BYD ประเทศไทย และ เรเว่ ออโตโมทีฟ ขานรับนโยบายรัฐ เร่งเดินหน้าผลิตรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ภายในประเทศตามมาตรการ EV 3.0 พร้อมออกแคมเปญพิเศษสุดเพื่อกระตุ้นตลาดก่อนมาตรการให้เงินอุดหนุนนี้จะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ซึ่งจะส่งผลให้ราคาจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าในไทยปรับตัวสูงขึ้นกลับสู่ระดับปกติ
นี่คือช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการครอบครองรถยนต์ไฟฟ้าจาก BYD ที่ผู้บริโภคชาวไทยให้การยอมรับแล้วกว่า 100,000 คัน โดยมาตรการ EV 3.0 ให้การสนับสนุนเงินอุดหนุนแก่ผู้ผลิตจากกรมสรรพสามิต คันละ 150,000 บาท สำหรับรุ่นที่ร่วมโครงการ ซึ่งเมื่อสิ้นสุดมาตรการจะส่งผลให้ราคารถยนต์ไฟฟ้าปรับขึ้นตามโครงสร้างราคาที่เปลี่ยนแปลง
แคมเปญพิเศษ EV 3.0 Best Deal Campaign นี้จำกัดเฉพาะรถยนต์ที่อยู่ภายใต้โครงการ EV 3.0 ที่มีจำนวนจำกัดเท่านั้น โดยมีระยะเวลาแคมเปญตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม 2568 ถึง 10 ธันวาคม 2568 หรือจนกว่าสินค้าจะหมด หากมีแคมเปญอื่นที่ดีกว่าในช่วงเวลานี้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ทางบริษัทฯ เรเว่ ยินดีการันตีชดเชยส่วนต่างแคมเปญให้แก่ลูกค้า

รุ่นรถยนต์ที่ได้รับการสนับสนุนภายใต้มาตรการ EV 3.0 และราคาพิเศษตามแคมเปญ มีดังนี้
- BYD DOLPHIN Standard: 449,900 บาท (จากราคาปกติ 569,900 บาท)
- BYD DOLPHIN Extended: 569,900 บาท (จากราคาปกติ 709,900 บาท)
- BYD ATTO 3 Premium: 629,900 บาท (จากราคาปกติ 799,900 บาท)
- BYD ATTO 3 Extended: 699,900 บาท (จากราคาปกติ 899,900 บาท)
ถ้าลูกค้าต้องการติดตั้งโฮมชาร์จเจอร์มูลค่า 30,000 บาท สามารถจ่ายเพิ่มเพียง 10,000 บาท
ปัจจุบัน BYD ประเทศไทย มีกำลังการผลิตสูงสุด 150,000 คันต่อปี และมุ่งมั่นตามนโยบาย ‘30@30‘ ของรัฐบาลไทย โดยโรงงานจะผลิตรถยนต์พลังงานใหม่รวม 4 รุ่น ได้แก่ BYD DOLPHIN, BYD ATTO 3, BYD SEALION 6 DM-i และ BYD SEAL 5 DM-i
สำหรับผู้สนใจสามารถเข้าชมรถยนต์ BYD และ DENZA ได้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการทั้ง 167 สาขา ทั่วประเทศ
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
