Nothing ผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สัญชาติอังกฤษ เปิดตัว Nothing OS 4.0 อย่างเป็นทางการ พร้อมยกระดับประสบการณ์การใช้งานให้ละเอียดมากขึ้น เชื่อมต่อได้ดีขึ้น และฉลาดยิ่งขึ้นกว่าเวอร์ชันเดิม โดยเฉพาะการเพิ่มเครื่องมือสร้างสรรค์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI เข้ามาในระบบ
สำหรับผู้ใช้ Phone (3) สามารถอัปเดตได้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2568 ส่วนรุ่นอื่นๆ จะเปิดให้อัปเดตในเร็วๆ นี้
Live Updates ทำงานร่วมกับ Glyph แบบเรียลไทม์

หนึ่งในฟีเจอร์เด่นของ Nothing OS 4.0 คือ Live Updates ที่ส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์ตรงสู่หน้าจอและระบบ Glyph ช่วยให้ผู้ใช้ติดตามความคืบหน้าได้ทันทีผ่านการแจ้งเตือน หน้าจอล็อค และสัญญาณไฟแจ้งเตือน โดยไม่จำเป็นต้องเปิดแอปพลิเคชันขึ้นมาเลย
ที่สำคัญคือแอปพลิเคชันที่เชื่อมต่อกับ Live Updates บน Android 16 จะสามารถใช้ฟีเจอร์ Glyph Progress ได้ทันที นั่นหมายความว่าระบบสามารถรองรับการทำงานของแอปพลิเคชันได้มากกว่าเดิมพร้อมกัน ทำให้การใช้งานหลายแอปพร้อมกันเป็นเรื่องง่ายขึ้น
Extra Dark Mode ดูสบายตา ประหยัดแบตเตอรี่

Extra Dark Mode ในเวอร์ชันใหม่ได้รับการปรับปรุงให้มีความละเอียดมากขึ้น มาพร้อมสีดำที่เข้มกว่าเดิม คอนทราสต์ที่ดีขึ้น และช่วยลดการใช้พลังงานทั่วทั้งระบบ
โหมดนี้ช่วยให้ภาพรวมการใช้งานนุ่มนวลขึ้น สบายตาและมองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นในสถานที่แสงน้อย ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเตือน Quick Setting, App Drawer, Essential Space หรือ Launcher และในอนาคตจะมีการรองรับแอปพลิเคชันและฟีเจอร์อื่นๆ เพิ่มเติมอีกด้วย
Interaction Animations ตอบสนองทุกการสัมผัส

Nothing OS 4.0 เพิ่มประสิทธิภาพด้านภาพเคลื่อนไหวให้ลื่นไหลและตอบสนองได้ดีมากขึ้น ทุกการสัมผัส การปัด และการขยับจะให้ฟีลที่เป็นธรรมชาติกว่าเดิม
เมื่อปรับระดับเสียง ระบบจะสั่นเบาๆ เมื่อคุณเปิดตำแหน่งเสียงสูงสุดและต่ำสุด เพื่อให้รับรู้ได้ทันทีแม้ไม่ได้มองหน้าจอ การเปิดและปิดแอปพลิเคชันก็พลิ้วไหวและให้ความรู้สึกอิมเมอร์ซีฟมากขึ้น โดยภาพพื้นหลังบนปุ่มโฮมจะขยายเข้าและออกอย่างนุ่มนวล เพิ่มความมีชีวิตชีวา
ส่วนการแจ้งเตือนก็ละมุนมากขึ้น มีน้ำหนัก การสะท้อนกลับและการตอบสนองที่รวดเร็วทั่วทั้งอินเตอร์เฟซ
Widget ปรับแต่งได้หลากหลายขนาด
ผู้ใช้สามารถออกแบบหน้าจอในแบบของตัวเองได้ด้วย widget ที่มีทั้งขนาด 1×1 และ 2×1 ไม่ว่าจะเป็นแอป Weather, Pedometer หรือ Screen Time ช่วยให้จัดหน้าจอได้ตามใจชอบ
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ Pop-up View ที่ช่วยให้เปิดดูแอปพลิเคชันพร้อมกันได้ 2 หน้าต่าง และสลับไปมาได้อย่างง่ายดายด้วยปลายนิ้วสัมผัส เพียงปัดลงด้านล่างเพื่อปิด หรือลากลงมาเพื่อขยายเต็มจอ
สำหรับ Hidden Icons ช่วยให้คุณซ่อนแอปพลิเคชันจาก App Drawer เพื่อความเป็นระเบียบและทำให้หน้าโฮมสกรีนดูเรียบง่าย แต่ยังคงเรียกใช้งานได้สะดวกเหมือนเดิม
ฟีเจอร์พิเศษสำหรับ Phone (3)
ผู้ใช้ Phone (3) จะได้รับฟีเจอร์เพิ่มเติมมากมาย เช่น การควบคุม Flip to Glyph ที่ละเอียดขึ้น Pocket Mode เวอร์ชันปรับปรุงใหม่ และ Glyph Toys แบบใหม่อย่าง Hourglass และ Lunar Cycle
นอกจากนี้ Glyph Mirror Selfie ยังเปิดให้บันทึกภาพต้นฉบับเป็นไฟล์แยกเพิ่มเติมในแกลเลอรีได้อีกด้วย ทำให้ผู้ใช้มีทางเลือกในการเก็บภาพมากขึ้น
Nothing Playground สร้าง Widget ด้วย AI
ฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจคือ Nothing Playground ที่ให้ผู้ใช้สร้าง Essential Apps ของตัวเองได้ เพียงพิมพ์บอกสิ่งที่ต้องการใน Widget Builder แล้ว AI จะสร้างให้โดยอัตโนมัติ
หลังจากนั้นผู้ใช้สามารถนำ widget เหล่านี้ไปวางบนหน้าโฮมได้ทันที เปลี่ยนพื้นที่ใช้งานให้กลายเป็นพื้นที่สร้างสรรค์เฉพาะตัว โดย Essential Apps ทั้งหมดจะถูกรวบรวมไว้ใน Widget Drawer ซึ่งมาพร้อม Nothing OS 4.0 ช่วยจัดระเบียบทุกอย่างที่ผู้ใช้สร้างหรือบันทึกไว้อย่างเป็นระบบ
ผู้ที่สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Nothing สามารถดูได้ที่ nothing.tech หรือติดต่อ Nothing Thailand Call Center 1800-018-320 และ 1800-013-896 (โทรฟรีทุกเครือข่าย)
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
