ฟูจิฟิล์ม เปิดตัว instax mini LiPlay+ กล้องอินสแตนท์ไฮบริดรุ่นพรีเมียมที่มาพร้อมกล้องหน้าสำหรับเซลฟี่ครั้งแรกในตระกูล instax ภายใต้คอนเซปต์ “sounds like adventure” วางจำหน่ายในไทย 30 ตุลาคม 2568 ราคา 6,990 บาท
จุดเด่นสำคัญที่ช่างภาพต้องชอบคือกล้องหน้าเลนส์มุมกว้างที่ทำให้ถ่ายเซลฟี่หมู่ได้สบาย พร้อมเช็กภาพผ่านจอ LCD ด้านหลังได้ทันที ไม่ต้องเดาว่าองค์ประกอบจะออกมาดีหรือเปล่า ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับกล้องอินสแตนท์ที่ใช้ฟิล์มจริง
ที่น่าสนใจคือฟีเจอร์ Layered Photo Mode หรือการถ่ายภาพซ้อน ที่ช่วยให้เรารวมภาพเซลฟี่เข้ากับพื้นหลังที่ถ่ายไว้ได้ในภาพเดียว เหมาะกับการเก็บบรรยากาศของสถานที่พร้อมกับคนในเฟรม สร้างความรู้สึกที่สมบูรณ์มากขึ้น
ฟังก์ชันเสียงยังคงเป็นจุดขายหลัก บันทึกเสียงได้สูงสุด 10 วินาที แล้วแปลงเป็น QR Code ลงบนภาพปรินต์ ทำให้ทุกช็อตมีมิติของเสียงประกอบด้วย ไม่ใช่แค่ภาพนิ่งอีกต่อไป สแกน QR Code ก็ได้ฟังเสียงที่บันทึกไว้ทันที

ฟีเจอร์ใหม่อย่าง instax Sound Album ให้เลือกภาพที่มีเสียงได้สูงสุด 10 ภาพ ใส่เพลงประกอบที่ชอบ แล้วสร้างเป็นวิดีโอสไลด์โชว์ความยาว 30 วินาที ระบบจะแปลงเป็น QR Code ปรินต์ออกมาพร้อมรูปปก สแกนเมื่อไรก็ดูวิดีโอได้ตลอด
สำหรับการปรินต์ มีโหมดให้เลือก 2 แบบคือ instax-Natural Mode ที่ให้โทนสีนุ่มนวลอ่อนโยนตามเอกลักษณ์ของ instax และ instax-Rich Mode ที่ให้สีสันสดใสโดดเด่นขึ้น เลือกได้ตามสไตล์ภาพที่ต้องการ
กล้องรองรับฟิล์ม instax ขนาดมินิ ใช้เป็นสมาร์ตโฟนปรินเตอร์ได้ผ่านฟังก์ชัน Direct Print ในแอปพลิเคชัน instax mini LiPlay+ พร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่ให้แนบข้อความเสียงลงในภาพถ่ายจากมือถือก่อนปรินต์ได้ด้วย
ตัวกล้องมาใน 2 สีคือ SAND BEIGE และ MIDNIGHT BLUE ดีไซน์เรียบหรูด้วยวัสดุโลหะสีเมทัลลิกบริเวณปุ่มชัตเตอร์และเลนส์ เสริมลุคพรีเมียมให้โดดเด่น พร้อมเคสกล้องที่แมตช์สีกัน
มาพร้อมฟิล์มขนาดมินิลายใหม่ “SOFT GLITTER” ที่โดดเด่นด้วยการไล่โทนสีนุ่มนวลและแต่งแต้มด้วยกลิตเตอร์สีทองอย่างสวยงาม เพิ่มความพิเศษให้กับภาพปรินต์

ในแอปพลิเคชันมีกรอบให้เลือกมากกว่า 60 แบบ ขณะที่ในตัวกล้องมี 13 แบบ พร้อมฟีเจอร์ที่ให้บันทึกภาพในรูปแบบ instax ปรับแต่งพื้นหลังและสีสันได้ แล้วแชร์ลงโซเชียลมีเดียได้ทันที
instax mini LiPlay+ วางจำหน่ายในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม 2568 ราคา 6,990 บาท ผ่านช่องทางจำหน่ายของฟูจิฟิล์มและตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
