The new Kia Carnival HEV 7-seater MPV

เกีย เปิดตัว The new Kia Carnival HEV 7-seater MPV เรือธงโฉมใหม่ ราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท

เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) เปิดตัว The new Kia Carnival HEV 7-seater MPV เรือธงโฉมใหม่อย่างเป็นทางการ ภายใต้คอนเซปต์ “Built for Every Move of Life” ยกระดับประสบการณ์รถอเนกประสงค์สำหรับครอบครัวยุคใหม่ ด้วยระบบขับเคลื่อนไฮบริดที่ให้กำลังสูงสุด 245 แรงม้า ดีไซน์ผสานสไตล์ SUV-MPV และฟีเจอร์ครบครันตอบโจทย์ทุกช่วงเวลาของครอบครัว

มาพร้อม 2 รุ่นย่อย ได้แก่ The new Kia Carnival HEV 7-seat Luxury ราคา 2,699,000 บาท และ The new Kia Carnival HEV 7-seat Premium ราคา 2,499,000 บาท พร้อมการรับประกันคุณภาพ 7 ปี ฟรีค่าบำรุงรักษา 3 ปี และข้อเสนอพิเศษสำหรับเจ้าของรถ Kia ทุกรุ่น โดยเปิดให้ทดลองขับและส่งมอบรถได้ตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป ทุกโชว์รูมเกียทั่วประเทศ

ระบบขับเคลื่อนไฮบริดทรงพลัง ประหยัดเชื้อเพลิง

The new Kia Carnival HEV 7-seater ติดตั้งระบบขับเคลื่อนไฮบริดที่ผสานการทำงานของเครื่องยนต์เทอร์โบขนาด 1.6 ลิตร เข้ากับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 54kW และเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ให้กำลังสูงสุด 245 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 367 นิวตันเมตร มอบสมรรถนะที่ตอบสนองได้ดีพร้อมความประหยัดน้ำมัน

ระบบไฮบริดยังมาพร้อมประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวลและเงียบเป็นพิเศษ รองรับโหมด EV Drive ที่สามารถใช้งานระบบปรับอากาศแม้เครื่องยนต์หยุดทำงาน ในโหมด Eco/Smart ผู้ขับสามารถใช้ Paddle Shift ปรับระดับการชะลอความเร็วของระบบ Regenerative Braking ได้ถึง 3 ระดับ เพิ่มประสิทธิภาพการส่งคืนพลังงานและประหยัดเชื้อเพลิง

นอกจากนี้ยังอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีพิเศษ อาทิ E-Handling ช่วยเสริมการตอบสนองของรถเมื่อเข้าและออกจากโค้ง E-Ride ลดแรงสะเทือนและมอบความนุ่มนวลในการขับขี่เมื่อผ่านพื้นผิวถนนที่ไม่เรียบ และ E-Evasive Handling Assist ช่วยควบคุมการเคลื่อนไหวของรถในสถานการณ์หักหลบกะทันหัน

ดีไซน์โฉมใหม่ ผสานสไตล์ SUV และ MPV

ด้านการออกแบบภายนอก The new Kia Carnival HEV 7-seater ได้รับการปรับโฉมใหม่ให้มีความโฉบเฉี่ยวและโดดเด่นไม่ซ้ำใคร สะท้อนทั้งความหรูหราและความแข็งแกร่งในสไตล์ SUV มาพร้อมกระจังหน้าแบบ Tiger Nose โคมไฟหน้าพร้อมไฟส่องสว่างแบบ LED ดีไซน์ดวงไฟทรงลูกบาศก์

ชุดไฟหน้าและไฟท้ายแบบ Star Map Lighting เป็นดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของเกีย ติดตั้งล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 19 นิ้ว และมาพร้อมแร็คหลังคาที่ช่วยเสริมลุคความแข็งแกร่งแบบ SUV พร้อมเพิ่มความอเนกประสงค์ด้วยการรองรับน้ำหนักสูงสุดได้ถึง 100 กิโลกรัม

ด้านความสะดวกสบาย มีประตูสไลด์ไฟฟ้า (Smart Power Sliding Door) และฝากระโปรงท้ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Power Tailgate) พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติเมื่อเข้าใกล้ตัวรถโดยมีกุญแจ Smart Key อยู่ด้วย สำหรับรุ่น Luxury มี Dual Sunroof ที่ให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาช่วยเพิ่มความรู้สึกโปร่งสบาย

มีตัวเลือกสีภายนอกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีขาว Snowflake White Pearl สีเทา Meteor Grey สีดำ Jet Black และสีน้ำเงิน Astra Blue

ห้องโดยสารกว้างขวาง เทคโนโลยีครบครัน

ห้องโดยสารของ The new Kia Carnival HEV 7-seater ได้รับการออกแบบให้กว้างขวางและร่วมสมัย ประกอบด้วยจอโค้งแบบพาโนรามิกที่ผสานรวมจอแสดงผลแบบคลัสเตอร์ขนาด 12.3 นิ้ว และหน้าจออินโฟเทนเมนท์แบบสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว เข้าไว้ด้วยกันแบบไร้รอยต่อ

มีระบบเชื่อมต่อ Android Auto และ Apple CarPlay แบบไร้สาย พร้อมฟังก์ชันสั่งงานด้วยเสียง ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติสามารถปรับอุณหภูมิได้แบบแยกอิสระทั้งโซนด้านหน้าฝั่งซ้าย-ขวา และโซนด้านหลัง มีสวิตช์สำหรับสลับการควบคุมระบบอินโฟเทนเมนต์และระบบปรับอากาศบนอินเตอร์เฟซเดียวกัน

ภายในห้องโดยสารติดตั้งพอร์ต USB-C มาตรฐาน รวม 6 พอร์ตกระจายทั้งสามแถวที่นั่ง ช่วยให้ผู้โดยสารสามารถชาร์จอุปกรณ์ได้อย่างสะดวกไม่ว่าจะนั่งอยู่ตำแหน่งใดของตัวรถ

The new Kia Carnival HEV 7-seater MPV

ฟีเจอร์พรีเมียมเฉพาะรุ่น Luxury

ในรุ่น The new Kia Carnival HEV 7-seat Luxury ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ด้วยลำโพง BOSE รอบคัน 12 จุด มอบประสบการณ์การขับขี่ที่รื่นรมย์ ไฟเรืองแสง Ambient Light สามารถแต่งสีไฟให้เข้ากับทุกบรรยากาศพร้อมสีให้เลือกถึง 64 เฉดสีครอบคลุมบริเวณคอนโซลและประตู

มีระบบแสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกหน้า (Head-up Display) ขนาด 11 นิ้ว ฉายข้อมูลการขับขี่ที่สำคัญขึ้นบนหน้าจอกระจกหน้าในระดับสายตาของผู้ขับ และกระจกมองหลังแบบดิจิทัล ช่วยให้มองเห็นถนนด้านหลังได้อย่างชัดเจน แม้รถจะเต็มไปด้วยผู้โดยสารหรือสัมภาระขนาดใหญ่

เบาะที่นั่งของคนขับติดตั้งระบบจดจำตำแหน่งเบาะนั่งและระบบ Welcome Seat สำหรับผู้ขับ เบาะนั่งคู่หน้าและเบาะนั่งแถวที่สองมาพร้อมระบบระบายอากาศและระบบอุ่นเบาะ

ที่นั่งสุดพิเศษ ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน

สำหรับเบาะผู้โดยสารแถวสองในรุ่น Luxury เป็นแบบ Relaxation Seat ที่เปลี่ยนทุกการเดินทางให้เป็นความสะดวกสบายระดับเฟิร์สคลาส ด้วยฟังก์ชันปรับเอนนอนที่สามารถปรับระดับได้เต็มรูปแบบ พร้อมเบาะรองขาแบบปรับไฟฟ้า มีโหมด One-touch Relaxation ที่สั่งงานด้วยการกดเพียงครั้งเดียว

สำหรับรุ่น The new Kia Carnival HEV 7-seat Premium เบาะนั่งแถวสองเป็นเบาะแบบ Captain Seats ที่สามารถถอดออกได้เพื่อเพิ่มความอเนกประสงค์ในการใช้งาน ยังสามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งให้เป็นแบบนั่งหันหน้าเข้าหากันได้ ให้สมาชิกในครอบครัวได้มีปฏิสัมพันธ์กันได้ตลอดทริป

ทั้งสองรุ่นได้รับการปรับให้มีพื้นที่ทางเดิน (Walkthrough access) ที่เอื้อต่อการเข้า-ออกเบาะหลังได้สะดวกยิ่งขึ้นสำหรับสมาชิกครอบครัวทุกคน โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุ ด้วยจุดยึดสำหรับติดตั้งเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX) ที่มีให้ในตำแหน่งที่นั่ง 4 ตำแหน่ง คือ 2 จุดบนเบาะนั่งแถวสอง และอีก 2 จุดบนเบาะแถวสาม

เบาะนั่งแถวสามมาพร้อมฟังก์ชันพับราบที่เป็นการสร้างพื้นที่บรรทุกแบบเรียบ รวดเร็วและไม่ต้องใช้แรง ปรับเปลี่ยนได้ทันทีระหว่างความต้องการในการขนย้ายคนและขนส่งสินค้า

ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ ปลอดภัยทุกมุม

การจอดรถกับ The new Kia Carnival HEV 7-seater เป็นเรื่องง่ายและไร้กังวลด้วยเทคโนโลยี Parking Aid Assist ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจตลอดการใช้งาน กล้องมองรอบทิศทาง (Surround View Monitor) ให้มุมมองเสมือนมองจากมุมสูง ทำให้ผู้ขับเห็นทุกมุมอย่างชัดเจนเมื่อต้องเข้าจอดในพื้นที่แคบ

เซนเซอร์รอบคันด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง ช่วยให้ประเมินระยะห่างได้อย่างแม่นยำและหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางรอบตัวรถได้อย่างมั่นใจ มีระบบป้องกันการชนด้านหลังขณะถอยจอด (Rear Parking Collision-Avoidance Assist) ที่จะส่งสัญญาณเตือนและสั่งเบรกอัตโนมัติทันทีหากตรวจพบสิ่งกีดขวางด้านหลังขณะถอยหลัง

ด้วยความสูงจากพื้น 172 มิลลิเมตร ทำให้รถมีทัศนวิสัยในการขับขี่ที่เหนือระดับพร้อมศักยภาพการขับขี่ในแบบรถ SUV ในการรับมือกับถนนขรุขระ ลูกระนาด หรือพื้นผิวที่ไม่เรียบได้อย่างมั่นใจ มีความคล่องตัวและง่ายต่อการควบคุมไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมืองและนอกเมือง

ระบบความปลอดภัยขั้นสูง ADAS

The new Kia Carnival HEV 7-seater มาพร้อมระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS – Advanced Driver-Assistance Systems) ที่ช่วยยกระดับความมั่นใจและความปลอดภัยในทุกการเดินทาง ประกอบด้วย Smart Cruise Control with Stop & Go, High Beam Assist, Forward Collision Avoidance Assist, Blind Spot Collision Avoidance Assist (BCA), Blind-Spot View Monitor (BVM), Rear Cross Traffic Collision Avoidance Assist (RCCA), Lane Following Assist and Lane Keeping Assist และ Safe Exit Assist

ติดตั้งถุงลมนิรภัยมาตรฐาน 8 ตำแหน่ง ครอบคลุมทุกด้าน ประกอบด้วยถุงลมนิรภัยคู่หน้า ถุงลมนิรภัยด้านข้าง ถุงลมม่านด้านข้าง ถุงลมนิรภัยปกป้องเข่าผู้ขับ และถุงลมนิรภัยกลางระหว่างเบาะผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้า (Front Center Airbag) ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ ช่วยลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บของผู้โดยสารทุกตำแหน่งเพื่อความมั่นใจกับผู้โดยสารในทุกเส้นทาง

โปรโมชันพิเศษช่วงเปิดตัว

สำหรับโปรโมชันพิเศษช่วงเปิดตัว ตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2568 ถึง 31 ตุลาคม 2568 ได้แก่ อัตราดอกเบี้ยพิเศษ (ต้นงวด) 1.77% พร้อมดาวน์ 25% สำหรับระยะเวลาผ่อนชำระ 48 เดือน ฟรีประกันภัยชั้น 1 พร้อม พ.ร.บ. เป็นระยะเวลา 1 ปี และฟรีค่าบำรุงรักษาตามระยะ (ค่าแรงและค่าอะไหล่) ตลอด 3 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร

พิเศษสำหรับเจ้าของรถยนต์ Kia และครอบครัว (Kia Loyalty) รับสิทธิ์ฟรีค่าบำรุงรักษาตามระยะ (ค่าแรงและค่าอะไหล่) เพิ่มอีก 2 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร รวมเป็น 5 ปี หรือ 50,000 กิโลเมตร พร้อมฟรีบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลา 7 ปี ไม่จำกัดระยะทาง

มาพร้อมการรับประกันคุณภาพตัวรถ 7 ปี หรือ 150,000 กิโลเมตร และการรับประกันแบตเตอรี่รถยนต์ (High-Voltage Battery) 8 ปี หรือ 160,000 กิโลเมตร ระยะใดระยะหนึ่งถึงก่อน

นายฌ็อง-ดาวิด คริสติญอง อาเรล รองประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์และการตลาด บริษัท เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “The Kia Carnival ไม่ใช่แค่รถยนต์ธรรมดา แต่เป็นรถ MPV สำหรับครอบครัวที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร ใน The new Kia Carnival HEV 7-seater เราได้สร้างสรรค์ยนตรกรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเช่นเดียวกับครอบครัวที่ได้เป็นเจ้าของ”

สำหรับผู้ที่สนใจ The new Kia Carnival HEV 7-seater สามารถทดลองขับและสอบถามข้อเสนอพิเศษได้ที่โชว์รูมเกียทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป

ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok

Online Content Manager with over 10 years of experience working in the news, technology, and telecom industries.