ลาซาด้า ประกาศยุทธศาสตร์ “Next-Level eCommerce” มุ่งสู่การเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซพรีเมียม เน้นคุณภาพมากกว่าการแข่งด้านราคา สะท้อนผ่านการเติบโตของ LazMall กว่า 22% ตั้งแต่ต้นปี 2568
ท่ามกลางเทรนด์ผู้บริโภคไทยที่ครองแชมป์จับจ่ายออนไลน์โลกถึง 68.2% และธุรกิจอีคอมเมิร์ซไทยเติบโต 21.7% ในปี 2567 วาริสฐา เกียรติภิญโญชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ลาซาด้า ประเทศไทย เผยถึงการปรับกลยุทธ์สำคัญในการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรม
“ผู้บริโภคยุคใหม่ไม่ได้มองแค่ราคาถูก แต่ให้ความสำคัญกับคุณภาพสินค้าและประสบการณ์ที่ไว้วางใจได้มากขึ้น” วาริสฐา กล่าว ชี้ให้เห็นจากการเติบโตของยอดคำสั่งซื้อบน LazMall แหล่งรวมสินค้าแบรนด์ชั้นนำที่เพิ่มขึ้นกว่า 22% ตั้งแต่ต้นปี
ลาซาด้าวางแผนขับเคลื่อนการเติบโตด้วย 3 โฟกัสหลัก ประกอบด้วยการคัดสรรสินค้าคุณภาพครบทุกหมวดหมู่ ผ่าน LazMall และ LazMall Luxury ที่รวบรวมสินค้าแบรนด์แท้ 100% จากกว่า 32,000 แบรนด์ทั่วภูมิภาค พร้อมขยายไปสู่โมเดลค้าส่งสำหรับลูกค้าธุรกิจ (B2B) ด้วยสินค้ากว่า 15,000 รายการ
ด้านประสบการณ์การช้อป แพลตฟอร์มเสริมความมั่นใจด้วย “4 การันตี” จาก LazMall และบริการ Priority Delivery 24 Hours ที่สั่งซื้อภายในเที่ยงได้รับสินค้าวันถัดไป นอกจากนี้ยังลงทุนพัฒนาเทคโนโลยี AI ครบวงจร ผ่านฟีเจอร์ Lazzie แชตบอตอัจฉริยะผู้ช่วยแนะนำสินค้า
สำหรับแคมเปญ ลาซาด้าเผยอินไซต์ว่ากว่า 50% ของยอดขายมาจากแคมเปญต่างๆ โดยเพิ่มงบคูปองส่วนลดมากกว่าเดิมถึง 45% ส่งผลให้ยอดขายในช่วงเมกะแคมเปญเติบโต 300% เมื่อเทียบกับวันปกติ
ความสำเร็จของกลยุทธ์นี้สะท้อนผ่านการคว้าตำแหน่งแบรนด์อันดับ 1 ในไทย จากผลสำรวจ Thailand’s Top 50 Brands 2025 โดย Campaign Asia พร้อมเตรียมความพร้อมสำหรับตลาดอีคอมเมิร์ซไทยที่คาดการณ์จะเติบโตแตะ 2 ล้านล้านบาทภายในปี 2573
เพื่อต่อยอดความสำเร็จ ลาซาด้าเตรียมเปิดตัวเมกะแคมเปญ “9.9 ลดอลัง ปังทุกแบรนด์” ระหว่าง 8-11 กันยายน 2568 มอบส่วนลดสูงสุด 10,000 บาท LazFlash ลดสูงสุด 90% และกิจกรรมพิเศษจาก Lazzie AI ที่ให้ผู้ใช้พิมพ์ “HEYLAZZIE” เพื่อรับ LazRewards ได้ทุกวัน
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้สะท้อนการปรับตัวของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในการตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป จากการมองหาความถูกไปสู่การเลือกซื้อด้วยคุณค่าและประสบการณ์ที่คุ้มค่าอย่างแท้จริง
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
