Xiaomi ฉลองครบรอบ 10 ปีแห่งนวัตกรรมอุปกรณ์สวมใส่ ด้วยการเปิดตัว Xiaomi Smart Band 10 Glimmer Edition รุ่นพิเศษสี Glimmer Gold ที่มาพร้อมดีไซน์พรีเมียมระดับเครื่องประดับ ผสานฟีเจอร์การติดตามสุขภาพและกีฬาครบครัน พร้อมแบตเตอรี่ใช้งานยาวนานถึง 21 วัน
สมาร์ตแบนด์รุ่นนี้ไม่ได้เป็นแค่อุปกรณ์ฟิตเนสธรรมดา แต่ออกแบบมาให้เป็นเครื่องประดับแฟชั่นที่ใช้งานได้จริง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทั้งสไตล์และประสิทธิภาพในตัวเดียว
ดีไซน์พรีเมียม สวมใส่ได้หลากหลายสไตล์
Xiaomi Smart Band 10 Glimmer Edition โดดเด่นด้วยกรอบอลูมิเนียมอัลลอยเคลือบ PVD พร้อมสายรัดข้อมือโลหะฝังคริสตัลแก้ว 6 เม็ด ให้ความแวววาวและเนื้อสัมผัสพรีเมียมที่สวมใส่สบาย ไม่ว่าจะไปยิม ทำงาน หรืองานทางการก็เข้ากับทุกโอกาส
ที่น่าสนใจคือความหลากหลายในการสวมใส่ นอกจากสายรัดข้อมือ TPU และสร้อยข้อมือโลหะแล้ว ยังสามารถแปลงเป็นจี้ห้อยคอหรือที่ห้อยกระเป๋าได้อีกด้วย ทำให้คุณโชว์สไตล์ที่โดดเด่นได้ตามความต้องการ

หน้าจอ AMOLED สว่างสดใส ลื่นไหลทุกการใช้งาน
ตัวเครื่องมาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 1.72 นิ้ว ที่มีกรอบบางเพียง 2 มม. รอบด้าน ให้สัดส่วนหน้าจอต่อตัวเครื่อง 73% ความสว่างสูงถึง 1,500 nits ในโหมดความสว่างสูง ทำให้มองเห็นชัดเจนแม้ใช้งานกลางแจ้งแดดจ้า
อัตราการรีเฟรช 60Hz ทำให้การเลื่อนหน้าจอลื่นไหล ตอบสนองรวดเร็วทุกการสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นการปัดดูข้อมูล เปลี่ยนหน้าปัด หรือตรวจสอบสถิติการออกกำลังกาย คุณจะได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหลไร้สะดุด
ติดตามสุขภาพและกีฬาแบบมืออาชีพ
Xiaomi Smart Band 10 Glimmer Edition รองรับโหมดกีฬามากกว่า 150 โหมด รวมถึงระบบตรวจจับกีฬาอัตโนมัติ 6 โหมด และหลักสูตรวิ่งแบบมีคำแนะนำ 10 หลักสูตร ช่วยให้คุณติดตามความก้าวหน้าได้อย่างละเอียด พร้อมข้อมูล VO₂max, Training Load และเวลาในการฟื้นตัว
สำหรับนักว่ายน้ำ สมาร์ตแบนด์รุ่นนี้มีมาตรฐานกันน้ำ 5ATM พร้อมการติดตามอัตราการเต้นของหัวใจแบบเรียลไทม์ใต้น้ำ ระบบนับรอบว่ายน้ำที่อัปเกรดใหม่ใช้เซ็นเซอร์ 9 แกนร่วมกับอัลกอริทึมขั้นสูง ให้ความแม่นยำในการนับรอบถึง 96%
ฟีเจอร์ Heart Rate Broadcast ช่วยให้คุณแชร์ข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจแบบเรียลไทม์ไปยังอุปกรณ์ฟิตเนสอื่นๆ เช่น คอมพิวเตอร์ปั่นจักรยาน ทำให้นักปั่นสามารถควบคุมความเข้มข้นของการฝึกซ้อมได้อย่างแม่นยำ
วิเคราะห์การนอนหลับและดูแลสุขภาพรอบด้าน
ระบบวิเคราะห์การนอนหลับขั้นสูงให้ข้อมูลครบถ้วน ทั้งประสิทธิภาพการนอนและการกระจายตัวของช่วงการนอน พร้อมคำแนะนำส่วนบุคคลที่ปรับให้เข้ากับคุณโดยเฉพาะ ช่วยส่งเสริมการพักผ่อนที่ดีขึ้นและสร้างกิจวัตรที่ดีต่อสุขภาพ
นอกจากนี้ยังมีระบบติดตามความเครียดรายวัน การวัดระดับออกซิเจนในเลือด (SpO₂) และการตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจตลอดทั้งวัน พร้อมการแจ้งเตือนและเตือนความจำที่ทันท่วงที ครอบคลุมการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม
ศูนย์ควบคุมอัจฉริยะบนข้อมือคุณ
เมื่อจับคู่กับสมาร์ตโฟนหรือแท็บเล็ต Xiaomi ที่รองรับ จะเปิดใช้งาน Xiaomi Smart Hub ได้ทันที ช่วยให้คุณควบคุมอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้เคียงได้อย่างราบรื่น เรียกหาโทรศัพท์หรือแท็บเล็ต ควบคุมกล้องจากระยะไกล และจัดการสไลด์ในการนำเสนอได้สะดวก
มอเตอร์สั่นแบบ Linear Motor ที่อัปเกรดใหม่ให้การสั่นที่ปรับแต่งได้ ไม่เพียงแค่การแจ้งเตือน แต่รวมถึงสายเรียกเข้าและการกระทำของระบบด้วย พร้อมหน้าปัดนาฬิกาให้เลือกมากกว่า 200 แบบ และมินิเกม 5 เกมในตัว ให้คุณเปลี่ยนสไตล์หรือผ่อนคลายได้ตามใจชอบ

แบตเตอรี่อึดใช้งานยาวนาน
ด้วยแบตเตอรี่ขนาด 233mAh สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 21 วัน ในโหมดการใช้งานทั่วไป คุณไม่ต้องกังวลเรื่องการชาร์จบ่อยๆ เพียงชาร์จด้วยระบบแม่เหล็กประมาณ 1 ชั่วโมง ก็พร้อมใช้งานได้ตลอดทั้งเดือน เหมาะสำหรับไลฟ์สไตล์ที่ Active
สเปคเด่นที่ควรรู้
- หน้าจอ: AMOLED 1.72 นิ้ว ความละเอียด 212×520 พิกเซล, 326 PPI
- ความสว่าง: สูงสุด 1,500 nits (ปรับได้)
- อัตราการรีเฟรช: 60Hz
- กันน้ำ: 5ATM
- Bluetooth: 5.4
- เซ็นเซอร์: Optical heart rate, Ambient light, 9-axis motion sensor
- รองรับระบบปฏิบัติการ: Android 8.0 ขึ้นไป, iOS 14.0 ขึ้นไป
- น้ำหนัก: 16.25 กรัม
- ขนาดข้อมือ: 135-210 มม.
ราคาและช่องทางจำหน่าย
Xiaomi Smart Band 10 Glimmer Edition สี Glimmer Gold วางจำหน่ายในประเทศไทยแล้ว ในราคาพิเศษ 2,890 บาท (จากราคาปกติ 3,990 บาท) ที่ Xiaomi Store ร้านตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ mi.com, Shopee, Lazada และ TikTok Shop
สมาร์ตแบนด์รุ่นนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการอุปกรณ์ฟิตเนสที่ไม่ได้มีแค่ประสิทธิภาพ แต่ยังมีดีไซน์พรีเมียมที่สวมใส่เป็นเครื่องประดับได้ ครบเครื่องเรื่องการติดตามสุขภาพและกีฬา พร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานยาวนาน ถ้าคุณกำลังมองหาสมาร์ตแบนด์ที่ตอบโจทย์ทั้งสไตล์และฟังก์ชัน Xiaomi Smart Band 10 Glimmer Edition คือคำตอบที่คุ้มค่า
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
