MediaTek ประกาศเปิดตัวชิปเซ็ตเรือธงรุ่นใหม่ Dimensity 9500 ที่มาพร้อมสถาปัตยกรรม All Big Core เจเนอเรชันที่ 3 และความสามารถด้าน AI ที่ปรับปรุงมาใหม่
ชิปเซ็ตรุ่นใหม่นี้ใช้ Ultra Core ความเร็ว 4.21GHz ร่วมกับ Premium core 3 คอร์ และ Performance core 4 คอร์ ผลลัพธ์คือประสิทธิภาพ single-core เพิ่มขึ้น 29% และ multi-core เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ในขณะที่ Ultra Core ลดการใช้พลังงานลงถึง 55%
Dimensity 9500 เป็นชิปเซ็ตรุ่นแรกในอุตสาหกรรมที่รองรับ UFS 4.1 แบบ 4-channel ทำให้ความเร็วในการอ่าน/เขียนเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า และเร่งการโหลดโมเดล AI ขนาดใหญ่เร็วขึ้น 40% Dimensity scheduler เจเนอเรชันที่ 2 ช่วยจัดการประสิทธิภาพให้คงที่แม้ในการใช้งานหนัก
ด้านเกราฟิก GPU Arm G1-Ultra ให้ประสิทธิภาพสูงขึ้น 33% และประหยัดพลังงาน 42% พร้อมเทคโนโลยี Double Frame Rate Interpolation ที่ 120FPS การรองรับ MegaLights ใน Unreal Engine 5.6 และ Nanite ใน Unreal Engine 5.5 ช่วยให้เกมมือถือสามารถเรนเดอร์ภาพระดับ AAA ได้
ความสามารถด้าน AI มาจาก MediaTek NPU 990 เจเนอเรชันที่ 9 ที่ผสานกับ Generative AI Engine 2.0 สามารถประมวลผลโมเดล BitNet 1-bit ลดการใช้พลังงานลง 25% NPU รองรับโมเดลขนาดเล็กที่ทำงานตลอดเวลา ลดพลังงานได้มากกว่า 40%
ชิปเซ็ตรุ่นนี้สามารถประมวลผล LLM ขนาด 3 พันล้านพารามิเตอร์เร็วขึ้น 100% รองรับการประมวลผลข้อความยาว 128K token และสร้างภาพความละเอียด 4K เป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรม
MediaTek Imagiq 1190 รองรับการประมวลผล RAW-domain การถ่ายภาพ 200MP และวิดีโอ portrait 4K 60FPS ระดับภาพยนตร์ ระบบการโฟกัสทำงานร่วมกับ NPU เพื่อความแม่นยำสูงขึ้น
การเชื่อมต่อได้รับการปรับปรุงด้วย AI ลดการใช้พลังงาน 5G ลง 10% และ Wi-Fi ลง 20% เทคโนโลยี 5CC Carrier Aggregation เพิ่มแบนด์วิดท์ 15% ส่วน AI positioning ให้ความแม่นยำสูงขึ้น 20% และลดความหน่วงเครือข่ายลง 50%
สมาร์ตโฟนที่ใช้ MediaTek Dimensity 9500 คาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายในไตรมาสที่ 4 ของปี 2568

ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
