ถ้าคิดว่าเด็กไทยทำได้แค่เรียนหนังสือ คุณอาจต้องคิดใหม่ เพราะผลงานจาก Samsung Solve for Tomorrow 2025 ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ กำลังพิสูจน์ว่าพลังเยาวชนไทยสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่จับต้องได้ให้กับสังคมอย่างแท้จริง
โครงการที่เปิดเวทีให้นักเรียนมัธยมปลายทั่วประเทศได้ใช้เทคโนโลยีและความคิดสร้างสรรค์มาพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ชีวิตจริง ภายใต้แนวคิด “Make Your Impact! คิดแก้ปัญหา พัฒนานวัตกรรม ลงมือทำให้ยั่งยืน” ได้ส่งมอบ 4 ผลงานที่ไม่ใช่แค่ไอเดียบนกระดาษ แต่เป็นนวัตกรรมที่พร้อมใช้งานจริงและแก้ปัญหาสังคมได้อย่างเป็นรูปธรรม
ชนะเลิศด้วย Boxar แอปฝึกมวยที่ใช้ AI เป็นโค้ช
ทีมแคปหมู จากโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร (ฝ่ายมัธยม) คว้ารางวัลชนะเลิศมาครองด้วยนวัตกรรม Boxar แอปพลิเคชันฝึกมวยสากลพื้นฐานที่พัฒนาขึ้นเพื่อทำลายกำแพงค่าใช้จ่ายในการฝึกมวย ไม่ว่าจะเป็นค่าจ้างโค้ช ค่าเดินทาง หรือข้อจำกัดด้านเวลา
สิ่งที่ทำให้ Boxar โดดเด่นคือการนำเทคโนโลยี AI มาตรวจจับการเคลื่อนไหวของผู้ฝึกแบบเรียลไทม์ ทั้งการเคลื่อนไหวของศีรษะและการออกอาวุธ พร้อมคลิปฝึกทักษะและเกมที่ช่วยสร้างแรงจูงใจให้ฝึกอย่างสนุกสนาน ไม่น่าเบื่อ
ที่สำคัญคือทีมไม่ได้นั่งคิดอยู่แค่ในห้อง แต่ลงพื้นที่ไปคุยกับค่ายมวยจริง เก็บอินไซต์จริง จนพัฒนาออกมาเป็นแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน จนเมื่อทดลองใช้กับโค้ชมวยและผู้ใช้กว่า 71 คน พบว่ามีผู้ใช้ถึง 88.9% ยืนยันว่าอยากใช้งานต่อ
คุณอธิตานันท์ ธนโชคจินดาวัฒน์ ตัวแทนจากทีมเผยว่า “ตลอดเวลา 7 เดือนที่ทำงานร่วมกัน แม้จะมีความเห็นไม่ตรงกันบ้าง แต่ก็ช่วยให้เราได้เรียนรู้ทั้งการสื่อสาร การทำงานเป็นทีม และทักษะใหม่ ๆ ทั้งโค้ดดิ้งและ AI ในมุมที่ไม่เคยรู้มาก่อน”
OnionZee เปลี่ยนหอมทิ้งให้เป็นตัวยืดอายุผลไม้
ทีม Onion Power Rangers จากโรงเรียนแม่วาง จังหวัดเชียงใหม่ คว้ารางวัลรองชนะเลิศด้วยนวัตกรรม OnionZee ผงสารสกัดจากหอมหัวใหญ่ที่ช่วยลดเชื้อราและชะลอการเน่าเสียของผลไม้ โดยเฉพาะอโวคาโด ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของเชียงใหม่
แรงบันดาลใจเกิดจากการที่ทีมเห็นปัญหาหอมหัวใหญ่ขนาดเล็กที่ถูกทิ้งจำนวนมากจากเกษตกรในท้องถิ่น จึงคิดเปลี่ยนของที่ถูกทิ้งให้กลายเป็นสารมีค่า โดยนำสารเควอซิทิน (Quercetin) จากหอมมาใช้ยืดอายุการเก็บรักษาผลไม้
ผลลัพธ์ที่ได้คือผงที่ใช้งานง่าย ปลอดภัย และสามารถยืดอายุผลไม้ได้นานขึ้น 8-10 วัน ซึ่งผ่านการทดลองกับผู้ปลูก ผู้ค้าปลีก และครัวเรือนจริง ช่วยลดความสูญเสียทางการเกษตรและเพิ่มมูลค่าให้กับหอมที่เคยถูกมองว่าไร้ค่า
คุณอาภากร สุรินต๊ะ ตัวแทนทีมบอกว่า “ถึงแม้เรายังมีความรู้ด้านสารสกัดไม่มาก แต่ได้ทีมซัมซุงช่วยแนะนำตลอด ทำให้รู้ว่าโรงเรียนเล็ก ๆ อย่างเราก็สามารถสร้างสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้สังคมได้”
Str8 up เสื้ออัจฉริยะช่วยดูแลกระดูกสันหลังคด
อีกหนึ่งนวัตกรรมโดดเด่นจากทีม Sciourtoo โรงเรียนเบ็ญจะมะมหาราช จังหวัดอุบลราชธานี คือ Str8 up เสื้อติดเซนเซอร์ที่ช่วยผู้ป่วยโรคกระดูกสันหลังคด ซึ่งต้องแบกรับค่าใช้จ่ายสูงในการรักษาและอุปกรณ์เสื้อเกราะดัดหลัง
ทีมพัฒนาเสื้อที่ติดตั้งเซนเซอร์ Gyroscope เพื่อวัดระดับการเอนของกระดูกสันหลังแบบเรียลไทม์ พร้อมระบบแจ้งเตือนเมื่อนั่งผิดท่านานเกิน 5 วินาที ข้อมูลจะถูกส่งไปยังแอปพลิเคชันที่แพทย์สามารถติดตามและนำไปประกอบการรักษาได้จริง
จุดเด่นคือใส่ง่าย สบาย ใช้ได้ทุกวัน และที่สำคัญคือราคาจับต้องได้เมื่อเทียบกับเสื้อเกราะดัดหลังที่มีราคาสูงลิ่ว
คุณแพรวลดา ทุมมากรณ์ ตัวแทนทีมเล่าว่า “พวกเราไม่เคยเขียนโค้ดเลย แต่ต้องเรียนรู้ทุกอย่างตั้งแต่ศูนย์ เพราะเชื่อว่า Str8 up จะช่วยผู้คนได้จริง และอยากให้เข้าถึงคนได้กว้างขึ้นผ่านการเป็นพาร์ทเนอร์กับโรงพยาบาลรัฐ”
AI SpineCheck คัดกรองกระดูกสันหลังคดด้วยสมาร์ตโฟน
ทีม AI SpineCheck จากปรินส์รอยแยลส์วิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ เลือกหยิบปัญหาเดียวกันมาแก้ในมุมที่ต่างออกไป ด้วยการพัฒนาแพลตฟอร์มที่ให้ผู้ปกครองหรือโรงเรียนถ่ายภาพหลังของเด็กตามกรอบที่กำหนด แล้วให้ระบบ AI วิเคราะห์ความเสี่ยง พร้อมคำแนะนำเบื้องต้นจากผู้เชี่ยวชาญด้านออร์โธปิดิกส์
จุดเด่นคือเข้าถึงง่าย ใช้ได้ทุกโรงเรียนเพียงแค่มีสมาร์ตโฟน และยังเก็บข้อมูลได้อย่างเป็นส่วนตัว ปัจจุบันทดลองใช้จริงแล้วใน 3 โรงเรียน รวม 50 คน พบว่าสามารถรายงานความผิดปกติได้อย่างแม่นยำ เป็นการเปิดโอกาสให้เด็กเข้ารับการรักษาได้ทันเวลา
คุณเกียรติพงศ์ บุญญานุพงศ์ ตัวแทนทีมบอกว่า “การลงพื้นที่ถ่ายรูปหลังเด็กด้วยตัวเอง ทำให้เราตระหนักว่านวัตกรรมที่ดีต้องไม่ใช่แค่เจ๋ง แต่ต้องแก้ปัญหาให้คนได้จริง ๆ”
เมื่อเยาวชนพิสูจน์ว่าพวกเขาคือกำลังสำคัญของสังคม
ผลงานทั้ง 4 ชิ้นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในห้องเรียนหรือบนหนังสือเรียน แต่เกิดจากการที่เยาวชนเหล่านี้ลงพื้นที่จริง เห็นปัญหาจริง แล้วกลับมาคิดหาทางแก้ไขด้วยเทคโนโลยีและความมุ่งมั่น
ทุกทีมต่างเผชิญความท้าทายในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการเขียนโค้ด การใช้ AI หรือการทำงานเป็นทีม แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จคือการมีพี่เลี้ยงที่คอยช่วยเหลือและความตั้งใจที่จะสร้างสิ่งดี ๆ ให้กับสังคม
ซัมซุง ยืนยันว่าจะยังคงเดินหน้าเปิดพื้นที่การเรียนรู้ ทดลอง และมองหาโอกาสในการต่อยอดนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำความมุ่งมั่น “Together for Tomorrow Enabling People” เพื่อผลักดันให้คนรุ่นใหม่ได้พัฒนาทักษะและเติบโตพร้อมรับอนาคตอย่างเข้มแข็ง
และนี่คือการพิสูจน์ว่าเมื่อเยาวชนได้รับโอกาสและการสนับสนุนที่เหมาะสม พวกเขาสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ให้กับสังคมได้จริง
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
