รีวิว realme 15 Series 5G

รีวิว realme 15 Series 5G สมาร์ทโฟน AI Party Phone ถ่ายสวยทุกช็อตมีชีวิตชีวา

รีวิว realme 15 Series 5G สมาร์ทโฟน AI Party Phone ให้คุณถ่ายภาพสวยทุกช็อตมีชีวิตชีวา ไม่ว่าจะแสงน้อย ก็ยังเก็บภาพได้สนุกแบบสุดขีด

เมื่อพูดถึงสมาร์ทโฟนที่ออกแบบมาสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ชอบเก็บภาพความทรงจำและแชร์ช่วงเวลาดีๆ กับเพื่อนฝูง realme 15 Series 5G คือคำตอบที่น่าสนใจในปี 2025 ด้วยสโลแกน “ใช้ชีวิตให้เรียลทุกช็อต” ซีรีส์นี้เจาะตรงใจกลุ่ม Gen Z และ Millennial ที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่ไม่เพียงแต่ถ่ายภาพสวย แต่ยังต้องตอบโจทย์การใช้งานหลากหลายรูปแบบ

realme 15 Series 5G ประกอบด้วย 2 รุ่นหลัก คือ realme 15 5G และ realme 15 Pro 5G โดยทั้งคู่มาพร้อมแนวคิด “AI Party Phone” ที่เน้นการถ่ายภาพในสถานการณ์ปาร์ตี้และการรวมตัวกับเพื่อนฝูง ซึ่งเป็นไลฟ์สไตล์หลักของคนรุ่นใหม่ในยุคปัจจุบัน

จุดเด่นที่โดดเด่นที่สุดของซีรีส์นี้คือระบบกล้อง 50MP ที่มาพร้อม AI Party Mode ตัวแรกในตลาด ที่ช่วยให้ถ่ายภาพในงานปาร์ตี้หรือสถานที่แสงน้อยได้ชัดเจนและสวยงาม พร้อมเอฟเฟกต์แสงและลายน้ำที่สร้างบรรยากาศให้ภาพดูมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น

รีวิว realme 15 Series 5G

นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ AI Edit Genie ที่เป็นตัวแรกในอุตสาหกรรมที่ให้ผู้ใช้แก้ไขภาพด้วยการใช้เสียงพูด รองรับมากกว่า 20 ภาษา ทำให้การแต่งภาพกลายเป็นเรื่องง่ายแม้กระทั่งคนที่ไม่มีทักษะการใช้โปรแกรมแต่งภาพ

สำหรับประสิทธิภาพ realme 15 Pro 5G มาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 7 Gen 4 ที่ทรงพลัง ในขณะที่ realme 15 5G ใช้ Dimensity 7300+ 5G ทั้งคู่รองรับการใช้งานหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การถ่ายภาพ 4K การเล่นเกม ไปจนถึงการทำงานหลายๆ อย่างพร้อมกัน

ที่สำคัญไม่แพ้กันคือแบตเตอรี่ 7000mAh ที่มาพร้อมเทคโนโลยี Titan Battery ทำให้ใช้งานได้ยาวนานตลอดวัน แม้แต่การเล่นเกมหรือดูคลิปวิดีโอติดต่อกันหลายชั่วโมง และยังชาร์จเร็วด้วยระบบ 80W Ultra Charge ที่ชาร์จเพียง 25 นาทีก็ได้ 50% แล้ว

ในบทความนี้เราจะมาดูกันอย่างละเอียดว่า realme 15 Series 5G จะตอบโจทย์การใช้งานของคนรุ่นใหม่ได้ดีแค่ไหน และรุ่นไหนเหมาะกับใครมากที่สุด

Unbox แกะกล่อง รีวิว realme 15 Series 5G

รีวิว realme 15 Series 5G

ตามสไตล์ของ realme กับรุ่น number series ที่จะเป็นกล่องสีเหลืองที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ โดยจะมีตัวหนังสือชื่อของรุ่นอยู่ที่ด้านหน้าของกล่อง แต่ตอนนี้จะมีคำว่า AI อยู่ที่มุมบนกล่อง แสดงให้เห็นว่าเป็นรุ่นที่รองรับการใช้งาน AI เต็มรูปแบบ และในรุ่นนี้ต้องบอกว่าจัดเต็มทั้งในการใช้งานต่างๆ ไปจนถึงการแต่งภาพที่ฉลาดยิ่งขึ้น

ทั้ง 2 รุ่น ภายในจะมีตัวเคสสำหรับใส่ปกป้องเครื่อง โดยจะเป็นดีไซน์แบบลายเส้นแถบยาวเหมือนกับกระเป๋าเดินทาง

พร้อมกันนี้ ในกล่องก็จะมีมาให้ครบกับอุปกรณ์สำหรับชาร์จ ที่เป็นสาย USB-A to USB-C และอะแดปเตอร์มาตรฐาน 80W UltraCharge เพื่อให้คุณใช้งานชาร์จเครื่องได้เร็วไวแบบเต็มประสิทธิภาพ ไม่ต้องไปหาซื้อเพิ่มที่ไหน

รีวิว realme 15 Series 5G

รีวิว realme 15 Series 5G ระบบกล้อง ถ่ายสนุกขึ้นแม้ที่แสงน้อย

realme 15 Series 5G มีการพัฒนาในส่วนของกล้องได้อย่างโดดเด่นมาก ที่ช่วยให้การถ่ายภาพด้วยสมาร์ตโฟนมีความยืดหยุ่นและหลากหลายมากขึ้น รวมถึงยังใส่ฟีเจอร์ใหม่ให้ถ่ายได้สนุกยิ่งกว่าเดิม

realme 15 Pro 5G: เซ็นเซอร์ระดับเรือธงในราคาที่คุ้มค่า

รีวิว realme 15 Series 5G

realme 15 Pro 5G มาพร้อมระบบกล้อง Triple 50MP ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การถ่ายภาพในทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะการถ่ายในที่แสงน้อยที่มักเป็นจุดอ่อนของสมาร์ทโฟนในระดับราคานี้

กล้องหลักใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX896 ขนาด 50 ล้านพิกเซล พร้อมระบบ OIS ที่ช่วยป้องกันภาพสั่นไหว ทำให้ภาพคมชัดแม้ถ่ายด้วยมือหรือในสถานการณ์เคลื่อนไหว ตัวเซ็นเซอร์มีขนาด 1/1.56 นิ้ว ซึ่งใหญ่กว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปในช่วงราคา ช่วยรับแสงได้มากขึ้น

รีวิว realme 15 Series 5G

กล้องมุมกว้าง OV50D 50MP สามารถครอบคลุมมุมมอง 115.6 องศา เหมาะสำหรับถ่ายภาพกลุ่มหรือทิวทัศน์ที่ต้องการเก็บรายละเอียดในกรอบกว้าง ในขณะที่กล้องหน้า OV50D 50MP มีมุมมอง 86.7 องศา พร้อมระบบกันสั่นแบบ EIS สำหรับการถ่ายเซลฟี่ที่คมชัด

AI Party Mode: เทคโนโลยีที่เปลี่ยนคืนมืดให้กลายเป็นสีสัน

ฟีเจอร์เด่นที่สุดคือ AI Party Mode ซึ่งพัฒนาขึ้นเพื่อแก้ปัญหาการถ่ายภาพในงานปาร์ตี้หรือสถานที่แสงน้อย โหมดนี้ใช้อัลกอริทึม AI 3 ชั้น ประกอบด้วย:

  • อัลกอริทึม AI ฟื้นฟูโทนสีผิว – ช่วยให้สีผิวดูธรรมชาติและสดใสขึ้น ลดปัญหาผิวซีดหรือหมองคล้ำที่เกิดจากแสงไฟเทียม
  • อัลกอริทึมภาพทิวทัศน์กลางคืน – เพิ่มความคมชัดและรายละเอียดในสภาพแสงน้อย ทำให้เห็นรายละเอียดของเสื้อผ้าและฉากหลังชัดเจนขึ้น
  • อัลกอริทึม AI HyperRAW – สร้างเงาสามมิติบนใบหน้าด้วยแสงไฟ ทำให้ใบหน้าดูมีมิติและเป็นธรรมชาติ

การใช้งาน AI Party Mode ทำได้ง่าย เพียงเลือกโหมด “Party” ในแอปกล้อง ระบบจะตรวจจับแหล่งแสงรอบข้างโดยอัตโนมัติ และเสนอเอฟเฟกต์แสงที่เหมาะสม เช่น เอฟเฟกต์แสงดาวหรือหัวใจที่สร้างบรรยากาศโรแมนติก

ตัวอย่างภาพถ่ายในโหมด AI Party Mode

รีวิว realme 15 Series 5G

เพิ่มความ Glam ให้กับภาพถ่าย มีกรอบภาพลวดลายพิเศษที่เลือกได้หลายแบบ ให้ตรงกับบรรยากาศ เพิ่มความพิเศษที่โดดเด่นเหมือนใช้กล้องอินสแตนถ่าย

AI MagicGlow 2.0: แฟลชอัจฉริยะที่ไม่ใช่แค่แสงสว่าง

เป็นระบบแฟลชแบบใหม่ที่ไม่เพียงให้แสงสว่าง แต่ยังปรับคุณภาพแสงให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ความสว่างเพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน พร้อมปรับอุณหภูมิสีให้ธรรมชาติ ไม่ทำให้สีผิวดูซีดหรือส้ม

ด้วยระบบ Breathing Light ทำหน้าที่เป็นทั้งแฟลชและไฟแจ้งเตือน รองรับการแจ้งเตือนหลากหลายรูปแบบ เช่น สายเรียกเข้า ข้อความ หรือแม้กระทั่งจังหวะเพลง พร้อมปรับสีได้ตามความต้องการ

AI Edit Genie: แต่งภาพด้วยเสียงพูด

ลูกเล่นใหม่ที่น่าสนใจและไม่เหมือนใคร กับ AI Edit Genie ซึ่งเป็นฟีเจอร์แรกในอุตสาหกรรมที่ให้แก้ไขภาพด้วยการใช้เสียงพูด รองรับมากกว่า 20 ภาษา รวมถึงภาษาไทย ผู้ใช้สามารถสั่งการแก้ไขได้หลากหลาย เช่น “ลบภาพพื้นหลัง” “เปลี่ยนสีเสื้อผ้า” หรือ “สร้างภาพตามจินตนาการ” ระบบ AI จะประมวลผลและแสดงผลลัพธ์ภายในไม่กี่วินาที

นอกจากนี้ ยังใช้ AI Inspiration เป็นโหมดที่ AI วิเคราะห์ภาพและเสนอการแก้ไขอัตโนมัติ เช่น ปรับความสว่าง ลดความเบลอ หรือปรับโทนสีให้สมบูรณ์แบบ เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ในการแต่งภาพ หรือบางทีไม่อยากวุ่นวายปรับภาพหลายๆ ขั้นตอน AI ก็จะมาช่วยในจุดนี้ให้คุณได้

ฟีเจอร์ AI เสริมอื่นๆ

รีวิว realme 15 Series 5G
  • AI Landscape ช่วยปรับแต่งภาพทิวทัศน์ในคลิกเดียว แก้ปัญหาสีหมองจากหมอก ทำให้ได้ภาพทิวทัศน์ที่คมชัดและสีสันสดใส และยังเปิดช่วยจัดเฟรมให้อยู่ในระยะตรงระนาบ ไม่ว่าจะถือกล้องเอียงแค่ไหน ก็จะปรับให้ตรง เพื่อให้ได้ภาพที่สัดส่วนมุมมองที่ดีที่สุด
  • AI Glare Remover กำจัดแสงสะท้อนจากไฟถนนหรือแหล่งแสงอื่นๆ ในภาพถ่ายกลางคืน ช่วยให้ภาพทิวทัศน์กลางคืนดูคมชัดและสะอาดตา
  • AI Snap Mode เพิ่มความเร็วในการถ่ายภาพต่อเนื่อง สามารถถ่ายได้ 27 ภาพต่อวินาที และรองรับการถ่ายต่อเนื่องสูงสุด 200 ภาพ เหมาะสำหรับการถ่ายวัตถุเคลื่อนไหวเร็ว
  • AI Remove ช่วยแต่งภาพในการลบคนในฉากหลังให้อัตโนมัติ หรือจะเลือกวงลบวัตถุในภาพเองก็ได้ โดยการลบจะทำการแต่งเติมภาพในตำแหน่งนั้นแทนอย่างแนบเนียน ช่วยให้ได้ภาพที่มีความสวยสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

การบันทึกวิดีโอ 4K 60FPS

ทั้งกล้องหน้าและหลังรองรับการถ่ายวิดีโอ 4K 60FPS ซึ่งให้ความคมชัดกว่า 1080p ถึง 4 เท่า และลื่นไหวกว่า 2 เท่า เหมาะสำหรับการสร้างคอนเทนต์หรือ Vlog คุณภาพสูง รวมถึงยังมีระบบ AI Stabilization ช่วยลดการสั่นไหวของภาพ ทำให้วิดีโอที่ถ่ายขณะเดินหรือเคลื่อนไหวยังคงเสถียร

realme 15 5G: กล้องคู่ที่ไม่ธรรมดา

รีวิว realme 15 Series 5G

realme 15 5G รุ่นมาตรฐาน แม้จะมีกล้องเพียง 2 ตัว แต่ก็ยังคงมาตรฐานสูงด้วยกล้องหลัก Sony IMX882 50MP พร้อมระบบ OIS ที่ช่วยป้องกันภาพสั่นไหว กล้องหน้า OV50D 50MP ให้คุณภาพเซลฟี่ที่คมชัดและสีสันสดใส

รองรับการถ่าย Dual 4K Video ที่สามารถบันทึกวิดีโอ 4K ทั้งจากกล้องหน้าและหลัง ให้ความยืดหยุ่นในการสร้างคอนเทนต์ และมีคุณภาพที่ชัดเจนเพียงพอสำหรับการแชร์บนโซเชียลมีเดีย และมีระบบ AI Anti-shake ช่วยลดการสั่นไหวของภาพ ทำให้วิดีโอดูเป็นมืออาชีพมากขึ้น แม้จะถ่ายด้วยมือเปล่า

แม้จะเป็นรุ่นเริ่มต้น แต่ realme 15 5G ยังคงมีฟีเจอร์ AI ที่สำคัญ เช่น AI MagicGlow 2.0, AI Landscape, AI Glare Remover และ AI Edit Genie ที่ให้ประสบการณ์การถ่ายภาพคล้ายกับรุ่น Pro

การถ่ายภาพของทั้ง 2 รุ่นตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการบันทึกช่วงเวลาสำคัญด้วยคุณภาพที่ดี โดยเฉพาะในสถานการณ์แสงน้อยที่เคยเป็นปัญหาของสมาร์ทโฟนในช่วงราคานี้

รีวิว realme 15 Series 5G

ด้านประสิทธิภาพ: ใช้งานลื่นไหลเกินคาด

realme 15 Series 5G ยังได้รับการอัปเกรดด้านประสิทธิภาพการใช้งาน ที่พร้อมสำหรับไลฟ์สไตล์ที่ต้องการใช้งานแอปพลิเคชันที่หลากหลาย การเล่นเกมระดับสูง มอบประสบการณ์ที่ไหลลื่นไม่มีสะดุด

realme 15 Pro 5G: Snapdragon 7 Gen 4 ที่ทำให้ทุกอย่างลื่นไหลขึ้น

realme 15 Pro 5G ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 7 Gen 4 ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี 4nm เป็นชิปเซ็ตรุ่นใหม่ล่าสุดที่ให้ประสิทธิภาพสูงแต่ประหยัดพลังงาน คะแนนเบนช์มาร์ก AnTuTu มากกว่า 1,100,000 คะแนน ทำให้การทำงานทุกอย่างตอบสนองเร็วขึ้นอย่างชัดเจน

ที่น่าประทับใจคือระบบ AI Multi-Tasker ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ realme เปิดตัวครั้งแรกในอุตสาหกรรม ระบบนี้ใช้การเรียนรู้ของ AI เพื่อคาดเดาแอปที่ผู้ใช้จะเปิดต่อไป และโหลดข้อมูลล่วงหน้า ผลลัพธ์คือการเปิดแอปเร็วขึ้นเฉลี่ย 3 วินาทีเต็ม เมื่อเทียบกับการใช้งานปกติ

ระบบระบายความร้อนที่ไม่ธรรมดา

การออกแบบระบบระบายความร้อนของ realme 15 Pro 5G ใช้เทคโนโลยี 7000mm² Airflow VC (Vapor Chamber) ที่มีพื้นที่ระบายความร้อนกว้างกว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปในช่วงราคาเดียว ช่วยลดอุณหภูมิ CPU ในขณะที่ใช้งานหนัก ทำงานร่วมกับ AI Thermal Management ที่ปรับการทำงานของชิปเซ็ตแบบอัตโนมัติ เมื่อตรวจจับการใช้งานที่ต้องการประสิทธิภาพสูง จะเพิ่มกำลังการประมวลผล แต่เมื่อใช้งานเบาๆ จะลดกำลังลงเพื่อประหยัดแบตเตอรี่และลดความร้อน

รีวิว realme 15 Series 5G

GT Boost 3.0: เทคโนโลยีเกมมิ่งระดับเรือธง

สำหรับคนที่ชอบเล่นเกม GT Boost 3.0 เป็นฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมขึ้นอีกระดับ ระบบนี้ทำงานใน 3 ส่วนหลัก:

  • GPU Enhancement – เพิ่มประสิทธิภาพกราฟิกให้เกมทำงานที่เฟรมเรตสูงและเสถียร รองรับเกมยอดนิยมอย่าง Mobile Legends, PUBG Mobile, Genshin Impact ในระดับกราฟิกสูงโดยไม่มีปัญหาดรอป
  • Touch Response Optimization – ลดเวลาตอบสนองของหน้าจอสัมผัสเหลือเพียง 180Hz ทำให้การควบคุมตัวละครในเกมแม่นยำและรวดเร็วขึ้น
  • Network Priority – จัดลำดับความสำคัญของการใช้อินเทอร์เน็ตให้กับเกม ลด Ping และปัญหาการสะดุดขณะเล่นเกมออนไลน์

AI Gaming Coach: ผู้ช่วยเล่นเกมส่วนตัว

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือ AI Gaming Coach ที่วิเคราะห์รูปแบบการเล่นเกมของผู้ใช้และให้คำแนะนำแบบเรียลไทม์ เช่น การแนะนำ Build ไอเทมใน MOBA การบอกจุดที่เหมาะสมในการซุ่มโจมตีใน Battle Royale หรือการแนะนำเวลาที่เหมาะสมในการใช้สกิลพิเศษ

ระบบนี้เรียนรู้จากการเล่นของผู้ใช้และเปรียบเทียบกับข้อมูลผู้เล่นระดับโปรในฐานข้อมูล จึงให้คำแนะนำที่ช่วยพัฒนาทักษะการเล่นได้จริง

ประสิทธิภาพการเล่นเกมที่เกินคาด

รีวิว realme 15 Series 5G

realme 15 Pro 5G สร้างความประทับใจในการเล่นเกมให้กับเรามากๆ โดยเฉพาะกับเกม RoV ที่รองรับการเล่นในเฟรมเรตที่สูงถึง 120fps มากกว่าสมาร์ตโฟนระดับเดียวกันถึง 2 เท่า ทำให้การเล่นมีความลื่นไหลขึ้นอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงเกมที่ต้องการเล่นบนเฟรมเรตสูงที่ 60fps ก็ทำได้ดี และเล่นต่อเนื่องเกินชั่วโมงก็ยังคงความเสถียรได้เป็นอย่างดี

realme 15 5G: Dimensity 7300+ ที่ทรงพลังพอเพียง

realme 15 5G มาพร้อมชิปเซ็ต Dimensity 7300+ 5G ของ MediaTek ที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี 4nm เช่นกัน แม้จะเป็นรุ่นประหยัดกว่า แต่ก็ให้ประสิทธิภาพที่น่าประทับใจด้วยคะแนน AnTuTu มากกว่า 740,000 คะแนน

ชิปเซ็ตนี้เหมาะสำหรับการใช้งานประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการดูวิดีโอ 4K การใช้แอปโซเชียลมีเดีย การถ่ายภาพแบบต่อเนื่อง หรือแม้แต่การเล่นเกมระดับกลางก็สามารถทำได้อย่างลื่นไหว

รีวิว realme 15 Series 5G

แม้จะไม่มีฟีเจอร์การเล่นเกมครบครันเหมือน Pro แต่ด้านประสิทธิภาพ realme 15 5G ก็สามารถเล่นเกมยอดนิยมได้ดี อย่าง RoV ก็สามารถเล่นได้ในกราฟิกระดับ High ด้วยเฟรมเรต 60fps แบบเสถียร ส่วน PUBG Mobile และ Genshin Impact เลือกปรับที่ระดับ Medium ก็ยังเล่นเกมโดยให้เฟรมเรตที่น่าพอใจ

GPU Mali-G615 MC2 ที่มาคู่กับชิปเซ็ตนี้รองรับ Vulkan API และ OpenCL 2.0 ทำให้เกมที่ใช้เทคโนโลยีกราฟิกขั้นสูงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การจัดการความร้อนแบบชาญฉลาด

realme 15 5G ใช้ระบบระบายความร้อนแบบ Multi-Layer Cooling ที่ประกอบด้วยแผ่นกราไฟต์และ Thermal Pad หลายชั้น แม้จะไม่ได้ใช้ Vapor Chamber เหมือนรุ่น Pro แต่ก็สามารถรักษาอุณหภูมิเครื่องไว้ในระดับที่เหมาะสมได้ดี

ระบบ Smart Performance Control จะปรับประสิทธิภาพของชิปเซ็ตตามการใช้งาน เมื่อเล่นเกมจะเพิ่มกำลังขึ้น แต่เมื่อใช้งานทั่วไปจะลดลงเพื่อประหยัดพลังงานและลดความร้อน

ความเร็วการประมวลผล AI ที่ไม่ธรรมดา

ทั้งสองรุ่นมาพร้อม NPU (Neural Processing Unit) ที่เฉพาะเจาะจงสำหรับการประมวลผล AI ทำให้ฟีเจอร์ต่างๆ เช่น AI Edit Genie, AI Party Mode, AI Multi-Tasker ทำงานได้รวดเร็วและแม่นยำ

การประมวลผล AI ภายในเครื่องยังช่วยให้ผู้ใช้ไม่ต้องพึ่งพาอินเทอร์เน็ตในการใช้ฟีเจอร์ AI ต่างๆ ทำให้ใช้งานได้แม้ในพื้นที่ที่สัญญาณไม่แรง

ประสิทธิภาพของ realme 15 Series 5G ทั้งสองรุ่นตอบโจทย์การใช้งานของคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเล่นเกม หรือการสร้างคอนเทนต์ โดยเฉพาะการประมวลผล AI ที่ทำให้การใช้งานสะดวกและชาญฉลาดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

แบตเตอรี่ 7000mAh ความจุอย่างเยอะในร่างที่บางเฉียบ

รีวิว realme 15 Series 5G

อีกจุดเด่นของ realme 15 Series 5G ที่เสริมด้านประสิทธิภาพให้โดดเด่นยิ่งกว่า กับแบตเตอรี่ที่มีความจุสูงกว่าคู่แข่ง แต่ยังคงดีไซน์ที่สวยบางไม่หนาเทอะทะ แถมยังมีระบบชาร์จไวมาให้แบบครบถ้วนอีกด้วย

realme 15 Series 5G ทั้งสองรุ่น มาพร้อมแบตเตอรี่ 7000mAh Titan Battery ที่ realme บอกว่านี่คือสมาร์ตโฟนแบตเตอรี่ขนาด 7000mAh ที่บางที่สุดในโลก ด้วยความหนาเพียง 8.8mm (ในรุ่นโปร) ซึ่งบางกว่าสมาร์ทโฟนหลายรุ่นที่มีแบตเตอรี่เพียง 5000mAh ด้วยซ้ำ

เทคโนโลยี Titan Battery ใช้วัสดุลิเธียมโพลิเมอร์ชนิดพิเศษที่มีความหนาแน่นของพลังงานสูงกว่าแบตเตอรี่ทั่วไป 30% ทำให้สามารถบรรจุพลังงานมากขึ้นในพื้นที่เดิม นอกจากนี้ยังมีระบบจัดการความร้อนแบบ Thermal Isolation ที่ป้องกันแบตเตอรี่ร้อนจากการชาร์จเร็วหรือการใช้งานหนัก

อายุการใช้งานที่ยาวนานเกินคาด

จากการทดสอบการใช้งานจริง สามารถใช้งานได้ในสถานการณ์ต่างๆ ถ้าเป็น การใช้งานทั่วไป – โทร, ส่งข้อความ, เช็คโซเชียลมีเดีย, ฟังเพลง สามารถใช้งานได้นาน 2.5-3 วัน โดยยังเหลือแบตเตอรี่ประมาณ 15-20% ดูวิดีโอออนไลน์ – ดู YouTube, Netflix, TikTok ต่อเนื่องได้นาน 18-20 ชั่วโมง ในระดับความสว่างปานกลางและเสียงระดับ 60% หรือจะเป็นการ เล่นเกม รวมถึง ถ่ายภาพและวิดีโอ ก็สามารถใช้ต่อเนื่องได้ตลอดทั้งวันโดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตหมด

80W Ultra Charge: ชาร์จเร็วแต่ปลอดภัย

รีวิว realme 15 Series 5G

ระบบ 80W Ultra Charge ของ realme 15 Pro 5G สามารถชาร์จแบตเตอรี่ 7000mAh ได้เร็วอย่างน่าประทับใจ โดยสามารถชาร์จ 0-25% ใน 10 นาที, 0-50% ใน 25 นาที, 0-80% ใน 45 นาที และ 0-100% ใน 75 นาที

รีวิว realme 15 Series 5G

ที่น่าสนใจคือระบบ Bypass Charging ที่เปิดใช้งานเมื่อเล่นเกมขณะชาร์จ ระบบนี้จะส่งไฟฟ้าตรงไปยังระบบโดยไม่ผ่านแบตเตอรี่ ช่วยลดความร้อนและอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ทำให้เล่นเกมได้นานขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องเครื่องร้อนหรือแบตเตอรี่เสื่อม

เทคโนโลยีความปลอดภัยระดับสูง

แบตเตอรี่ Titan Battery มาพร้อมระบบความปลอดภัย 13 ชั้น ที่ป้องกันปัญหาต่างๆ:

  • Temperature Control – ตรวจจับอุณหภูมิแบตเตอรี่และปรับกระแสชาร์จอัตโนมัติ หากอุณหภูมิสูงเกินไปจะลดกระแสลงเพื่อความปลอดภัย
  • Overvoltage Protection – ป้องกันแรงดันไฟฟ้าเกินขีดจำกัด พร้อมระบบตัดการชาร์จอัตโนมัติเมื่อแบตเตอรี่เต็ม
  • Smart Charge Algorithm – เรียนรู้รูปแบบการใช้งานของผู้ใช้และปรับการชาร์จให้เหมาะสม เช่น ถ้าผู้ใช้มักจะตื่นตอน 7 โมงเช้า ระบบจะชาร์จช้าๆ ในช่วงกลางคืนและเร่งความเร็วให้เต็ม 100% พอดีตอน 7 โมง

NFC 360° แตะสแกนได้ไม่ต้องเล็งให้แม่น

ฟีเจอร์พิเศษของ realme 15 Series 5G คือ NFC 360° ที่ช่วยให้การใช้งาน NFC สะดวกขึ้น ไม่ต้องหาตำแหน่งเซ็นเซอร์ NFC บนเครื่องให้แม่น เพียงแค่เอาเครื่องเข้าใกล้อุปกรณ์ที่รองรับ NFC ก็สามารถเชื่อมต่อได้ ฟีเจอร์นี้มีประโยชน์มากสำหรับการชำระเงินผ่าน QR Code, การแชร์ไฟล์กับเพื่อน, หรือการเชื่อมต่อกับลำโพง Bluetooth แบบรวดเร็ว

การจัดการพลังงานอัจฉริยะ

ทั้งสองรุ่นมาพร้อมระบบ AI Power Management ที่เรียนรู้รูปแบบการใช้งานของผู้ใช้และปรับการใช้พลังงานให้เหมาะสม โดยจะมี App Hibernation – หยุดการทำงานของแอปที่ไม่ได้ใช้เป็นเวลานานในเบื้องหลัง Screen Brightness Optimization – ปรับความสว่างหน้าจอตามแสงแวดล้อมและเนื้อหาที่กำลังดู Processor Throttling – ลดกำลังการประมวลผลเมื่อไม่จำเป็น

ระบบเหล่านี้ช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ได้อีก 15-20% เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้งานแบบปกติ

แบตเตอรี่ของ realme 15 Series 5G ตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ต้องการความสะดวกสบายในการใช้งานโดยไม่ต้องพกแบตสำรองหรือกังวลเรื่องแบตหมดกลางวัน ทั้งยังชาร์จเร็วพอที่จะเติมพลังงานให้เครื่องก่อนออกจากบ้านในตอนเช้า

ดีไซน์ที่สวยงามพรีเมียม

รีวิว realme 15 Series 5G

realme 15 Series 5G มาพร้อมการออกแบบที่สวยลุคพรีเมียม ทั้งการใช้วัสดุด ลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ และการจัดวางเรียงที่มีความลงตัว โดยทั้งสองรุ่นจะมีชุดโมดูลกล้องที่คล้ายกัน แต่รูปทรงนั้นจะไม่เหมือนกัน

realme 15 Pro 5G: หน้าจอโค้งถือจับเข้ามือดูหรูหรา

รีวิว realme 15 Series 5G

realme 15 Pro 5G โดดเด่นด้วยหน้าจอ 4D Curve+ Display ขนาด 6.7 นิ้ว ที่โค้งทั้ง 4 ด้านอย่างนุ่มนวล การโค้งของหน้าจอไม่ได้เป็นเพียงการออกแบบเพื่อความสวยงาม แต่ยังช่วยให้การใช้งานสะดวกขึ้น โดยเฉพาะการปัดขอบหน้าจอเพื่อเข้าถึงเมนูต่างๆ หรือการถือเครื่องให้รู้สึกกระชับในมือ

รีวิว realme 15 Series 5G

หน้าจอ AMOLED 144Hz ให้ความคมชัดระดับ 2.5K (2772 x 1240 พิกเซล) และความสว่างสูงสุดถึง 6500 nit ทำให้มองเห็นหน้าจอได้ชัดเจนแม้กระทั่งใต้แสงแดดจ้า เทคโนโลยี LTPO ช่วยปรับอัตราการรีเฟรชได้ตั้งแต่ 1Hz ถึง 144Hz ตามเนื้อหาที่แสดงผล ประหยัดแบตเตอรี่ได้มากขึ้น

ด้านหลังของ realme 15 Pro 5G ใช้วัสดุ Premium Glass ที่ผ่านการเคลือบพิเศษ 9 ชั้น ให้ความรู้สึกเรียบเนียนและไม่เป็นรอยนิ้วมือ มาใน 2 สีหลัก

  • Flowing Silver – สีเงินที่มีลายผิวคล้ายน้ำไหล เมื่อหมุนเครื่องในมุมต่างๆ จะเห็นแสงสะท้อนเป็นคลื่นที่เคลื่อนไหว สร้างความพิเศษให้กับดีไซน์
  • Velvet Green – สีเขียวมรกตที่มีผิวสัมผัสคล้ายกำมะหยี่ ให้ความรู้สึกอบอุ่นและหรูหรา เหมาะกับผู้ที่ชอบความแตกต่างจากสีทั่วไป

กรอบเครื่องทำจาก Aluminum 6061 เกรดการบินที่ผ่านการ CNC Machining ให้ความแข็งแรงและเบาพร้อมกัน น้ำหนักเพียง 189 กรัม แม้จะมีแบตเตอรี่ 7000mAh ทำให้ถือใช้งานได้นานโดยไม่เมื่อยมือ

realme 15 Pro 5G ได้รับการรับรอง IP69 ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดในอุตสาหกรรมสมาร์ทโฟน สามารถป้องกัน น้ำแรงดันสูง – ทนน้ำพุ่งแรงดันสูงได้ เหมาะกับการใช้งานกลางแจ้งหรือล้างทำความสะอาดเครื่อง ฝุ่นละออง – ป้องกันฝุ่นได้เหมาะกับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นมาก อุณหภูมิสูง – ทนความร้อนจากไอน้ำได้ถึง 80°C

การป้องกันในระดับนี้ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้เครื่องได้อย่างมั่นใจในทุกสถานการณ์ หรือใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นหรือความชื้นสูง

หน้าจอป้องกันด้วย Corning Gorilla Glass Victus 2 ที่แข็งแรงกว่ารุ่นก่อนหน้า 4 เท่า สามารถทนการตกจากความสูง 2 เมตรได้โดยไม่แตก และยังทนต่อรอยขีดข่วนจากวัตถุแข็งต่างๆ ได้ดีกว่า และผิวกระจกยังมีการเคลือบ Oleophobic Coating ที่ช่วยลดรอยนิ้วมือและทำความสะอาดง่ายขึ้น

realme 15 5G: ดีไซน์มินิมอลที่ใช้งานง่าย

รีวิว realme 15 Series 5G

realme 15 5G เลือกใช้หน้าจอ 144Hz AMOLED แบบเรียบขนาด 6.67 นิ้ว โดยไม่มีการโค้ง เพื่อให้การใช้งานเป็นธรรมชาติมากขึ้น เหมาะกับผู้ที่ไม่ชอบการสัมผัสผิดพลาดบนขอบหน้าจอโค้ง

รีวิว realme 15 Series 5G

หน้าจอมีความละเอียด 2400 x 1080 พิกเซล และความสว่างสูงสุด 2000 nit ซึ่งแม้จะน้อยกว่ารุ่น Pro แต่ก็ยังคมชัดและสว่างเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป

realme 15 5G มาใน 2 สีที่เน้นความเรียบง่าย

  • Suit Titanium – สีไทเทเนียมที่ให้ความรู้สึกเป็นมืออาชีพ เหมาะกับการใช้งานทำงานหรือการใช้งานทั่วไป ผิวสัมผัสเรียบเนียนไม่เป็นรอยนิ้วมือ
  • Silk Pink – สีชมพูนวลที่มีเงาเหมือนผ้าไหม ให้ความรู้สึกนุ่มนวลและเป็นมิตร เหมาะกับผู้ที่ชอบสีสันอ่อนๆ แต่ยังดูโดดเด่น

ด้านหลังใช้วัสดุ Premium Polycarbonate ที่ผ่านการปรับปรุงให้มีผิวสัมผัสคล้ายกระจก แต่เบาและแข็งแรงกว่า น้ำหนักเพียง 185 กรัม เบากว่ารุ่น Pro เล็กน้อย

และแม้จะเป็นรุ่นเริ่มต้น แต่ realme 15 5G ยังคงได้รับการรับรอง IP69 เหมือนกับรุ่น Pro ให้ความมั่นใจในการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย

Breathing Light ลูกเล่นไฟด้านหลัง

ทั้งสองรุ่นมาพร้อมฟีเจอร์ Breathing Light ที่เป็นแสง LED รอบกล้องหลังที่จะสว่างขึ้นเมื่อมีการแจ้งเตือนต่างๆ เช่น การแจ้งเตือนโทรเข้า – แสงกะพริบเป็นจังหวะให้รู้ว่ามีสายเข้า แม้เครื่องจะหงายหรือเสียงเปิดไม่ได้ การแจ้งเตือนข้อความ – แสงค่อยๆ สว่างขึ้นแล้วมืดลงเหมือนการหายใจ โหมดถ่ายภาพ – แสงช่วยบ่งบอกสถานะการทำงานของกล้อง ผู้ใช้สามารถปรับแต่งสีและรูปแบบการกะพริบได้ตามใจชอบ ทำให้เครื่องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว

ระบบเสียง Dual Stereo Speakers

ทั้งสองรุ่นมาพร้อมระบบ Dual Stereo Speakers ที่จูนโดย Dolby Atmos ให้เสียงที่มีมิติและชัดเจน ลำโพงด้านบนอยู่ในช่องหูฟัง ส่วนลำโพงด้านล่างอยู่ด้านขวาของพอร์ตชาร์จ การจัดวางลำโพงแบบนี้ทำให้เสียงกระจายได้ดี ไม่ว่าจะถือเครื่องในแนวตั้งหรือแนวนอน ระบบ 3D Surround Sound ช่วยสร้างประสบการณ์การฟังที่เหมือนมีลำโพงล้อมรอบ

การออกแบบของ realme 15 Series 5G สะท้อนความเข้าใจในไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้รุ่นใหม่ที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่ดูดี ใช้งานสะดวก และทนทานพอที่จะใช้ได้ในทุกสถานการณ์ โดยไม่ต้องประนีประนอมในเรื่องคุณภาพ

สรุป รีวิว realme 15 Series 5G เลือกรุ่นไหนดี?

หลังจากที่เราได้ทดสอบลองใช้งาน realme 15 Series 5G ทั้งสองรุ่น สิ่งที่ประทับใจที่สุดคือ realme สามารถสร้างสมาร์ทโฟนที่ตอบโจทย์ผู้ใช้รุ่นใหม่ได้อย่างครบครัน โดยไม่ต้องแลกกับราคาที่แพงเกินไป

แนวคิด AI Party Phone ไม่ได้เป็นเพียงกลยุทธ์การตลาด แต่สะท้อนการเข้าใจไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเก็บภาพความทรงจำและแชร์ช่วงเวลาดีๆ กับเพื่อนฝูงอย่างแท้จริง ฟีเจอร์ AI Party Mode, AI Edit Genie, และ 2K Live Photo ทำให้การถ่ายภาพและแต่งรูปกลายเป็นเรื่องง่ายและสนุกขึ้น

แบตเตอรี่ 7000mAh Titan Battery เป็นจุดขายที่แข็งแกร่งที่สุด การที่สามารถใช้งานได้ 2-3 วันโดยไม่ต้องชาร์จ ช่วยลดความกังวลเรื่องแบตหมดที่หลายคนเคยประสบ พร้อมระบบชาร์จเร็ว 80W Ultra Charge ที่ชาร์จเพียง 25-30 นาทีก็ได้ครึ่งหนึ่งแล้ว

realme 15 Pro 5G: สำหรับคนที่ต้องการครบเครื่อง

รุ่นโปรที่จัดเต็มให้ทั้งเรื่องของสเปก ดีไซน์ และกล้องมาให้อย่างครบครัน เหมาะสำหรับสายถ่ายภาพและทำคอนเทนต์ ด้วยระบบกล้อง 50MP ทั้ง 3 เลนส์ และยังมี AI Party Mode ถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ชัดสวยงาม รวมถึงยังมี  AI Edit Genie ช่วยแต่งภาพด้วยเสียงพูด ทำให้การสร้างคอนเทนต์เป็นเรื่องง่าย การบันทึกวิดีโอ 4K 60FPS ทั้งกล้องหน้าและหลังเหมาะสำหรับ Vlogger หรือคนที่ชอบสร้างคอนเทนต์วิดีโอ

และยังเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับสายเล่นเกม ด้วยประสิทธิภาพของเครื่องที่เล่นเกมเฟรมเรตสูงได้อย่างลื่นไหล เสถียร ปรับแต่งให้เหมาะกับการเล่นเกมได้อย่างเต็มที่ และยังมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ชาร์จไว และระบบการระบายความร้อนที่ดี

realme 15 5G: สำหรับคนที่ต้องการคุ้มค่าที่สุด

สำหรับรุ่นเริ่มต้น ที่ราคาเข้าถึงได้ง่ายกว่า แต่ก็ยังให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดี แม้ว่าสเปคด้านประสิทธิภาพอาจจะรองลงมาอย่างชิปเซ็ตที่เป็น Dimensity 7300+ 5G แต่ก็ยังใช้งานรวมถึงเล่นเกมได้อย่างไม่มีปัญหา หน้าจอที่เป็นแบบราบ เหมาะสำหรับคนที่อาจจะไม่ถนัดกับแบบโค้งในรุ่นโปร ส่วนกล้องนั้นมีปรับลดลงมาบ้างแต่ยังให้การถือใช้ถ่ายภาพต่างๆ รวมถึงฟีเจอร์ AI ก็ใส่มาให้แบบไม่มีกั๊กด้วยเช่นกัน

ฟีเจอร์เด่นนอกจากนั้นให้มารแทบไม่ต่างกับรุ่นโปร ตั้งแต่แบตเตอรี่ 7,000mAh และ 80W Ultra Charge ถือว่าเหมาะเป็นตัวเลือกสำหรับคนที่ต้องการสมาร์ตโฟนระดับราคาหมื่นต้นๆ ได้จอที่สวยคมชัดลื่นไหล แบตอึดใช้ได้ทั้งวันแบบหายห่วง

สรุป รีวิว realme 15 Series 5G ถือว่าเป็นอีกตัวเลือกสมาร์ตโฟนที่คุ้มค่า ในราคาหมื่นกว่าบาท ที่ยกระดับการใช้งานครบรอบด้าน ทั้งการออกแบบที่สวยงามและทนทาน ประสิทธิภาพที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทุกรูปแบบ แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่สุดในตัวเครื่องที่บางที่สุดในตลาด รวมถึงกล้องและฟีเจอร์ AI ที่ให้การถ่ายภาพสนุกยิ่งขึ้น

realme 15 Series 5G ไม่ได้เป็นเพียงสมาร์ทโฟนที่มีสเปคดี แต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คนรุ่นใหม่ “ใช้ชีวิตให้เรียลทุกช็อต” ได้อย่างแท้จริง

ราคา รีวิว realme 15 Series 5G

realme 15 Pro 5G เริ่มต้นที่ 14,999 บาท สำหรับรุ่น 12/256GB และ 16,999 บาท สำหรับรุ่น 12/512GB มีให้เลือก 2 สีคือ Flowing Silver และ Velvet Green

realme 15 Pro 5G ราคา 12,999 บาท สำหรับรุ่น 12/256GB เลือกได้ 2 สี Suit Titanium และ Silk Pink

ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok

Online Content Manager with over 10 years of experience working in the news, technology, and telecom industries.