OpenAI เปิดตัว GPT-4o โมเดลใหม่ล่าสุด มาพร้อมกับประสิทธิภาพและการทำงานที่รวดเร็ว เปิดให้ผู้ใช้ ChatGPT แบบฟรีได้ใช้งาน พร้อมเผยเครื่องมือและความสามารถใหม่ๆ ที่น่าทึ่ง
GPT-4o (คำว่า “o” ที่ต่อท้ายมาจากคำว่า “Omni”) เป็นโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ที่ OpenAI ยืนยันว่ามีสมรรถนะเทียบเท่ากับ GPT-4 แต่ทำงานได้รวดเร็วกว่ามาก และมีความสามารถที่พัฒนาขึ้นทั้งด้านข้อความ เสียง และภาพ โดยที่ GPT-4o ฉลาดและเข้าใจเกี่ยวกับรูปภาพที่ผู้ใช้ส่งให้ เช่น ถ่ายรูปเมนูอาหารที่เป็นภาษาอื่นแล้วคุยกับ GPT-4o ให้ช่วยแปล เล่าประวัติความเป็นมาและความสำคัญของอาหารนั้น รวมถึงแนะนำเมนูให้ด้วย
ในอนาคต การพัฒนาจะทำให้สามารถสนทนาด้วยเสียงแบบทันทีและคุยกับผู้ใช้ผ่านวิดีโอได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น เช่น ผู้ใช้ถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาให้ ChatGPT ดูแล้วถามให้อธิบายกฎกติกา
ทาง OpenAI วางแผนเปิดตัว Voice Mode รุ่นอัลฟ่าที่มีความสามารถใหม่เหล่านี้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยผู้ใช้แบบ Plus จะได้ใช้ก่อนในช่วงแรก ก่อนที่จะเปิดให้บริการในวงกว้างต่อไป
นอกจากนี้ GPT-4o ยังพัฒนาความสามารถด้านภาษาให้ดีขึ้นทั้งคุณภาพและความเร็ว เพื่อให้ AI ขั้นสูงเข้าถึงได้ง่ายและใช้ประโยชน์ได้ทั่วโลก ตอนนี้ ChatGPT รองรับมากกว่า 50 ภาษาแล้ว
ส่วนฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ GPT-4o มีให้ผู้ใช้ฟรี เช่น ความสามรถด้าน AI เทียบเท่าระดับ GPT-4, รับคำตอบที่ได้ทั้งจากโมเดลและเว็บ, วิเคราะห์ข้อมูลและสร้างกราฟ, คุยเรื่องรูปที่ถ่าย, อัปโหลดไฟล์ให้ช่วยสรุป เขียน หรือวิเคราะห์, ใช้งาน GPTs และ GPT Store
ทั้งหมดนี้จะเริ่มทยอยเปิดให้ใช้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยจะมีการจำกัดจำนวนข้อความที่ผู้ใช้ฟรีสามารถส่งด้วย GPT-4o ได้ ซึ่งขึ้นอยู่กับการใช้งานและความต้องการ เมื่อถึงขีดจำกัดแล้ว ChatGPT จะสลับไปใช้ GPT-3.5 โดยอัตโนมัติเพื่อให้ผู้ใช้สนทนาต่อไปได้ ส่วนผู้ใช้งานแบบ Plus และ Enterprise จะมีขีดจำกัดที่มากกว่าแบบฟรี
OpenAI ยังเปิดตัวแอปเดสก์ท็อปใหม่สำหรับ macOS ที่ออกแบบมาเพื่อให้ผสานเข้ากับงานที่ผู้ใช้ทำบนคอมพิวเตอร์ได้อย่างราบรื่นทั้งผู้ใช้แบบฟรีและแบบเสียเงิน แค่กดปุ่มลัดบนแป้นพิมพ์ (Option + Space) ก็สามารถถาม ChatGPT ได้ทันที เช่น ระดมความคิดไอเดียใหม่ๆ ให้กับบริษัท เตรียมตัวสัมภาษณ์งาน หรือพูดคุยหัวข้อที่สนใจ นอกจากนี้ยังสามารถถ่ายและวิจารณ์ภาพหน้าจอได้โดยตรงในแอป โดยเริ่มให้ผู้ใช้ Plus ได้ใช้ตั้งแต่วันนี้ และจะเปิดให้ใช้อย่างแพร่หลายในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า รวมถึงเตรียมเปิดตัวเวอร์ชัน Windows ภายในปีนี้ด้วย
ปิดท้ายด้วยการแนะนำหน้าตาและสไตล์ใหม่ของ ChatGPT ที่ออกแบบให้ดูเป็นกันเองและเหมาะกับการสนทนามากขึ้น ผู้ใช้จะได้เห็นหน้าจอต้อนรับใหม่ เลย์เอาต์ของข้อความใหม่ และอีกมากมาย ซึ่งพัฒนาการทั้งหมดนี้จะทำให้ ChatGPT และ AI กลายเป็นเครื่องมือที่เข้าถึงง่าย มีประโยชน์ และช่วยให้ชีวิตผู้คนดีขึ้นตามวิสัยทัศน์ของ OpenAI
ข้อมูลจาก OpenAI
