Apple ได้ประกาศเปิดตัว iPhone 17 Pro และ iPhone 17 Pro Max อย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมดีไซน์ใหม่หมดและประสิทธิภาพที่แรงที่สุดในประวัติศาสตร์ iPhone โดย iPhone 17 Pro ราคา เริ่มต้นที่ 43,900 บาท สำหรับความจุ 256GB
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือชิป A19 Pro ตัวใหม่ที่มาพร้อมระบบระบายความร้อน Vapor Chamber ที่ออกแบบโดย Apple เองเป็นครั้งแรก ทำให้ประสิทธิภาพดีขึ้นถึง 40% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า
ชิป A19 Pro พลิกโฉมประสิทธิภาพสมาร์ทโฟน

A19 Pro คือชิปที่แรงที่สุดที่ Apple เคยสร้างมาสำหรับ iPhone โดยมี CPU 6 คอร์ที่เร็วที่สุดในวงการสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน ส่วน GPU 6 คอร์นั้นมาพร้อม Neural Accelerators ที่ฝังอยู่ในแต่ละคอร์ Cache ที่ใหญ่ขึ้น และหน่วยความจำที่มากกว่า A18 Pro
การทำงานร่วมกับระบบระบายความร้อน Vapor Chamber ที่ใช้น้ำปราศจากไอออนผนึกอยู่ภายใน ทำให้ความร้อนจากชิปถูกกระจายไปทั่วโครงสร้าง Unibody อลูมิเนียม ส่งผลให้ iPhone 17 Pro และ Pro Max สามารถรักษาประสิทธิภาพสูงสุดได้ยาวนานขึ้น
ชิป N1 ตัวใหม่ที่ออกแบบโดย Apple เองยังรองรับ Wi-Fi 7, Bluetooth 6, และ Thread พร้อมปรับปรุงประสิทธิภาพของฟีเจอร์ Personal Hotspot และ AirDrop ให้ทำงานได้ดีขึ้น
ระบบกล้องครบครันที่สุดใน iPhone

iPhone 17 Pro และ Pro Max มาพร้อมระบบกล้องที่ปรับปรุงใหม่หมดทั้ง 4 ตัว โดยกล้องหลักทั้ง 3 ตัวมีความละเอียด 48MP ทั้งหมด ประกอบด้วยกล้อง Main, Ultra Wide และกล้อง Telephoto ใหม่
กล้อง Telephoto ใหม่นี้มาพร้อมการออกแบบ tetraprism รุ่นใหม่ที่มีเซ็นเซอร์ใหญ่ขึ้น 56% จากรุ่นก่อน ให้ความคมชัดในแสงสว่างและรายละเอียดในแสงน้อยที่ดีขึ้น โดยรองรับซูมออปติคอล 4 เท่าที่ 100mm และซูมออปติคอล 8 เท่าที่ 200mm ซึ่งเป็นระยะที่ยาวที่สุดใน iPhone
กล้องหน้า Center Stage ใหม่มีเซ็นเซอร์รูปสี่เหลี่ยมเป็นครั้งแรกใน iPhone ให้ความละเอียดสูงสุด 18MP และมุมมองที่กว้างขึ้น สามารถถ่ายภาพและวิดีโอได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอนขณะถือเครื่องแนวตั้ง
สำหรับการถ่ายภาพกลุ่ม Center Stage จะใช้ AI ขยายมุมมองโดยอัตโนมัติและหมุนจากแนวตั้งเป็นแนวนอนเพื่อให้ทุกคนอยู่ในเฟรม ยังรองรับการบันทึกวิดีโอ 4K HDR ที่เสถียรสูง และสามารถบันทึกกล้องหน้า-หลังพร้อมกันด้วยฟีเจอร์ Dual Capture
ฟีเจอร์วิดีโอระดับมืออาชีพ
iPhone 17 Pro และ Pro Max เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่รองรับ ProRes RAW, Log 2, และ genlock ซึ่งเป็นเทคนิคที่ใช้ในการซิงโครไนซ์วิดีโอข้ามกล้องหลายตัวและอินพุตต่าง ๆ อย่างแม่นยำ
ฟีเจอร์ genlock ได้รับการสนับสนุนจาก Blackmagic Design Camera ProDock ใหม่ ส่วน ProRes RAW ทำงานร่วมกับ Final Cut Camera และ Blackmagic Camera พร้อม API สำหรับนักพัฒนา
การรองรับ Dolby Vision HDR, 4K120 fps, ProRes Log และ ACES ทำให้ iPhone 17 Pro ครองตำแหน่งผู้นำด้านการถ่ายวิดีโอบนสมาร์ทโฟนอย่างแท้จริง
ดีไซน์ใหม่เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
โครงสร้าง Unibody อลูมิเนียมใหม่ทำจากอลูมิเนียมเกรดการบิน 7000 series ที่มีน้ำหนักเบาแต่แข็งแรง ส่วนด้านหลังมี plateau ที่สร้างพื้นที่เพิ่มเติมสำหรับส่วนประกอบภายใน รวมถึงแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น
เสาอากาศถูกรวมเข้ากับขอบรอบ ๆ เครื่องเพื่อให้ได้ระบบเสาอากาศที่มีประสิทธิภาพสูงสุดใน iPhone การออกแบบใหม่นี้ช่วยให้ iPhone 17 Pro Max มีอายุแบตเตอรี่ที่ดีที่สุดใน iPhone และสามารถชาร์จได้ 50% ใน 20 นาทีด้วยอแด็ปเตอร์ USB-C กำลังสูง เช่น Apple 40W Dynamic Power Adapter ใหม่
หน้าจอที่ทนทานและสวยงาม
iPhone 17 Pro มีหน้าจอ 6.3 นิ้ว ส่วน Pro Max มีหน้าจอ 6.9 นิ้ว ทั้งคู่ใช้ Ceramic Shield 2 ที่แข็งแกร่งกว่ากระจกหรือเซรามิกกระจกในสมาร์ทโฟนทุกรุ่น พร้อมสารเคลือบใหม่ที่ออกแบบโดย Apple เพื่อต้านทานรอยขีดข่วนได้ดีขึ้น 3 เท่า
หน้าจอ Super Retina XDR รองรับ ProMotion สูงสุด 120Hz, Always-On และความสว่างสูงสุด 3,000 nits ซึ่งเป็นค่าสูงสุดใน iPhone พร้อมคอนทราสต์กลางแจ้งที่ดีขึ้น 2 เท่า พร้อมกันนี้ยังเป็นครั้งแรกที่ใช้ Ceramic Shield ปกป้องด้านหลังของเครื่องด้วย ให้ความต้านทานการแตกร้าวดีขึ้น 4 เท่าเมื่อเทียบกับกระจกด้านหลังของรุ่นก่อน
iOS 26 และ Apple Intelligence
iOS 26 นำเสนอดีไซน์ Liquid Glass ใหม่ที่ทำให้แอปและประสบการณ์ระบบดูสวยงามและน่าใช้มากขึ้น Apple Intelligence รองรับการแปลข้อความและเสียงแบบเรียลไทม์ด้วย Live Translation ใน Messages, FaceTime และ Phone
การอัปเดต Visual Intelligence ให้ผู้ใช้สามารถจับภาพหน้าจอและค้นหาหรือดำเนินการกับสิ่งที่กำลังดูอยู่บนหน้าจอ iPhone ได้ง่าย ๆ รวมถึงเครื่องมือคัดกรองใหม่สำหรับสายและข้อความ
iOS 26 ยังมาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ใน CarPlay, Apple Music, Maps และ Wallet รวมถึงแอป Apple Games ใหม่ที่รวบรวมเกมทั้งหมดไว้ในที่เดียว

eSIM และการเชื่อมต่อที่ยืดหยุ่น
รุ่น eSIM ของ iPhone 17 Pro และ Pro Max จะวางจำหน่ายในหลายประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกา แคนาดา ญี่ปุ่น และประเทศในตะวันออกกลาง โดยรุ่นเหล่านี้จะมีแบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้นเนื่องจากไม่มีช่องใส่ SIM การ์ด ให้เวลาเล่นวิดีโอเพิ่มขึ้น 2 ชั่วโมง รวมเป็น 39 ชั่วโมง
eSIM นั้นช่วยทำให้การเชื่อมต่อระหว่างการเดินทางสะดวกยิ่งขึ้น ด้วยแผนโรมมิ่งสากลที่ราคาไม่แพงจากผู้ให้บริการเครือข่ายหลัก หรือตัวเลือกเติมเงินท้องถิ่นจากผู้ให้บริกการมากกว่า 200 ราย
iPhone 17 Pro ราคา และวันจำหน่าย

สำหรับ iPhone 17 Pro ราคาในประเทศไทยเป็นดังนี้:
iPhone 17 Pro
- 256GB: 43,900 บาท
- 512GB: 51,900 บาท
- 1TB: 59,900 บาท
iPhone 17 Pro Max
- 256GB: 48,900 บาท
- 512GB: 56,900 บาท
- 1TB: 64,900 บาท
- 2TB: 80,900 บาท (ครั้งแรกใน iPhone)
ทั้งสองรุ่นมีให้เลือก 3 สี ได้แก่ Cosmic Orange, Deep Blue และ Silver เปิดรับพรีออร์เดอร์ 12 กันยายน 2568 และวางจำหน่าย 19 กันยายน 2568
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
