เนื่องในโอกาสวันสุขภาพจิตโลก (World Mental Health Day) ที่จะมาถึงในวันที่ 10 ตุลาคมนี้ Apple ได้นำเสนอเรื่องราวของแอปพลิเคชัน Sati ที่พัฒนาโดยทีมคนไทย ผ่าน App Store Today เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ผู้คนหันมาใส่ใจดูแล สุขภาพจิต ของตัวเองมากยิ่งขึ้น
Sati ถือเป็นแอปพลิเคชันที่สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้กับผู้ที่กำลังเผชิญกับความกังวล ความเครียด หรือความท้อแท้ทางใจ ได้พูดคุยกับอาสาสมัครที่ผ่านการอบรมการฟังเชิงลึกอย่างมืออาชีพ ซึ่งถือเป็นทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือทางด้านสุขภาพจิตอย่างทันท่วงที
เกิดจากประสบการณ์จริง แก้ปัญหาการขาดแคลนบุคลากรด้านสุขภาพจิต
แรงบันดาลใจในการสร้างแอป Sati เกิดขึ้นจากประสบการณ์ส่วนตัวของ คุณอมรเทพ สัจจะมุนีวงศ์ ผู้ก่อตั้งแอปพลิเคชัน ที่เคยเผชิญกับปัญหาไม่สามารถเข้าถึงความช่วยเหลือทางด้านสุขภาพจิตได้อย่างทันท่วงที
คุณอมรเทพเล่าว่า “เพื่อนของผมที่เป็นจิตแพทย์ในแอฟริกาก็เจอปัญหาเดียวกับไทย คือบุคลากรด้านสุขภาพจิตมีจำนวนไม่เพียงพอ การที่เราสามารถหันไปพึ่งพาชุมชนและเพื่อนได้อย่างรวดเร็ว จึงสำคัญมาก”
จากปัญหานี้เอง ทำให้ทีมงานเล็ก ๆ ในประเทศไทยตัดสินใจพัฒนาแอปพลิเคชันที่สามารถเชื่อมต่อผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือกับอาสาสมัครที่พร้อมให้กำลังใจได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องรอคิวพบจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาที่อาจใช้เวลานาน
ระบบการทำงานที่เน้นความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย
Sati ออกแบบระบบการทำงานที่เข้าใจง่ายและให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก เริ่มต้นจากการที่ผู้ใช้กรอกข้อมูลว่าตนเองกำลังรู้สึกอย่างไร จากนั้นระบบจะทำการเชื่อมต่อโทรศัพท์ระหว่างผู้ใช้กับอาสาสมัครที่พร้อมให้ความช่วยเหลือ
สิ่งที่น่าสนใจคือทั้งสองฝ่ายจะไม่เปิดเผยตัวตนให้กันทราบ เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวและสร้างความมั่นใจให้ผู้ใช้สามารถเปิดใจพูดคุยได้อย่างสบายใจ โดยไม่ต้องกังวลว่าข้อมูลส่วนตัวจะถูกเปิดเผย
นอกจากนี้ แอป Sati ยังมีระบบความปลอดภัยที่สำคัญมาก นั่นคือหากอาสาสมัครสังเกตเห็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าผู้ใช้มีความเสี่ยงที่จะทำร้ายตนเอง ระบบจะทำการเชื่อมต่อไปยังหน่วยบริการฉุกเฉินในพื้นที่ใกล้เคียงทันที เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับความช่วยเหลืออย่างเหมาะสมและทันท่วงที
ฟีเจอร์ติดตามอารมณ์ ช่วยเรียนรู้และเข้าใจตัวเอง
นอกเหนือจากการพูดคุยกับอาสาสมัครแล้ว Sati ยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถติดตามและสะท้อนอารมณ์ของตนเองในแต่ละวันได้อีกด้วย ผ่านการบันทึกข้อความ การบันทึกเสียง หรือแม้กระทั่งการถ่ายภาพ
ฟีเจอร์นี้ถือเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างมาก เพราะช่วยให้ผู้ใช้สามารถมองย้อนกลับไปดูว่าอารมณ์ของตนเองเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรในแต่ละวัน ในแต่ละสถานการณ์ และเรียนรู้วิธีการจัดการกับอารมณ์ในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดีขึ้น
การติดตามอารมณ์อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจตัวเองมากขึ้น รู้ว่าสิ่งใดที่ทำให้รู้สึกดีหรือไม่ดี และสามารถวางแผนดูแลสุขภาพจิตของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
แพลตฟอร์ม E-learning ฟรี สำหรับผู้ที่ต้องการเป็นอาสาสมัคร
จุดเด่นอีกประการหนึ่งของ Sati คือการสร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืน ด้วยการเปิดโอกาสให้ผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยเหลือผู้อื่นได้ ผ่านแพลตฟอร์ม e-learning ที่พัฒนาขึ้นร่วมกับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา
แพลตฟอร์มนี้เปิดให้บริการฟรีสำหรับทุกคนที่ต้องการอบรมเป็นอาสาสมัคร โดยจะได้เรียนรู้เทคนิคการฟังเชิงลึก การให้คำปรึกษาเบื้องต้น และการดูแลสุขภาพจิตอย่างถูกวิธี เมื่อผ่านการอบรมเรียบร้อยแล้ว อาสาสมัครจะสามารถรับสายจากผู้ใช้งานที่ต้องการความช่วยเหลือในพื้นที่ใกล้เคียงได้ทันที
การสร้างเครือข่ายอาสาสมัครในชุมชนท้องถิ่นเช่นนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงความช่วยเหลือได้เร็วขึ้น แต่ยังเป็นการสร้างชุมชนที่ใส่ใจดูแลซึ่งกันและกันอีกด้วย
Apple ส่งเสริมการดูแลสุขภาพจิตในวันสุขภาพจิตโลก
การที่ Apple เลือกนำเสนอเรื่องราวของ Sati ใน App Store Today ในวันสุขภาพจิตโลกนั้น สะท้อนให้เห็นถึงความใส่ใจในการส่งเสริมให้ผู้ใช้หันมาดูแลสุขภาพจิตมากยิ่งขึ้น
นอกจากการนำเสนอแอป Sati แล้ว Apple ยังมีกิจกรรมพิเศษในวันที่ 10 ตุลาคมนี้ โดยผู้ใช้ Apple Watch จะได้รับรางวัลดิจิทัลเมื่อทำเซสชั่นการสะท้อนความคิดหรือการหายใจอย่างน้อย 10 นาที ด้วยแอปใดก็ได้ที่บันทึก Mindful Minutes ลงในแอปสุขภาพ
Apple ยังเน้นย้ำถึงฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่มีอยู่ใน Apple Watch และ iPhone ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถดูแลสุขภาพจิตได้ เช่น แอป Mindfulness ที่ให้ทำเซสชั่น Reflect หรือ Breathe การบันทึกความรู้สึกและอารมณ์ในแอปสุขภาพ การทำแบบประเมินสุขภาพจิตเพื่อประเมินความเสี่ยงของภาวะซึมเศร้าหรือความวิตกกังวล รวมถึงแอป Journal ที่ช่วยบันทึกอารมณ์และความคิด
Apple Watch ทั้ง 3 รุ่น พร้อมฟีเจอร์ดูแลสุขภาพจิต
สำหรับผู้ที่กำลังมองหานาฬิกาอัจฉริยะที่ช่วยดูแลทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ Apple Watch ในปัจจุบันมีให้เลือก 3 รุ่นหลัก ที่แต่ละรุ่นมาพร้อมฟีเจอร์การดูแลสุขภาพจิตที่ครบครัน
Apple Watch SE 3 เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเข้าถึงฟีเจอร์สุขภาพจิตในราคาที่จับต้องได้ ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 8,500 บาท นาฬิการุ่นนี้มาพร้อมแอป Mindfulness ที่ช่วยให้คุณหยุดพักจากความวุ่นวาย โฟกัสกับตัวเองและลมหายใจได้ไม่กี่นาที พร้อมระบบบันทึก Mindful Minutes ที่เชื่อมต่อกับแอปสุขภาพบน iPhone ได้อย่างราบรื่น
Apple Watch Series 11 ราคาเริ่มต้นที่ 14,900 บาท เป็นรุ่นที่ให้ความสมดุลที่ลงตัวระหว่างฟีเจอร์และราคา นอกจากฟีเจอร์พื้นฐานเหมือน SE 3 แล้ว ยังมาพร้อมหน้าจอที่สว่างและสีสันสดใสกว่า ทำให้การติดตามสุขภาพจิตและการทำเซสชั่น Reflect หรือ Breathe มีความน่าสนใจและใช้งานสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ระบบการบันทึกความรู้สึกและอารมณ์ใน Mindfulness app ทำงานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
Apple Watch Ultra 3 ราคาเริ่มต้นที่ 29,900 บาท เป็นรุ่นพรีเมียมสำหรับผู้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยจอภาพขนาดใหญ่และสว่างมาก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการทำกิจกรรมกลางแจ้งที่ช่วยดูแลสุขภาพจิต เช่น การออกกำลังกาย การเดินป่า หรือการทำสมาธิกลางแจ้ง แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานกว่า ทำให้คุณสามารถติดตามสุขภาวะทางใจได้อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องพลังงานหมด
ทั้ง 3 รุ่นต่างมีความสามารถในการบันทึกความรู้สึกและอารมณ์ในแอป Mindfulness ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถสะท้อนสภาวะจิตใจในแต่ละวัน และดูความสัมพันธ์กับการใช้ชีวิต เช่น การออกกำลังกาย การนอน การอยู่กลางแจ้ง หรือการทำสมาธิ ทำให้เข้าใจตัวเองมากขึ้นและสามารถวางแผนดูแลสุขภาพจิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทางเลือกใหม่สำหรับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือทางใจ
ในยุคที่ปัญหาสุขภาพจิตกำลังได้รับความสำคัญมากขึ้น และการเข้าถึงบุคลากรด้านสุขภาพจิตยังมีข้อจำกัด แอปพลิเคชัน Sati จึงถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการพูดคุยและระบายความรู้สึกกับใครสักคน
การที่แอปพลิเคชันนี้พัฒนาโดยทีมคนไทย เข้าใจบริบทและวัฒนธรรมของคนในสังคมไทย พร้อมทั้งมีอาสาสมัครที่พร้อมให้ความช่วยเหลือในพื้นที่ใกล้เคียง ทำให้ผู้ใช้รู้สึกถึงความใกล้ชิดและความอบอุ่นใจมากยิ่งขึ้น
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถอ่านเรื่องราวของ Sati เพิ่มเติมได้ที่ App Store Today หรือดาวน์โหลดแอปพลิเคชันได้ทาง App Store ทั้งนี้ การดูแลสุขภาพจิตเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนควรให้ความสำคัญ และไม่ควรลังเลที่จะขอความช่วยเหลือเมื่อจำเป็น
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
