ผู้บริหาร Apple โอด การทำตามคำขอของ FBI อาจกระทบความปลอดภัยผู้ใช้ iOS ทั้งหมด

Craig Federighi ผู้บริหารของ Apple กล่าวว่าสิ่งที่ FBI ต้องการ จะทำให้การใช้งานของผู้ใช้ iOS มีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น

Craig Federighi_Apple

Craig Federighi รองประธานอาวุโสฝ่าย software engineering ของ Apple กล่าวว่า สิ่งที่ทาง FBI ต้องการให้บริษัทฯทำนั้น จะทำให้ผู้ใช้งานระบบปฏิบัติ iOS มีความเสี่ยงสูงที่ระบบจะถูกโจมตีสูงขึ้น จากความเห็นที่ได้ให้ไว้กับทางสื่อ Washington Post

Apple กำลังอยู่ในขั้นตอนการต่อสู้กับคำสั่งศาล ที่จะบีบให้ Apple นั้นสร้างซอฟต์แวร์ตัวใหม่สำหรับ FBI ซึ่งทาง FBI จะได้ปลดล็อค iPhone 5c ที่เป็นของมือปืนที่กราดยิงผู้คนที่ศูนย์บริการสังคมที่ San Bernadino ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่ฆ่าชีวิตผู้คนไป 14 ราย

บริษัทฯได้พูดย้ำเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว รวมไปถึงการออกจดหมายไปถึงลูกค้า และก่อนจะพบคณะกรรมการตุลาการ ว่าการกระทำดังกล่าวอาจมีผลกระทบกับความปลอดภัยของผู้ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS ทั้งหมดได้

แนวคิดของ Apple ได้รับการสนับสนุนเมื่อช่วงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งในทางกฎหมายนั้นเหมือนกับกรณีคดีที่เกิดขึ้นที่ New York ซึ่งศาลแขวงนิวยอร์กตัดสินว่ารัฐบาลไม่มีสิทธิ์บังคับให้ Apple ปลดล็อค iPhone

Apple ได้หยิบยกกฎหมายหลายตัวมาอ้างอิง โดยเฉพาะกฎหมาย All Writs Act ปี 1789 ที่บริษัทฯยืนยันว่าไม่สามารถใช้บังคับให้ Apple ปลดล็อค iPhone ของลูกค้าได้

นอกจากนี้ Apple มีสิทธิ์ที่จะไม่ทำตามข้อเรียกร้องของรัฐบาลก็ได้ โดยอาศัยบทบัญญัติของกฎหมาย Communications Assistance for Law Enforcement Act ปี 1994 ซึ่งได้แก้ไขเนื้อหาว่าด้วยการดักฟัง

เนื้อความที่เขียนในสื่อ Washington Post ระบุว่า

The FBI wants to roll back safeguards that keep us a step ahead of criminals

หรือแปลตรงตัวว่า FBI นั้นต้องการให้ Apple แก้ไขระบบความปลอดภัยของอุปกรณ์ iOS device เพื่อจะได้ก้าวนำพวกอาชญากรไป 1 ก้าว

ซึ่งทาง Federighi ได้พูดถึงประเด็นนี้ว่า การทำตามคำขอของ FBI นั้น จะเพิ่มความเสี่ยงให้กับเทคโนโลยีการถอดรหัส (encryption technology) ของ Apple ทำให้ทีมวิศวกรที่ทำงานเกี่ยวกับความปลอดภัยระบบนั้นเสียเวลาไปแบบเปล่าประโยชน์ และยังเป็นการสร้างช่องโหว่ให้กับพวกอาชญากรในการโจมตีระบบอีกด้วย

กรณีที่เกิดขึ้นดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก สำหรับเรื่องความปลอดภัยระบบและข้อมูลความลับของลูกค้า

มีหลายบริษัทที่ให้การสนับสนุน Apple ยกตัวอย่างเช่น Box, Google, Facebook, Microsoft และ Twitter เป็นต้น

นอกจากนี้ ตัวแทนด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติก็ให้การสนับสนุน Apple ด้วยเช่นกัน

ข้อมูลและรูปภาพจาก : techcrunch