Meta

Meta ลดงบ Metaverse 30% หลังขาดทุนสะสม 1.9 ล้านล้านบาท

Meta Platforms วางแผนตัดงบประมาณโครงการ Metaverse ลงสูงสุด 30% ตามรายงานของ Bloomberg News โดยอ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องกับการหารือภายใน ซึ่งถือเป็นการปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่หลังจากธุรกิจนี้สร้างความสูญเสียสะสมกว่า 60,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.9 ล้านล้านบาทตั้งแต่ปี 2020

หุ้น Meta พุ่งขึ้น 4% ทันทีหลังข่าวออกมา สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนมองการตัดสินใจนี้เป็นสัญญาณบวก เนื่องจากช่วยลดความกังวลต่อการลงทุนที่ Mark Zuckerberg ซีอีโอสนับสนุนอย่างหนักจนถึงขั้นเปลี่ยนชื่อบริษัทจาก Facebook เป็น Meta เมื่อปี 2021 เพื่อแสดงความมุ่งมั่นต่อวิสัยทัศน์นี้

การปรับโครงสร้างที่มาช้าแต่จำเป็น

Craig Huber นักวิเคราะห์จาก Huber Research Partners แสดงความเห็นว่า “เป็นการเคลื่อนไหวที่ชาญฉลาด แต่มาช้าไป” โดยระบุว่าการปรับลดงบประมาณครั้งนี้สะท้อนถึงการปรับตัวให้สอดคล้องกับแนวโน้มรายได้ที่ไม่เป็นไปตามที่ฝ่ายบริหารคาดการณ์ไว้เมื่อหลายปีก่อน

การลดงบประมาณนี้เป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนงบประมาณประจำปี 2026 โดยมีการประชุมหารือหลายครั้งที่บ้านของ Zuckerberg ในฮาวายเมื่อเดือนที่แล้ว ตามรายงานของ Bloomberg การลดงบในสัดส่วนที่สูงเช่นนี้มีแนวโน้มที่จะส่งผลให้มีการปลดพนักงานตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไป แม้ว่า Meta จะยังไม่ตอบกลับคำขอแสดงความเห็นจาก Reuters

ผลกระทบต่อ Reality Labs และตลาดฮาร์ดแวร์

กลุ่มธุรกิจ Metaverse อยู่ภายใใต้แผนก Reality Labs ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบการผลิต Quest mixed-reality headsets, แว่นตาอัจฉริยะที่พัฒนาร่วมกับ Ray-Ban ของ EssilorLuxottica และแว่นตา augmented-reality ที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา

Meta ยังคงประสบปัญหาในการขายวิสัยทัศน์เรื่อง Metaverse ซึ่งเป็นโลกเสมือนจริงที่เชื่อมโยงถึงกัน รวมถึงการขยายตลาดอุปกรณ์ให้กว้างขึ้นจากกลุ่มผู้เล่นเกม อย่างไรก็ตาม บริษัทสามารถสร้างความได้เปรียบนำในตลาดแว่นตาอัจฉริยะ ขณะที่คู่แข่งอย่าง Google ของ Alphabet, Apple และ Snap ยังไม่สามารถใช้ประโยชน์จากศักยภาพของตลาดได้จากความพยายามในช่วงแรก

การหันมาโฟกัส AI ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด

รายงานนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ Meta กำลังพยายามรักษาความเกี่ยวข้องในสนามแข่งขัน AI ของ Silicon Valley หลังจากโมเดล Llama 4 ได้รับการตอบรับที่ไม่ดีนัก เพื่อสนับสนุนเป้าหมายที่ทะเยอทะยาน Meta ได้จัดสรรงบลงทุนสูงถึง 72,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปีนี้ ขณะที่บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่โดยรวมคาดว่าจะใช้จ่ายประมาณ 400,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐในด้าน AI ภายในปีนี้

บริษัทได้ปรับโครงสร้างความพยายามด้าน AI ภายใต้ Superintelligence Labs เมื่อต้นปีนี้ โดย Zuckerberg เป็นผู้นำโดยตรงในการจัดหาบุคลากรอย่างก้าวร้าว ทั้งการเสนอซื้อสตาร์ทอัพและการติดต่อผู้สมัครโดยตรงผ่าน WhatsApp ด้วยแพ็คเกจค่าตอบแทนหลายล้านดอลลาร์

ข้อมูลจาก: Reuters

ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok

Online Content Manager with over 10 years of experience working in the news, technology, and telecom industries.