รีวิว SanDisk Creator Phone SSD สะดวกสำหรับสายคอนเทนต์ ถ่าย-ย้าย-ตัดต่อง่าย สบายขึ้นเยอะ

รีวิว SanDisk Creator Phone SSD อุปกรณ์เก็บข้อมูลแบบพกพา ที่เหมาะสำหรับใช้งานถ่ายวิดีโอ โอนย้ายไฟล์ข้ามเครื่องได้สะดวกกว่า ออกแบบมาให้ใช้งานได้ทั้ง iOS และ Android พร้อมทั้งสามารถเอาไปใช้งานข้ามเครื่องได้ ไม่ว่าจะเป็น iPad, Mac หรือ Windows

ใครที่เป็นครีเอเตอร์ชอบถ่ายวิดีโอด้วยมือถือคงเคยเจอปัญหานี้กันมาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพื้นที่เครื่องที่เต็มเร็วมาก โดยเฉพาะเวลาถ่ายวิดีโอความละเอียดสูงๆ หรือไม่ก็ต้องเสียเวลาโอนไฟล์จากมือถือไปคอมพิวเตอร์ก่อนตัดต่อ ซึ่งบางทีไฟล์ใหญ่มากๆ ต้องรอโอนนานเป็นชั่วโมงเลยทีเดียว

SanDisk Creator Phone SSD เป็นหนึ่งในโซลูชันที่ตอบโจทย์ปัญหาเหล่านี้ได้ดีมาก เพราะมันคือ SSD ภายนอกที่ออกแบบมาสำหรับครีเอเตอร์มือถือโดยเฉพาะ ที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนผ่านระบบ MagSafe แล้วบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงลงไปได้โดยตรง ไม่ต้องกินพื้นที่ในเครื่องเลย

วันนี้เราจะมาดูกันว่า SanDisk Creator Phone SSD ใช้งานจริงเป็นยังไง และคุ้มค่าแค่ไหนกับเงินที่จ่ายไป

ดีไซน์บางเบาสวย แต่แข็งแรงเกินคาด

SanDisk Creator Phone SSD มาในดีไซน์ที่บางเและน้ำหนักเบา พกพาสะดวก ใส่กระเป๋ากางเกงก็ได้ หรือจะใส่สายคล้องก็พกได้ง่าย ดีไซน์โดยรวมดูเรียบๆ สไตล์มินิมอล และที่สำคัญคือไม่ใช่แค่สวยอย่างเดียว แต่ยังแข็งแรงด้วย

ตัว SSD นี้ทนทานต่อการตกจากที่สูงได้ถึง 3 เมตร และมีมาตรฐาน IP65 กันน้ำกันฝุ่น หมายความว่าแม้จะเอาไปใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ไม่ค่อยเอื้ออำนวย หรือเผลอทำตกระหว่างถ่ายคอนเสิร์ต ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะเสียหายง่ายๆ ผิวด้านนอกเป็นซิลิโคนเคลือบแบบนุ่มๆ จับแล้วถนัดมือไม่ลื่นหลุด ทำให้รู้สึกมั่นใจในการใช้งานมากขึ้น

ด้านล่างของตัวเครื่องจะมีพอร์ต USB-C ที่สามารถใช้สาย USB-C to USB-C ที่มาให้ในกล่องได้เลย

ที่ด้านหลังคือจุดเด่นที่ออกมาใน SSD ตัวนี้คือ มีแม่เหล็กแบบ MagSafe สำหรับติดด้านหลังของ iPhone ได้ทันที หรือถ้าจะใช้กับมือถือรุ่นอื่น ในกล่องก็มีวงแหวนแม่เหล็กแถมมาให้ไปแปะใช้ได้

เรื่องของดีไซน์โดยรวมส่วนตัวผมชอบนะ ที่มีขนาดเล็กเรียบๆ พกพาง่าย ต้องบอกว่าสีฟ้าสดใสของ Creator Series นี้ ถึงแม้จะเป็นสีที่ SanDisk ชูให้เป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์นี้ และดูโดดเด่นสะดุดตาดี แต่มันก็ดูแอบฉูดฉาดไปนิดนึงเมื่อต้องเอาไปใช้งานจริงในบางสถานการณ์ บางคนอาจจะชอบความโดดเด่นแบบนี้ แต่บางคนอาจจะอยากได้สีที่เรียบๆ สุภาพกว่านี้ก็ได้

มีอีกจุดที่ดูอาจจะเล็กน้อย แต่ว่า SSD รุ่นนี้ไม่มีไฟ LED ที่แสดงสถานะการทำงาน ที่อาจจะให้บางครั้งเราไม่รู้ว่าเสียบสายกับ iPhone หรือคอมแน่นหรือเปล่า และไม่รู้ว่ากำลังทำงานอยู่หรือไม่

ในกล่อง: อุปกรณ์ครบชุด

เมื่อเปิดกล่อง SanDisk Creator Phone SSD ออกมา เราจะได้อุปกรณ์ดังนี้:

• ตัว Creator Phone SSD
• วงแหวนแม่เหล็ก สำหรับมือถือที่ไม่มีระบบ MagSafe หรือจะแปะบนเคสก็ได้
• สาย USB-C to USB-C
• เอกสารคู่มือการใช้งาน
• โบนัส Adobe Creative Cloud ฟรี 1 เดือน

อุปกรณ์ที่มาให้ในกล่องถือว่าครบพร้อมใช้งาน โดยเฉพาะวงแหวนแม่เหล็กที่ช่วยให้ผู้ใช้ Android หรือ iPhone รุ่นเก่าที่ไม่มี MagSafe สามารถใช้งานได้เหมือนกัน ส่วนโบนัส Adobe Creative Cloud 1 เดือน ก็ถือเป็นของแถมที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากลองใช้โปรแกรมตัดต่อระดับโปร แต่จะต้องเป็นบัญชีสมัครใหม่ ถ้าเคยสมัครใช้งานอยู่แล้วจะใช้ไม่ได้

ประสิทธิภาพการใช้งาน

มาดูกันที่สเปคของ SanDisk Creator Phone SSD กัน ตัวนี้มาพร้อมความเร็วในการอ่านข้อมูลสูงสุดที่ 1000MB/s และเขียนข้อมูลสูงสุดที่ 950MB/s ซึ่งเป็นความเร็วที่สูงมากๆ สำหรับ SSD ภายนอก

สำหรับรุ่นที่ผมได้มาทดสอบตัวนี้ เป็นความจุ 1TB เป็นความจุที่ช่วยให้การบันทึกไฟล์ใหญ่ๆ อย่างวิดีโอ 4K ที่มีมาตรฐานสูงได้นานหลายชั่วโมง โดยที่จะมีรุ่นความจุ 2TB ให้เลือกด้วย ก็จะเหมาะสำหรับคนที่ต้องใช้งานหนักมากๆ

SanDisk Creator Phone SSD ใช้ฟอร์แมต exFAT สามารถรองรับการใช้งานได้กับทุกระบบปฏิบัติการ ไม่ว่าจะเป็น iOS, Android, macOS หรือ Windows ไม่ต้องมานั่งฟอร์แมตใหม่ให้เสียเวลา เสียบเข้าไปก็ใช้งานได้เลย

แล้วความเร็วแบบนี้มันแปลว่ายังไงในการใช้งานจริง? ง่ายๆ เลยครับ มันหมายความว่าเราสามารถตัดต่อวิดีโอจากไฟล์ที่อยู่ใน SSD ได้โดยตรง โดยไม่ต้องโอนไฟล์เข้าคอมพิวเตอร์ก่อน ซึ่งช่วยประหยัดเวลาได้มหาศาลเลยทีเดียว โดยเฉพาะกับไฟล์วิดีโอขนาดใหญ่ๆ ที่ถ้าต้องนั่งโอนปกติอาจใช้เวลาหลายชั่วโมง

การใช้งานจริงกับ iPhone สะดวกสุดๆ

นี่คือจุดเด่นที่โดดเด่นที่สุดของ SanDisk Creator Phone SSD สำหรับผู้ใช้ iPhone เลยก็ว่าได้ เพราะมันช่วยให้การจัดการไฟล์วิดีโอที่มีความละเอียดสูงทำได้ง่ายและสะดวกมากๆ

การบันทึกวิดีโอลงใน Creator Phone SSD โดยตรงทำได้ง่ายมาก เพียงแค่ไปที่ Settings ของ iPhone แล้วเลือกให้บันทึกวิดีโอลงใน SSD แทนที่จะเป็นหน่วยความจำในเครื่อง ก็สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K ที่ 60fps ในรูปแบบ Apple ProRes ได้โดยตรง ซึ่งเป็นรูปแบบไฟล์ที่มีคุณภาพสูงมากๆ เหมาะสำหรับการตัดต่อระดับมืออาชีพ

สิ่งที่ประทับใจมากคือการใช้งานไม่ได้จำกัดอยู่แค่แอปกล้องของ iPhone เท่านั้น แต่สามารถใช้งานได้กับแอป Third-party อย่าง Blackmagic Camera และแอปอื่นๆ ได้อย่างไม่มีปัญหาเลย ซึ่งช่วยให้เรามีความยืดหยุ่นในการถ่ายทำมากขึ้น

ระบบ MagSafe ที่ติดมากับตัวเครื่องทำให้การใช้งานสะดวกมากๆ เพียงแค่แปะ SSD ด้านหลัง iPhone ก็เชื่อมต่อได้เลย ไม่ต้องง้อสายให้ห้อยไปห้อยมา ถ่ายวิดีโอได้สะดวกและดูเป็นระเบียบมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม มีข้อควรรู้นิดหน่อยสำหรับการใช้งานบน iOS คือถ้าเราต้องการใช้งานกับแอปอื่นๆ นอกจากแอปกล้องมาตรฐาน แนะนำให้ลงแอป SanDisk ก่อน แล้วเปิดโหมด OTG จากในแอปเสียก่อน จึงจะสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

การใช้งานกับ Android ใช้ได้ แต่ต้องอาศัยแอป

สำหรับผู้ใช้ Android การใช้งานจะแตกต่างจากฝั่ง iOS นิดหน่อย เพราะระบบ Android ไม่สามารถเลือกบันทึกวิดีโอโดยตรงลงใน SSD ภายนอกผ่านแอปกล้องมาตรฐานได้

แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะเราสามารถใช้แอปของ Third-party อย่าง Blackmagic Camera ได้อย่างไม่มีปัญหา โดยไปตั้งค่า Setting ในแอปให้เลือกบันทึกใน Phone SSD ได้เลย

แต่สำหรับการใช้งานทั่วไปอย่างการเซฟหรือโอนถ่ายไฟล์กับอุปกรณ์ Android ก็สามารถใช้ได้ทันที แค่เพียงเสียบกับเครื่องแล้วจะเชื่อมต่อผ่าน OTG ได้ทันที แล้วจะไปใช้งานผ่าน File Manager ได้เลย

Workflow ข้ามเครื่อง ถอดเสียบทำต่อไม่ต้องรอ

นี่คือจุดที่ SanDisk Creator Phone SSD โดดเด่นมากที่สุดเลยก็ว่าได้ สำหรับคนที่ใช้งานหลายอุปกรณ์ ตัวนี้ช่วยให้ Workflow การทำงานข้ามเครื่องทำได้สะดวกและรวดเร็วมากๆ

ยกตัวอย่าง เราถ่ายวิดีโอด้วย iPhone ระหว่างเดินทาง พอกลับถึงบ้านหรือออฟฟิศ ก็แค่ถอด SSD ออกจาก iPhone แล้วเสียบเข้ากับ iPad หรือคอมพิวเตอร์ได้เลย แล้วเริ่มตัดต่อได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลานั่งรอโอนไฟล์

และที่สำคัญคือด้วยความเร็วในการอ่านเขียนที่สูงมาก เราสามารถตัดต่อด้วยไฟล์บน SSD ได้โดยตรง โดยไม่ต้องคัดลอกไฟล์เข้าไปในคอมพิวเตอร์ก่อน ช่วยประหยัดเวลาและพื้นที่ในเครื่องได้มหาศาล โดยเฉพาะกับไฟล์วิดีโอขนาดใหญ่ๆ ที่ถ้าต้องคัดลอกอาจใช้เวลานาน

SanDisk Creator Phone SSD รองรับการใช้งานได้ทั้ง iOS, Android, Mac และ Windows อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายทำด้วยอุปกรณ์ไหน ก็สามารถนำไปตัดต่อบนอุปกรณ์อื่นได้ทันที สิ่งนี้ช่วยให้การทำงานมีความยืดหยุ่นมากขึ้นและทำให้ Workflow โดยรวมลื่นไหลขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

สรุป รีวิว SanDisk Creator Phone SSD ข้อดีและข้อควรพิจารณา

ข้อดี:

• สะดวกสบายในการบันทึกวิดีโอความละเอียดสูงโดยตรง โดยเฉพาะบน iPhone
• ระบบ MagSafe ทำให้การเชื่อมต่อง่ายและสะดวกมาก
• ความเร็วสูงพอที่จะตัดต่อจาก SSD ได้โดยตรง ไม่ต้องโอนไฟล์
• ใช้งานข้ามเครื่องได้ รองรับทั้ง iOS, Android, Mac และ Windows
• แข็งแรงทนทาน ทนต่อการตก 3 เมตร และมีมาตรฐาน IP65
• ดีไซน์บางเบา พกพาสะดวก
• แถม Adobe Creative Cloud 1 เดือน

ข้อควรพิจารณา:

• สีฟ้าสดใสอาจดูฉูดฉาดไปสำหรับบางคน
• ผู้ใช้ Android ไม่สามารถบันทึกตรงผ่านแอปกล้องมาตรฐานได้ ต้องใช้แอป Third-party
• มือถือ Android บางรุ่นอาจไม่รองรับการใช้งานกับบางแอป
• ใน iOS ต้องลงแอป SanDisk และเปิด OTG สำหรับการใช้งานเต็มรูปแบบ
• ไม่มีไฟ LED แสดงสถานะการทำงาน

ราคาและคุ้มค่าไหม?

SanDisk Creator Phone SSD มีจำหน่ายในประเทศไทย 2 ความจุ คือ

• ความจุ 1TB ราคา 3,290 บาท
• ความจุ 2TB ราคา 5,290 บาท

สามารถหาซื้อได้ที่ร้านค้าไอทีชั้นนำทั่วไป และ SanDisk Official Store บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ซึ่งบางช่วงจะมีโค้ดส่วนลดให้เก็บด้วย ทำให้ซื้อได้คุ้มกว่าราคาปกติ

ถามว่าคุ้มค่าไหม? ถ้าเป็นครีเอเตอร์ที่ถ่ายวิดีโอด้วยมือถือเป็นประจำ โดยเฉพาะวิดีโอความละเอียดสูงๆ หรือเป็นคนที่ทำงานข้ามหลายอุปกรณ์ ตัวนี้ตอบโจทย์ได้ดีมากๆ เพราะมันช่วยประหยัดเวลาและทำให้ Workflow การทำงานสะดวกขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

ในราคาที่ไม่ถึง 3,500 บาท สำหรับรุ่น 1TB ถือว่าคุ้มค่าพอสมควร เมื่อเทียบกับความสะดวกและประสิทธิภาพที่ได้ รวมถึงความแข็งแรงที่มากับมาตรฐาน IP65 ที่ทำให้มั่นใจได้ว่าจะใช้งานได้ยาวนาน

ถ้าจะถามว่า SanDisk Creator Phone SSD ตัวนี้เหมาะสำหรับใคร เราสรุปให้ดังนี้

• ครีเอเตอร์ที่ถ่ายวิดีโอด้วยมือถือเป็นประจำ โดยเฉพาะคนที่ถ่ายวิดีโอความละเอียดสูง 4K หรือ ProRes ที่กินพื้นที่เยอะมากๆ ตัวนี้จะช่วยให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องพื้นที่เต็มอีกต่อไป
• คนที่ทำงานข้ามหลายอุปกรณ์ ถ้าคุณถ่ายวิดีโอด้วยมือถือแล้วต้องการนำไปตัดต่อบน iPad หรือคอมพิวเตอร์ ตัวนี้จะช่วยให้ Workflow การทำงานราบรื่นและประหยัดเวลาได้มากๆ
• ผู้ใช้ iPhone จะได้ประโยชน์สูงสุดจากตัวนี้ เพราะสามารถบันทึกวิดีโอโดยตรงได้ง่ายๆ พร้อมระบบ MagSafe ที่สะดวกสบาย
• ผู้ที่ต้องการ External SSD แบบพกพา ที่ไม่ต้องประกอบเอง ต้องยอมรับว่าถ้าใครต้องการใช้งานแบบรุ่นนี้ อาจจะมองการซื้อ SSD Enclosure ที่ซื้อ SSD แบบ M2 มาประกอบเอง ซึ่งต้องหาซื้อแยก เทียบกับแบบที่เป็นชิ้นเดียว มีการซีลเรียบร้อย ก็ถือว่าสะดวกกว่ามาก

โดยสรุปแล้ว SanDisk Creator Phone SSD เป็น SSD ภายนอกที่ออกแบบมาสำหรับครีเอเตอร์มือถือโดยเฉพาะ ที่มีทั้งความสะดวก ความเร็ว และความทนทาน ในราคาที่ไม่แพงเกินไป ถือเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยยกระดับการทำงานให้มืออาชีพมากขึ้นได้จริงๆ

ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok