เซลฟี่แล้วหน้าบานใช่ไหม? งานวิจัยใหม่นี้จะช่วยให้ภาพกลับมาสวยเช้ง!

ปกติแล้วภาพถ่ายเซลฟี่มักจะมีลักษณะที่บวมตรงกลาง  เช่นจมูกโตขึ้น  หน้าผากกว้างขึ้น  และถูกบีบให้เล็กลงในส่วนขอบ  เช่นโครงหน้าที่แคบลง  และใบหูที่เล็กลง  ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นผลมาจากการใช้เลนส์มุมกว้าง (ทางยาวโฟกัสต่ำ) ในกล้องหน้าของโทรศัพท์นั่นเอง  ซึ่งหากเทียบกับภาพที่ถูกถ่ายโดยกล้องถ่ายรูปที่ใช้เลนส์มุมแคบกว่า (ทางยาวโฟกัสสูง) โครงหน้าจะมีความสมส่วนมากกว่าภาพเซลฟี่ โดยเฉพาะเมื่อถ่ายที่ระยะราว 50mm ที่ใกล้เคียงกับสายตาเรามากที่สุด

How camera lenses work.

ปัญหาคือกล้องโทรศัพท์มือถือนั่นไม่สามารถเปลี่ยนทางยาวโฟกัสได้  ดังนั้นแล้วการถ่ายเซลฟี่เพื่อให้ได้ภาพออกมามีเค้าโครงหน้าเหมือนจริงที่สุด  ดูจะเป็นเรื่องที่ลำบากไม่ใช่น้อย  ซึ่งถ้าจะใช้แอพแต่งรูปทั่วไปในตอนนี้  อาจจะได้โครงหน้าที่ผิดเบี้ยวผิดเพี้ยนไปมากกว่าเดิมเสียอีก (ดูเป็นคนละคนไปเลย)

ซึ่งสำหรับใครที่ต้องการภาพเซลฟี่ที่ได้โครงหน้าเหมือนจริงมากที่สุด  ตอนนี้มีข่าวดีแล้วครับ  เมื่อนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยปรินสตันได้นำเสนอโปรแกรมต้นแบบที่ใช้สำหรับแก้ไขโครงหน้าในภาพถ่าย  ให้ออกมาเหมือนกับการถ่ายจากอีกทางยาวโฟกัสหนึ่ง (เช่นภาพถ่ายที่ทางยาวโฟกัส 18mm สามารถแก้ให้ดูเหมือนถ่ายที่ทางยาวโฟกัส 50mm ได้) นอกจากนี้โปรแกรมยังใช้ปรับการก้มเงย  รวมถึงบิดซ้ายบิดขวาได้อีกด้วย

ozw2s73utmtfzz76w18d

โดยการทำงานของโปรแกรมนั้นจะเป็นการวิเคราะห์โครงหน้าในภาพออกมาเป็นโมเดลสามมิติ  โดยผู้ใช้จะต้องทำการระบุจุดสำคัญสามจุด  คือปลายหูซ้าย  ปลายหูขวา  และส่วนบนของหน้าผาก  จากนั้นโปรแกรมจะวิเคราะห์ภาพออกมาเป็นโมเดลสามมิติ  และให้ผู้ใช้สามารถปรับค่าทางยาวโฟกัส  มุมก้มเงย  หรือหันซ้ายขวาได้ต่อไป  ซึ่งวิธีที่นักวิจัยใช้นี้  ยังสามารถนำไปใช้สำหรับสร้างภาพสามมิติสำหรับทั้งภาพนิ่งและวิดีโอได้อีกด้วย

หากใครสนใจอยากลองเล่น  สามารถกดเข้าไปลองได้ในลิงค์นี้ครับ

ความเห็นของเรา

 

ใครที่ถ่ายภาพบ่อยๆ อาจจะเจอปัญหาคล้ายๆ กันแบบนี้  คือถ่ายมาภาพดูดีทุกอย่าง  หากแต่เหลือจุดตะขิดตะขวงใจอยู่เล็กน้อย  เช่นหันซ็ายมากไป  ก้มหน้ามากไป ฯลฯ ซึ่งเมื่อถ่ายใหม่ภาพก็ยิ่งเละไปกว่าเดิม  ไม่ได้อย่างที่ต้องการเสียที  สุดท้ายแล้วก็ต้องเอาไปนั่งแก้ไขในโปรแกรมแต่งภาพกันต่อไป  ซึ่งทุกวันนี้เราจำเป็นต้องมานั่งปรับแก้ทีละส่วนเอง  ซึ่งหลายครั้งมักให้ผลออกมาเป็นภาพดูแปลกไปกว่าเดิมเสียอย่างนั้น

เทคนิคการแก้ไขภาพที่นักวิจัยได้นำเสนอมาในข่าวนี้  จะช่วยให้ช่างภาพ (หรือใครก็ตาม) สามารถแก้ไขภาพได้สะดวกขึ้น  ถูกต้องมากขึ้น  และใช้เวลาน้อยลงครับ

แม้ในตอนนี้เทคนิคนี้จะยังไม่สามารถให้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง 100% ได้  แต่นักวิจัย (ซึ่งได้นักวิจัยจาก Adobe มาร่วมด้วยอีกแรง) กำลังช่วยกันปรับปรุงให้โปรแกรมสามารถทำงานได้ถูกต้องมากขึ้น  ซึ่งเมื่อถึงจุดที่น่าพอใจแล้ว  คาดว่าคงมีการออกโปรแกรมมาให้ใช้กันอย่างแน่นอนครับ (โดยเฉพาะในโปรแกรมอย่าง Photoshop หรือ Lightroom)

ที่มา – Gizmodo