Netflix ประกาศข่าวใหญ่ในวงการบันเทิงโลก หลังตกลง ซื้อกิจการ Warner Bros. จาก Warner Bros. Discovery ในมูลค่าดีลรวม 82.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 2.9 ล้านล้านบาท ถือเป็นการควบรวมกิจการที่จะเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมสตรีมมิ่งและความบันเทิงระดับโลก
การเข้า ซื้อกิจการ ครั้งนี้มีมูลค่า Enterprise Value อยู่ที่ 82.7 พันล้านดอลลาร์ และ Equity Value ที่ 72.0 พันล้านดอลลาร์ โดยผู้ถือหุ้น WBD จะได้รับการชำระเงินแบบผสม ได้แก่ เงินสด 23.25 เหรียญ และหุ้นสามัญของ Netflix มูลค่า 4.50 เหรียญต่อหุ้น รวมเป็นมูลค่า 27.75 เหรียญต่อหุ้น WBD ทั้งนี้ ข้อตกลงมีกลไก collar ป้องกันความผันผวนของราคาหุ้น โดยหาก VWAP ของหุ้น Netflix ต่ำกว่า 97.91 เหรียญ ผู้ถือหุ้น WBD จะได้หุ้น Netflix 0.0460 หุ้นต่อหุ้น WBD และหากสูงกว่า 119.67 เหรียญ จะได้ 0.0376 หุ้นต่อหุ้น
เงื่อนไขก่อนปิดดีล คาดแล้วเสร็จปี 2027
การควบรวมกิจการครั้งนี้จะเกิดขึ้นหลังจาก Warner Bros. Discovery แยกธุรกิจ Global Networks ออกเป็นบริษัทใหม่ชื่อ Discovery Global ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาสที่ 3 ปี 2026 บริษัทแยกใหม่นี้จะประกอบด้วยช่องโทรทัศน์ข่าว กีฬา และบันเทิงระดับโลก อาทิ CNN, TNT Sports, Discovery และแพลตฟอร์มดิจิทัลอย่าง Discovery+ และ Bleacher Report
ดีลนี้ต้องผ่านการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล ผู้ถือหุ้น WBD และเงื่อนไขอื่นๆ ตามปกติ คาดว่าจะปิดดีลภายใน 12-18 เดือน หรือประมาณปลายปี 2026 ถึงกลางปี 2027
Netflix ได้อะไรบ้างจากดีลครั้งนี้
Netflix จะได้ครอบครองสตูดิโอภาพยนตร์และโทรทัศน์ที่มีชื่อเสียงมายาวนานกว่า 100 ปี พร้อมแพลตฟอร์ม HBO Max และ HBO รวมถึงคลังคอนเทนต์คลาสสิกและซีรีส์ดังระดับโลก อาทิ Game of Thrones, The Sopranos, The Big Bang Theory, Friends, Harry Potter, The Wizard of Oz และจักรวาล DC Universe ที่มีซูเปอร์ฮีโร่อย่าง Batman และ Superman
คอนเทนต์เหล่านี้จะมารวมกับพอร์ตโฟลิโอของ Netflix ที่มีอยู่แล้ว เช่น Stranger Things, Squid Game, Wednesday, Bridgerton, Money Heist และ Extraction สร้างคลังคอนเทนต์ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมสตรีมมิ่ง
ประโยชน์ต่อผู้บริโภคและอุตสาหกรรม
สมาชิก Netflix ทั่วโลกจะได้รับความหลากหลายของคอนเทนต์เพิ่มขึ้นอย่างมาก ตั้งแต่ภาพยนตร์คลาสสิกอมตะอย่าง Casablanca และ Citizen Kane ไปจนถึงซีรีส์ยุคใหม่ที่กวาดรางวัล นอกจากนี้ Netflix ยังระบุว่าจะคงรูปแบบการดำเนินงานของ Warner Bros. ไว้ รวมถึงการฉายภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์ เพื่อรักษาความหลากหลายในรูปแบบการบริโภคคอนเทนต์
การควบรวมนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตคอนเทนต์ต้นฉบับของ Netflix ในสหรัฐอเมริกา สร้างงานและโอกาสให้ผู้สร้างสรรค์มากขึ้น รวมถึงเปิดโอกาสให้ศิลปินได้ทำงานกับทรัพย์สินทางปัญญาชั่นดังและเข้าถึงผู้ชมทั่วโลกผ่านเครือข่ายกว้างของ Netflix
คาดประหยัดต้นทุน 2-3 พันล้านดอลลาร์ต่อปี
Netflix คาดว่าการ ซื้อกิจการ Warner Bros. จะช่วยให้บริษัทประหยัดต้นทุนได้อย่างน้อย 2-3 พันล้านดอลลาร์ต่อปีภายในปีที่ 3 หลังปิดดีล ส่วนหนึ่งมาจากการรวมระบบปฏิบัติการและลดความซ้ำซ้อน การเพิ่มคอนเทนต์คาดว่าจะดึงดูดสมาชิกใหม่และรักษาสมาชิกเดิมได้ดีขึ้น ส่งผลให้รายได้และกำไรเพิ่มขึ้น โดยธุรกรรมนี้คาดว่าจะเพิ่ม GAAP earnings per share ตั้งแต่ปีที่ 2 เป็นต้นไป
ข้อมูลจาก: Netflix Press Release
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
