่ด้านขวาตามเดิม เหนือปุ่ม Power จะมีรูลำโพงอยู่ (เป็นแบบลำโพงเดี่ยว) ซึ่งถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งแรกของ Samsung ที่ย้ายลำโพงมาอยู่ด้านข้างแทนที่จะอยู่ตรงก้นเครื่องเหมือนที่ผ่านมา แต่ก็ให้เสียงในระดับที่ดีเวลาปรับมุมเครื่องมาเป็นแนวนอนเพื่อดูไฟล์ VDO อย่าง YouTube ก็ให้เสียงในมิติที่ดี เพราะอยู่ตรงกลางเครื่อง ไม่ได้ค่อนไปทางด้านหนึ่งด้านใด

ขณะที่ด้านท้ายของเครื่องก็มีการเปลี่ยนแปลงในแง่ของ Connector ที่สำหรับต่อสาย USB โดยเปลี่ยนมาใช้ช่องต่อเชื่อมแบบ USB-C นั่นเอง ตามมาตรฐานของอุตสาหกรรมที่กำลังเปลี่ยนไปแล้ว สะดวกตรงที่จะกลับหัวกลับหาง Connector ยังไงก็เสียบเข้าไปได้ไม่มีปัญหา ส่วนช่องหูฟังแบบแจ๊ค 3.5 มม. ยังมีอยู่ไม่หายไปไหนไม่ต้องกังวล ใช้หูฟังเดิมฟังเพลงได้เลย หรือใครจะฟังเพลงผ่าน Bluetooth ก็สะดวกกว่าเพราะไม่มีสายมาให้เกะกะ

ตำแหน่งลำโพงถูกย้ายมาอยู่ด้านข้าง เหนือปุ่มเปิด/ปิด

ด้านบนเครื่องมีถาดใส่ SIM 2 + Micro SD การ์ด

ด้านล่างเป็นช่องเสียบสาย USB แบบ Type C และช่องแจ๊คหูฟัง 3.5 มม.

 

สำหรับด้านหน้าของเครื่องยังคงเอกลักษณ์การดีไซน์ของ Samsung ไว้ไม่เปลี่ยน โดยปุ่ม Home ด้านหน้ายังทำหน้าที่เป็นปุ่ม Scan ลายนิ้วมือเฉกเช่นรุ่นอื่นๆของ Samsung Galaxy ทั้งสิ้น ส่วนปุ่มสัมผัสด้านหน้าข้างๆ ปุ่ม Home ก็ยังทำหน้าที่เหมือนเดิม คือปุ่ม Back (ย้อนหลังกลับไป) และปุ่ม Multi Task (เพื่อเรียกดูแอพอื่นๆที่เปิดไว้) ภาพรวมของการออกแบบ Samsung Galaxy A 2017 ผมถือว่าออกแบบได้ลงตัวมากๆ เหมือนจะไม่มีอะไรใหม่ แต่พอได้ถือไว้ในมือแล้ว รู้สึกชอบไซส์ A5 – 5.2” ตรงที่จับถนัดกระชับมือ ไม่ใหญ่ไม่หนัก ขณะที่ A7 – 5.7” นั้นลงตัวกับความเป็น Big Screen ที่ไม่ใหญ่นักแต่ขนาดลงตัวกว่าสมาร์ทโฟนยี่ห้ออื่นที่มีขนาดใกล้เคียง ส่วนตรงตำแหน่งกล้องด้านหลังนั้น คราวนี้ถือว่าแก้ดีไซน์มาจากครั้งก่อน เพราะโมดูลใหม่นั้นไม่มีอะไรปูดโปนออกมาอย่างรุ่นก่อนๆ ทำให้ด้านหลังพื้นผิวเรียบกันทั่วทั้งแผ่น

สำหรับตัวเครื่องมีทั้งหมด 3 สีด้วยกันได้แก่ สีดำ สีฟ้า สีทอง ส่วนตัวชอบสีดำที่ดูดีมีสไตล์มากๆ สำหรับคนที่ชอบสีสว่างๆ แนะนำสีฟ้า ที่เป็นสีใหม่สำหรับ Samsung Galaxy เลย แต่ใครที่ชอบดูหรูหรา ก็แนะนำสีทองไปเลยครับ สำหรับกระจกด้านหน้าและด้านหลังของ A-Series นั้นเป็นกระจก Gorilla Glass แต่ทางผู้ผลิตไม่ได้ระบุสเปคมาเลยไม่รู้ว่าเป็นเวอร์ชันอะไร นั่นทำให้ตัวเครื่องค่อนข้างแข็งต่อการเป็นรอยขูดขีดได้ยาก (แต่ก็เป็นรอยได้นะครับ ถ้าใช้งานหนักๆ) และยังดูหรูหราไปอีกระดับหนึ่งของการออกแบบสมาร์ทโฟนในปีนี้

เทคโนโลยี การต่อเชื่อมไร้สาย (Wireless Connectivity) Dual SIM, NFC, MST และ Samsung Pay

เทคโนโลยีการต่อเชื่อมแบบไร้สาย Wireless Connectivity ของ Samsung Galaxy A 2017 นั้นรองรับการทำงานผ่านระบบ 4G ด้วยระบบ LTE Advanced Cat. 6 ที่รองรับการ Download / Upload ด้วยความเร็วสูงสุด 600 / 50 Mbps และยังรองรับการใช้งานในการรวมทรัพยากรสองคลื่นความถี่มาใช้ในเวลาเดียวกัน หรือที่เรียกกันว่า 2CA (2 x Carrier Aggregation) เพื่อให้สามารถรับส่งข้อมูลอินเตอร์เนตได้เร็วขึ้นกว่าเดิม ที่ทำงานได้เพียงครั้งละหนึ่งความถี่เท่านั้น (ระบบเครือข่ายต้องสนับสนุนและรองรับการทำงานด้วย)  สำหรับการรองรับการใช้ Dual SIM ในรุ่นนี้นั้น SIM 1 จะรองรับทุกเทคโนโลยีทั้ง 4G/3G/2G ส่วน SIM 2 นั้นรองรับ เปิดรอรับสายบนระบบ 2G เท่านั้น โดยในการใช้งานเราสามารถเลือกได้ว่าเวลาจะโทรออก หรือส่ง SMS รวมถึงการใช้ Data Internet ด้วย SIM ไหนเป็นหลัก นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชัน Download Booster ที่จะทำให้เราสามารถใช้ Internet ในระบบ WiFi และเครือข่าย 4G LTE ได้ในเวลาเดียวกัน เปรียบเสมือนเรามีท่อ Internet สองท่อทำงานไปพร้อมๆกัน ทำให้ความเร็วอินเตอร์เนตที่ได้จะมากกว่าการใช้งานทั่วไปแบบปกติเป็นทวีคูณ

Samsung Galaxy A 2017 Connection

เมนู ตัวจัดการ SIM การ์ด ให้เราสามารถสลับการใช้งานแต่ละซิมได้ตามต้องการ

ขณะที่ NFC ยังมีบทบาทมากสำหรับการใช้เป็นสื่อในการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนระหว่างเครื่อง สำหรับการส่งข้อมูลระหว่างกัน อย่างราบรื่นขึ้นกว่าเดิม ส่วน MST (Magnetic Secure Transmission) จะทำงานร่วมกับ Samsung Pay ในการส่งข้อมูลในการชำระค่าสินค้า และบริการต่างๆ ผ่านทางเครื่องรูดบัตรเครดิตแบบแถบแม่เหล็กที่มีอยู่แล้วทั่วไปแทบทุกร้านค้าในประเทศไทยและต่างประเทศ ทำให้ตอนนี้ Samsung Pay มีจุดบริการรองรับการให้บริการอยู่มากกว่าที่หลายๆ คนคิด ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ หรือร้านค้ามีชื่อ อย่าง The Mall, Siam Paragon, Emporium, Emquartier, BluPort, Central, Siam Center, Siam Discovery, Robinson, Zen @ CTW, Loft, Uniqlo, Boots, Zara, H&M, Etude, Innisfree, Gourmet Market, Tops Market, Home Fresh Mart, Central Food Hall, โรงภาพยนตร์ในเครือ SF Cinema และร้านค้าอีกมากมายกล่าวไม่หมด และยังมีขยายเพิ่มขึ้นไปอีกอย่างต่อเนื่อง โดยที่เราสามารถทำการผูกบัตรเครดิตที่รองรับการใช้ Samsung Pay แล้วอย่างบัตรเครดิตจากธนาคารต่างๆ ได้แก่ K-Bank, KTC, Citi, SCB, Krungsri, Bangkok Bank สะดวกง่ายได้ในสังคมยุคที่ Cashless Society กำลังจะมาถึง ไม่ควรพลาดเป็นอย่างยิ่งในการใช้ Samsung Pay ยิ่งตอนนี้มีโปรโมชั่นคืนเงินเมื่อใช้ และอีกมากมายสำหรับการฉลองการเปิดตัวบริการอย่างเป็นทางการ

Samsung Galaxy A 2017 Samsung Pay

Samsung Pay ช่วยให้การจับจ่ายใช้สอยเป็นเรื่องด้วย Smartphone Samsung ของคุณ

กล้องถ่ายภาพชัดทั้งหน้าทั้งหลัง ละเอียดเท่ากัน

กล้องของ Samsung Galaxy A 2017 ถือว่าเป็นการพัฒนาที่ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนๆ มาก โดยใช้กล้องหน้าและกล้องหลังพิกเซลเท่ากันเลยอยู่ที่ 16 ล้านพิกเซล F/1.9 กล้องหลังนั้นเป็นแบบ Auto Focus (AF) และมีทางยาวโฟกัสที่ 27 มม. ซึ่งถือว่ากว้างในระดับหนึ่ง เพียงพอต่อการไปถ่ายภาพวิวได้กำลังงาม นอกจากนั้นกล้องหลังยังมีไฟแฟลช 1 ดวง สำหรับถ่ายภาพที่มีสภาพแสงน้อย โดยเมนูกล้องในระบบเมนูใหม่ของ Samsung จะดูใช้ง่ายกว่าเดิมมาก โดยเอานิ้วปัดจากซ้ายไปขวาก็จะเมนูกล้องขึ้นมาเพื่อให้เราได้เลือกใช้ถึง 7 โหมด ได้แก่ โหมด Auto โหมดนี้ง่ายตั้งแล้วกดถ่ายอย่างเดียว, โหมด Pro อันนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบปรับแต่งการตั้งค่าตามต้องการก่อน ได้แก่การปรับชดเชยแสง (EV) การปรับ ISO ความไวแสงได้สูงสุด 800 การปรับ WB (White Balance) ตาสภาพแสงให้เหมาะสม หรือตามแต่เราชอบ โหมด Panorama ถ่ายภาพโหมดภาพกว้าง, โหมด Hyperlapse อันนี้สำหรับ VDO เท่านั้นโดยการถ่ายจะถ่ายไปเรื่อยตามที่เราต้องการ แล้วตอน Playback วิดีโอที่เห็นจะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วมากๆ, โหมด HDR สำหรับภาพที่มี Contrast ของแสงในองค์ประกอบเยอะ, โหมด กลางคืน สำหรับถ่ายภาพในช่วงเย็นช่วงค่ำ, โหมด อาหาร สำหรับคนที่ชอบการถ่ายภาพก่อนรับประทานอาหาร และยังมีให้เราดาวน์โหลดได้เองอีก 2 โหมดฟรี ได้แก่ โหมด กีฬา, โหมด GIF เคลื่อนไหว

หน้าจอในโหมดถ่ายภาพของ A-Series 2017 ที่เปลี่ยนมาใหม่

ขณะที่ถ้าเราเอามือปัดจากขอบจอไปด้านซ้าย จะมีเมนูโทนสีของฟิลเตอร์ให้เราเลือกกว่า 16 เฉด ซึ่งมีเฉดแบบขาวดำให้เลือกอีกด้วย อันนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบความหลากหลายในการปรับแต่งโทนสีตามอารมณ์ คล้ายๆที่มีอยู่ใน Instagram นั่นเอง และถ้ายังไม่หนำใจก็ยังมีให้ดาวน์โหลดเพิ่มอีกเพียบ เพียงแต่คลิ๊กไปที่เมนูด้านบนที่เขียนว่า “Download” ก็จะนำเราไปดู Catalog เพิ่มเติมแล้วเลือกโหลดได้ฟรี

เมนูฟิลเตอร์ให้เลือกใช้หลากหลายเฉด พร้อมให้ดาวน์โหลดเพิ่มได้อีกด้วย

จากการทดสอบนั้นภาพที่ถ่ายในเวลาการกลางวันที่มีแสงแดดดีภาพที่ได้จะมีความคมชัดสูงใช้ได้เลยทีเดียว ส่วนสภาพแสงน้อยหรือในร่มก็ถือว่าทำได้ดีครับ แต่เนื่องจากไม่มีระบบกันสั่น ก็แนะนำให้ถือให้มั่นๆมืออย่าสั่น ก่อนที่จะถ่ายภาพ สำหรับการถ่ายภาพนั้นเราสามารถปรับความละเอียดและสัดส่วนภาพได้ถึง 6 ทางเลือก (ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง) ไม่ว่าจะเป็นภาพแบบ 4:3 หรือ 16:9 และ 1:1 ความละเอียดก็แปรผันไปกับสัดส่วนของภาพด้วย ตั้งแต่ 6 M, 8 M, 12 M, 16 M สำหรับการบันทึกไฟล์วิดีโอนั้นก็สามารถความละเอียดได้เช่นกัน (ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง) ตั้งแต่ขนาด VGA (640×480), HD (1280×720), 1:1 (1072×1072) สำหรับพวก Instagram, และแบบ FHD (1920×1080) ซึ่งส่วนตัวก็เพียงพอแล้วสำหรับการใช้งานทั่วไป

สำหรับกล้องหน้าที่ใช้ในการถ่ายภาพแบบ Selfie นั้นจะมีระบบเมนูแตกต่างไปเล็กน้อย นั่นคือโหมดของการถ่ายภาพ เมื่อเอานิ้วปัดไปใช้กล้องหน้า แล้วเอานิ้วลากขอบซ้ายไปทางขวา จะมีโหมดถ่ายภาพ 4 โหมด ได้แก่ โหมด ถ่ายภาพตนเอง อันนี้ก็ปกติ ซึ่งสามารถตั้งค่าจับเวลาให้เครื่องนับถอยหลังให้เราก่อนที่จะลั่นชัตเตอร์ได้ ตั้งแต่ 2 วินาที 5 วินาที 10 วินาที นอกจากนั้นยังสามารถให้กล้องถ่าย 3 ภาพต่อเนื่องหลังจากตัวนับเวลาถอยหลังเป็น 0 แล้ว ทำให้สามารถทำภาพถ่ายต่อเนื่อง 3 แอ็คชั่นเลย (อย่างกะตู้ถ่ายสติ๊กเกอร์ตามห้าง) แล้วการสั่งให้กล้องหน้าถ่ายภาพก็ง่ายๆ ถ้าไม่อยากเอื้อมมือไปแตะปุ่มชัตเตอร์ ก็เพียงเลือกเมนูคำสั่ง “การควบคุมท่าทาง” ให้เปิดไว้ หลังจากนั้นเพียงยกฝ่ามือขึ้นในเฟรมกล้อง กล้องก็จะถ่ายภาพให้เราได้ทันที สะดวกง่ายได้มาก แม้เราจะใช้การตั้งขาตั้งกล้องแล้วอยู่ห่างจากตัวกล้องก็ตาม

ยังมีอีกโหมดสำหรับคนชอบถ่ายภาพแบบฟรุ้งฟิ้งคือโหมดหน้าสวย โหมดนี้จะช่วยให้เราทำสีผิวให้สว่างขึ้นได้ ทำหน้าให้เพรียวลงได้ และทำตาให้โตตามต้องการได้ อันนี้นี่เป็นการปรับตามใจผู้ใช้เลย จะได้หล่อ ได้สวย ได้เพรียว ได้ตาโตโดยไม่ต้องใส่คอนแท็คฯ อย่างที่ต้องการ ฮ่าๆๆ ทำแล้วหน้าตาผมดูผอมลงได้อย่างปาฏิหาริย์เลยคร้าบ อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องกล่าวคือกล้องหน้ามี Display Flash ด้วยนะครับบางคนมองหาไฟแฟลช LED ที่กล้องหน้า แต่เอ๊ะ มันอยู่ไหนล่ะ ต้องบอกว่ายุคนี้เขาหันมาใช้ Display Flash กันแล้ว คือใช้หน้าจอส่องแสงสว่างให้พอเหมาะกับสภาพแสงตอนนั้นแล้วลั่นชัตเตอร์ในเวลาเดียวกัน หน้าเราก็จะไม่มืดอีกต่อไปแล้ว

ระบบเมนูกล้องที่ให้เราควบคุมการตั้งค่าต่างๆ ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอ

ตัวอย่างภาพจาก A7-Series 2017

สภาพแสงน้อยก็ยังให้ภาพที่ดูสวย

ภาพกลางแจ้งแม้ในยามมีเมฆมาก

  ถ่าย Selfie กล้องหน้าพร้อมไฟแฟลชหน้าจอ

   ถ่ายภาพในแสงไฟ Warm white ก็ให้สีที่ออกมาดี

 ภาพแบบ Animated GIF ที่สามารถทำเล่นเองได้สนุกๆ

ฟีเจอร์ใหม่ ฟีเจอร์เพิ่ม ทำให้ดูดีขึ้นมาก – Secure Folder, กันน้ำ กันฝุ่น IP68, Fingerprint Scan + Samsung Pay

ฟีเจอร์ที่เติมเข้ามาแล้วทำให้แตกต่างจากคู่แข่งในระดับเดียวกันได้เป็นอย่างดี Secure Folder (โฟลด์เดอร์ปลอดภัย) อันนี้เป็นฟีเจอร์ที่ทาง Samsung วางไว้เปิดตัวตอน Galaxy Note 7 ก่อนหน้า ล่าสุดนำมาใช้กับ Samsung Galaxy A 2017 ซึ่งหลายๆ คนนั้นเฝ้ารอฟังก์ชันนี้อยู่ Secure Folder จะเป็นเหมือนกับการแบ่งพื้นที่ในเครื่องให้เราแยกจัดเก็บไว้ต่างหากจากการมองเห็นปกติของเครื่อง โดยใน Secure Folder เราสามารถที่จะเก็บข้อมูลต่างๆ แยกออกมาได้ ไม่ว่าจะเป็นไฟล์เอกสาร ไฟล์รูปภาพ ไฟล์วิดีโอ รายชื่อติดต่อ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล โน้ตจดบันทึก หรือแม้แต่ Browser ที่ใช้อยู่ก็มาใช้ในนี้ได้เพื่อป้องกันไม่ให้ใครมาติดตามดูได้ว่าเราใช้ Internet อย่างไร

อีกอันที่หลายๆ คนชอบก็คือใน Secure Folder เราสามารถติดตั้งแอพฯต่างๆ แยกบัญชีออกจากเครื่องเมนปกติ ทำให้เราสามารถตั้งค่าแอพฯแยกออกจากกันได้ ในที่นี้ทำให้เราสามารถเซท Facebook ไว้สองอันได้ อันหนึ่งก็ใช้ปกติ แต่อีกอันหนึ่งอาจจะลับมาก ก็แยกมาใช้ใน Secure Folder ได้เลยไม่ให้คนอื่นรู้ หรือมี Line 2 บัญชี Instagram 2 บัญชี Twitter 2 บัญชีได้ โดยลงปกติไว้อันหนึ่ง อีกอันมาลงไว้ใน Secure Folder ทำให้ง่ายต่อการจัดการ แทนที่จะต้องใช้สมาร์ทโฟนสองเครื่องในการเซท 2 บัญชี (ปกติเครื่อง 1 เครื่องเราลงแอพฯพวกนี้ได้บัญชีเดียวเท่านั้น) เวลาจะเข้าใช้ก็ต้องใช้การใส่รหัส หรือใช้ Finger Print Scan ในการผ่านเข้าไปใช้ได้ อันนี้ต้องขอชมว่ามีประโยชน์มาก ตอนนี้ยังไม่มีมือถือสมาร์ทโฟนรายใดทำได้แบบ Samsung เพราะฉะนั้นใครที่มีความต้องการในรูปแบบนี้ก็ต้องบอกว่าเหมาะมากครับ

ฟังก์ชันต่อมาก็คือการป้องกันน้ำ ป้องกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP 68 โดยสามารถอยู่ในน้ำระดับความลึก 1.5 เมตรในระยะเวลา 30 นาทีโดยเครื่องไม่เป็นอะไร ซึ่งปัจจุบันการป้องกันไม่ให้เครื่องสัมผัสโดนน้ำก็ยังเป็นเรื่องที่ต้องระวังอยู่เสมอ ก่อนหน้านี้จะมีเพียง Galaxy S7, S7 edge เท่านั้นที่กันน้ำได้ ซึ่งคุณสมบัตินี้ทำให้ A-Series 2017 ดูหล่อขึ้นมาเลยละ เพราะระดับราคาตรงนี้ยังไม่มีคู่แข่งเลย เวลาเครื่องเปื้อนก็สามารถใช้น้ำจืด (น้ำประปาทำความสะอาดได้เลย) แต่ต้องห่างจากน้ำเกลือ หรือน้ำทะเล น้ำสบู่หรือสารเคมีอื่นๆ นะครับ อันนั้นไม่สามารถป้องกันได้แน่ๆ ครับ

อีกสิ่งหนึ่งคือ Finger Print Scan ที่ไม่ใช่เพียงการปลดล็อคเครื่อง แต่ยังใช้ร่วมกับการใช้ Secure Folder รวมถึงการใช้เป็นระบบความปลอดภัยของ Samsung Pay ก่อนที่จะทำการจ่ายค่าบริการหรือสินค้าผ่านทางระบบ Samsung Pay ซึ่งได้เกริ่นถึงไปแล้วว่าปัจจุบันมีความสนใจเพิ่มขึ้นอย่างมากมายและมีร้านค้าที่พร้อมรองรับการใช้งานแล้ว โดยก่อนการใช้สมาร์ทโฟนของเราไปแตะเพื่อจ่ายผ่านทาง Samsung Pay เราต้องใช้ Finger Print Scan แตะกับนิ้วมือเราเพื่อการยืนยันว่าเราเป็นผู้ใช้ตัวจริงหลังจากนั้นก็นำเอาสมาร์ทโฟนของเราไปทำการจ่ายเงินได้ทันที ทดสอบ Finger Print Scan ของรุ่นนี้ต้องบอกว่าสแกนและปลดล็อคได้เร็วกว่ารุ่นก่อนครับ เร็วทันใจดี

ระบบเมนู Secure Folder เข้าไปจะเห็นแอพต่างๆที่ถูกเก็บแยกมาเพื่อป้องกันคนอื่นมาใช้และยังโหลดเพิ่มได้

ระบบเมนู (User Interface), แอพฯที่ติดตั้งมาจากโรงงาน, และประสิทธิภาพ (Performance)ของเครื่อง

Samsung Galaxy A 2017 ทำงานอยู่บนระบบ Android 6.0 พร้อมระบบเมนูของการใช้งานที่ดูสะอาดตาช่องไฟระหว่างไอคอนก็พอดี ไม่ดูอึดอัด เมนูย่อยๆที่อยู่ใน Setting ก็เข้าใจง่ายเป็นสไตล์ Contemporary ด้าน Home Screen ก็วางแอพฯที่เป็นมาตรฐานเพื่อพร้อมใช้งานอย่างลงตัว นอกจากนั้นยังมาพร้อมกับ Microsoft Apps (Excel, Word, Powerpoint, OneNote, OneDrive, Skype) ให้พร้อมใช้งานได้ในทันที ส่วน Google Services App ก็มาพร้อมเป็นมาตรฐานอยู่แล้ว นอกจากนี้ก็ยังมี Samsung Pay, Facebook, Samsung Notes, Calculator, FM Radio, Galaxy Gift, Opera Max ที่พร้อมใช้งาน ดูๆไปก็ไม่เยอะมาก เพื่อไม่ให้ผู้ใช้กังวลในเรื่องพื้นที่จัดเก็บที่เหลืออยู่เมื่อเปิดเครื่องมา การใช้งานในแนว Entertainment ก็ถือว่าลงตัวด้วยหน้าจอแบบ Full HD Super AMOLED ให้คุณภาพภาพที่ยอดเยี่ยม ระบบเสียงแม้จะมีลำโพงตัวเองแต่ตำแหน่งจัดวางที่อยู่ด้านข้างทำให้ไม่ต้องกังวลว่าเวลาถือตามแนวนอนแล้วนิ้วของเราจะไปบังลำโพงเข้า

ระบบเมนูของ A-Series 2017 ดูสะอาดตา ตามสไตล์ Samsung

ระบบเมนูการตั้งค่าที่ดูง่าย และรองรับการใช้งานฟังก์ชัน Gesture Control มากมายตามสไตล์เครื่องรุ่นใหญ่

(ซ้าย) ระบบทางลัดด้วยการลากเมนูจากด้านบนลงมา (ขวา) ระบบ Always On Display

หน้าตาแอพฯต่างๆ จากซ้ายไปขวา       ปฏิทิน / เครื่องคิดเลข / สมุดโทรศัพท์ / การโทรศัพท์

 

Galaxy Essentials มีให้ผู้ใช้ได้ดาวน์โหลดแอพ รวมถึง Themes และ Wallpapers ที่มีทั้งฟรีและเสียเงิน

ฟังก์ชันการใช้ Multi Windows ช่วยให้คุณจัดการงานหลายๆหน้าต่างได้ในเวลาเดียว

ฟังก์ชันการใช้งานแบบมือเดียว ช่วยย่อหน้าจอของเมนูให้เล็กลงเพื่อการทำงานได้สะดวกยิ่งขึ้นเมื่อต้องการ

แอพพลิเคชั่นที่จำเป็นก็มีมาพร้อม ไม่ว่าจะเป็น Google Services หรือ Microsoft Office

Samsung Notes ช่วยให้หน้าจอใหญ่ๆ กลายเป็นแอพฯโน้ตเพื่อจดบันทึกอย่างชาญฉลาด

ถึงแม้จะไม่มีปากกาเหมือน Galaxy Notes แต่เราก็ใช้นิ้วของเราเขียนออกมาได้นะ

 

การทดสอบประสิทธิภาพของเครื่องด้วยการทดสอบผ่านแอพฯ Antutu Benchmark ผลการทดสอบออกมาน่าพอใจด้วยค่าคะแนนการทดสอบอยู่ที่ 60,000-61,000 (ทดสอบแต่ละครั้งคะแนนจะไม่เท่ากันเสมอไป) ถือว่าให้ Performance ที่น่าพอใจกับสเปคในระดับนี้

ทดสอบด้วยแอพฯ ยอดนิยม Antutu Benchmark ได้ผลที่น่าพอใจ

สอบผ่านครับสำหรับ Samsung Galaxy A 2017 สำหรับราคาเปิดตัวอยู่ที่

  • Samaung Galaxy A7 (2017) ราคา 16,490 บาท
  • Samsung Galaxy A5 (2017) ราคา 14,490 บาท

ตอนนี้มีโปรโมชั่นสำหรับคนที่ซื้อไปจะได้ รับเงินคืน 1,500 บาทผ่านทาง Samsung Galaxy Gift Card (ภายใน 31 มีนาคมนี้เท่านั้น) พร้อมทั้งยังรับประกันเปลี่ยนจอฟรี ภายใน 1 ปี ในกรณีตก แตก ร้าว ถือว่าคุ้มมากครับ ถ้าอยากให้แน่ใจไปลองทดสอบเครื่องจริงได้ที่ร้าน Samsung Shop หรือร้านตัวแทนจำหน่าย ก่อนตัดสินใจว่าจะเป็น A7 หรือ A5 ที่เหมาะกับคุณ อย่ารอช้าทั้งสองรุ่นรอคุณอยู่ ณ ร้านขายสมาร์ทโฟนทั่วประเทศ

ปิดท้ายด้วย คลิปรีวิวสด ของพี่หลาม และ อ.ศุภเดช เจาะสเปคกันแบบทีละจุด ตามด้วยการจุ่มน้ำพิสูจน์ว่ากันน้ำได้จริงหรือไม่