ในยุคที่ธุรกิจสตรีทฟู้ดต้องเผชิญกับความท้าทายมากมาย “ล้งเล้งลูกชิ้นปลา” ร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาตำนานกว่า 41 ปีในย่านบรรทัดทอง กลับพิสูจน์ให้เห็นถึงการยืนหยัดและเติบโตอย่างแข็งแกร่ง แกร็บฟู้ด นำเสนอเบื้องหลังความสำเร็จของทายาทรุ่นที่ 2 ที่นำพาธุรกิจครอบครัวฝ่าฟันวิกฤต ด้วยหัวใจสำคัญคือการยึดมั่นในคุณภาพและความจริงใจที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น
ผสานกับวิสัยทัศน์ในการปรับตัวสู่โลกดิจิทัล ตั้งแต่การขยายสู่แพลตฟอร์มเดลิเวอรีก่อนช่วงโควิด-19 และการใช้เครื่องมือการตลาดรูปแบบใหม่เพื่อต่อยอดความสำเร็จ พิสูจน์ว่าธุรกิจดั้งเดิมสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนท่ามกลางการเปลี่ยนแปลง
ล้งเล้ง เริ่มต้นจากธุรกิจครอบครัวทางฝั่งคุณแม่ ก่อนจะแยกมาเปิดร้านของตัวเองที่ตลาดสวนหลวง และย้ายมายังที่ตั้งปัจจุบันในย่านบรรทัดทอง สืบทอดสู่ทายาทรุ่นที่ 2 คือ คุณมุก-มุกรวี หวังเพื่อสุข ที่มุ่งมั่นสานต่อมรดกครอบครัวด้วยวิสัยทัศน์สมัยใหม่ เมนูขึ้นชื่อของร้านคือ เกี๊ยวปลาจัมโบ้ ที่โดดเด่นด้วยไส้แน่น แป้งบาง ทำสดใหม่ทุกวัน นอกจากนี้ยังมีเมนูยอดนิยม เช่น บะหมี่เย็นตาโฟ, เกาเหลาเส้นปลาน้ำใส, หนังปลากรอบสูตรล้งเล้ง และเกี๊ยวทอดไส้หมู
ร้านได้ขยายสาขาที่ 2 ไปยังพระราม 4 โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อขยายพื้นที่ครัวสำหรับการผลิตลูกชิ้น แม้จะได้รับการติดต่อขอซื้อแฟรนไชส์อยู่หลายครั้ง แต่คุณมุกยืนยันว่า “ยังไม่คิดจะขายแฟรนไชส์ เพราะต้องการควบคุมคุณภาพให้ได้มากที่สุด เพื่อคงมาตรฐานของร้านในระยะยาว” แทนที่จะขยายแฟรนไชส์ ร้านเลือกต่อยอดผ่านแพลตฟอร์มเดลิเวอรีและรับจัดเลี้ยงนอกสถานที่ โดยลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าประจำที่ประทับใจในรสชาติและคุณภาพที่สม่ำเสมอ

ในยุคที่บรรทัดทองกลายเป็นจุดเช็กอินของนักกินและนักท่องเที่ยว การแข่งขันสูงขึ้นเป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ในฐานะร้านเก่าแก่ ล้งเล้ง ใช้โอกาสนี้นำเสนอเสน่ห์ของสตรีทฟู้ดโลคอลอย่างแท้จริง ทั้งการตกแต่งและบรรยากาศที่ยังคงความดั้งเดิม แต่ปรับปรุงรายละเอียดและประสบการณ์ให้ดียิ่งขึ้น สิ่งที่ทำให้ร้านยืนหยัดมั่นคงคือการยึดมั่นในคุณภาพ
คุณมุกกล่าวว่า “เราอยากให้ลูกค้าได้อิ่มอร่อยและสัมผัสกับกลิ่นอายของสตรีทฟู้ดในราคาที่จับต้องได้ทุกวัน เริ่มต้นเพียงชามละ 65 บาท และยังสามารถนั่งได้อย่างสบายในห้องแอร์ สิ่งนี้ทำให้ลูกค้าขาจรที่แวะมากลายเป็นลูกค้าประจำ และเกิดการรีวิวแบบปากต่อปาก จนชื่อร้านไปปรากฏในเพจรีวิวอาหารและแพลตฟอร์มต่างชาติโดยที่ร้านไม่ได้ทำการตลาดเลย”
ตลอด 4 ทศวรรษ ล้งเล้ง พิสูจน์การเป็นธุรกิจที่ปรับตัวอยู่เสมอ ตั้งแต่การเติบโตของย่านบรรทัดทองที่เปลี่ยนจากชุมชนที่อยู่อาศัยสู่สตรีทฟู้ดชื่อดัง ไปจนถึงการรับมือวิกฤตโควิด-19 ที่ทำให้ยอดขายหน้าร้านลดลงอย่างหนัก ด้วยวิสัยทัศน์ของคุณมุกที่ผลักดันให้ครอบครัวยอมรับการขยายช่องทางธุรกิจบนแพลตฟอร์มเดลิเวอรีตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤต การตัดสินใจครั้งนั้นกลายเป็นการเตรียมความพร้อมที่สำคัญ ทำให้ร้านพึ่งพาช่องทางเดลิเวอรีได้ทันทีเมื่อเกิดล็อกดาวน์
การเปลี่ยนแปลงนี้นำมาสู่การรีแบรนด์และพัฒนาบรรจุภัณฑ์ใหม่ที่เหมาะกับการจัดส่ง ซึ่งไม่เพียงตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มใหม่บนแอปพลิเคชัน แต่ยังอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าประจำรุ่นเก่าที่มาซื้อหน้าร้าน ส่งผลให้ ล้งเล้ง รักษาฐานลูกค้าเดิมและขยายฐานลูกค้าใหม่ไปพร้อมกัน
ทางร้านยังเดินหน้าลุยช่องเดลิเวอรีอย่างต่อเนื่อง เช่น เข้าร่วมแคมเปญส่งฟรีกับ แกร็บฟู้ด ซึ่งได้ผลตอบรับดีเกินคาด ยอดขายโตขึ้นถึง 40% แม้การแข่งขันบนแพลตฟอร์มจะดุเดือด แต่คุณมุกยังมองเห็นโอกาสให้เติบโตได้อีก เธอพร้อมเรียนรู้และอัปเดตเทคโนโลยีใหม่ อย่างการใช้เครื่องมือการตลาดบนแพลตฟอร์มเดลิเวอรี เพื่อนำมาต่อยอดจุดแข็งของร้าน
โดยเฉพาะบน แกร็บฟู้ด ที่มีเครื่องมือการตลาดหลากหลายให้เลือกใช้ได้อย่างยืดหยุ่น เหมาะกับทั้งจังหวะและขนาดของธุรกิจ คุณมุกสนใจเลือกใช้เครื่องมืออย่าง Search Ads ของ GrabAds เพราะใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน และเห็นผลชัดเจนในการเพิ่มการมองเห็นและสร้างทราฟิกให้ร้าน เธอเชื่อว่าหากได้เรียนรู้และใช้เครื่องมือเหล่านี้อย่างจริงจัง จะยิ่งช่วยต่อยอดความสำเร็จและเพิ่มยอดในช่องทางเดลิเวอรีได้อีกมาก
“สิ่งที่ขับเคลื่อนเราคือความสุขที่ได้สานต่อธุรกิจของครอบครัว และความตั้งใจจะต่อยอดให้ร้านยืนหยัดได้อย่างยั่งยืน” คุณมุกทิ้งท้ายพร้อมให้กำลังใจผู้ประกอบการที่กำลังเผชิญความท้าทายว่า ให้มองเป็นเพียงอีกหนึ่งบททดสอบที่เราต้องเจอ “ทุกวงจรของธุรกิจมี Cycle ของมัน และรอบนี้ก็เป็นบททดสอบหนึ่ง ขอให้เราทำให้ดีที่สุด อดทนและอย่าท้อกับอุปสรรค ไม่หยุดที่จะปรับตัวไปกับความเปลี่ยนแปลง เราก็จะผ่านไปได้และเก่งขึ้น”
เรื่องราวของ ‘ล้งเล้งลูกชิ้นปลา’ พิสูจน์ให้เห็นว่า คุณภาพที่คงเส้นคงวา ความจริงใจที่ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น และความมุ่งมั่นพัฒนาในแบบฉบับของตัวเอง คือหัวใจสำคัญที่ทำให้ธุรกิจไม่เพียงแค่อยู่รอด แต่ยังสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคง ไม่ว่าจะเผชิญกับความท้าทายในรูปแบบใดก็ตาม
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
