GoPro ยืนยันแล้วว่าจะเปิดตัวกล้องแอคชันรุ่นใหม่ 2 รุ่นพร้อมกันในวันที่ 23 กันยายน 2025 เวลา 2 ทุ่ม (ตามเวลาประเทศไทย) ประกอบด้วย Lit HERO กล้อง 4K รุ่นประหยัดพร้อมไฟ LED และ MAX 2 กล้อง 360 องศารุ่นเรือธงที่รองรับวิดีโอ 8K
สิ่งที่น่าสังเกตในการเปิดตัวครั้งนี้คือ GoPro ไม่ได้ประกาศรุ่นเรือธงอย่าง HERO 14 Black ตามที่คาดการณ์กัน หลังจากที่ HERO 13 Black เปิดตัวมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2024 ซึ่งผ่านมาแล้วเกือบ 1 ปีเต็ม
การเลื่อนการเปิดตัว HERO 14 Black อาจสื่อถึงการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ของ GoPro ที่ต้องการขยายฐานผู้ใช้ในกลุ่มตลาดใหม่แทนการแข่งขันในระดับไฮเอนด์เพียงอย่างเดียว
การเปิดตัวครั้งนี้มาพร้อมกับการแข่งขันที่น่าสนใจ เนื่องจาก DJI กำหนดเปิดตัว Osmo Nano ในวันเดียวกัน แต่เร็วกว่า 1 ชั่วโมงในตอน 1 ทุ่ม ซึ่งถือเป็นการแข่งขันโดยตรงในตลาดกล้องแอคชันขนาดเล็ก
ข้อมูลรั่วไหลจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ GoPro เผยให้เห็นรูปลักษณ์และชื่อของกล้องทั้ง 2 รุ่น ซึ่งปรากฏในสกรีนช็อตที่อัปโหลดโดยไม่ตั้งใจ
GoPro Lit HERO คือกล้องแอคชัน 4K รุ่นประหยัดที่มาพร้อมไฟ LED ด้านหน้าเพื่อช่วยในการถ่ายภาพในสภาพแสงน้อย รองรับการบันทึกวิดีโอ 4K ที่ 30fps, 2.7K ที่ 60fps และ 1080p ที่ 120fps สำหรับการถ่ายสโลว์โมชัน
กล้องรุ่นนี้มาพร้อมเซนเซอร์ใหม่ที่ปรับปรุงประสิทธิภาพในสภาพแสงน้อย ระบบกันสั่น HyperSmooth เบื้องต้น และความสามารถในการถ่ายภาพนิ่ง 12MP พร้อมโหมด Burst
ด้านการออกแบบ Lit HERO มีความทนทานกันน้ำลึกได้ถึง 10 เมตรโดยไม่ต้องใช้เคสเพิ่มเติม แบตเตอรี่ใช้งานได้ต่อเนื่องสูงสุด 2 ชั่วโมง พร้อมการเชื่อมต่อ Wi-Fi และ Bluetooth สำหรับการแชร์ผ่านแอป Quik
คาดการณ์ราคา Lit HERO อยู่ในช่วง $199-299 เพื่อแข่งขันกับกล้องขนาดเล็กอย่าง Insta360 GO Ultra และ DJI Osmo Nano ที่กำลังจะเปิดตัว
GoPro MAX 2 เป็นกล้อง 360 องศารุ่นใหม่ที่สามารถบันทึกวิดีโอ 8K 360 องศาที่ 30fps และ 5.7K ที่ 60fps รวมถึงโหมดเลนส์เดี่ยวที่รองรับสูงสุด 4K
จุดเด่นของ MAX 2 คือเลนส์แก้วที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ ทำให้ง่ายต่อการซ่อมแซมและปรับแต่ง พร้อมโครงสร้างที่แข็งแรงกันน้ำลึกถึง 5 เมตร
กล้องมาพร้อมชิปประมวลผล GP รุ่นใหม่ที่เร็วขึ้น เครื่องมือ AI สำหรับการติดตามวัตถุอัตโนมัติ และระบบกันสั่น FlowState ขั้นสูงพร้อม Horizon Lock
การออกแบบของ MAX 2 ได้รับการปรับปรุงด้วยระบบระบายความร้อนที่ดีขึ้น รวมถึงการเพิ่มชั้น Heat Sink เพื่อรองรับการบันทึกความละเอียดสูงเป็นเวลานาน
แบตเตอรี่ความจุ 1,800mAh ให้เวลาใช้งานที่ยาวนานขึ้น พร้อมไมโครโฟน 4 ตัวสำหรับการบันทึกเสียง Spatial Audio และการเชื่อมต่อ Bluetooth, Wi-Fi และ GPS
คาดการณ์ราคา MAX 2 อยู่ในช่วง $400-500 ซึ่งต่ำกว่าคู่แข่งอย่าง Insta360 X5 ที่ราคา $549 โดยคาดว่าจะวางจำหน่ายได้ทันทีหลังการเปิดตัว
ข้อมูลจาก : The New Camera
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
