GARMIN เขย่าวงการเทคโนโลยีอุปกรณ์สวมใส่อีกครั้ง ด้วยการเปิดตัวสมาร์ตวอทช์รุ่นเรือธงใหม่ล่าสุด fēnix 8 series ที่มาพร้อมนวัตกรรมสุดล้ำ 3 รุ่น ได้แก่ fēnix 8 Pro, fēnix 8 Pro – MicroLED และ fēnix 8 – MicroLED
นี่ไม่ใช่แค่การอัปเกรดธรรมดา แต่เป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ที่จะเปลี่ยนแปลงวิธีคิดของเราเกี่ยวกับสมาร์ตวอทช์ระดับพรีเมียม โดยเฉพาะการนำเสนอสมาร์ตวอทช์หน้าจอ MicroLED เป็นครั้งแรกของโลก และการผสานเทคโนโลยี inReach เข้ากับสมาร์ตวอทช์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของแบรนด์
หน้าจอ MicroLED ที่สว่างและคมชัดที่สุดเท่าที่เคยมีมา
การพัฒนาหน้าจอ MicroLED ใน fēnix 8 – MicroLED และ fēnix 8 Pro – MicroLED ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของอุตสาหกรรมสมาร์ตวอทช์ GARMIN ได้สำเร็จในการบูรณาการ LED กว่า 400,000 ดวง เข้าในหน้าจอขนาดเล็ก ให้ความสว่างสูงถึง 4,500 nits ซึ่งถือเป็นระดับความสว่างที่สูงที่สุดที่เคยมีมาในวงการสมาร์ตวอทช์
สิ่งที่น่าประทับใจมากกว่าความสว่างคือคุณภาพของภาพที่ได้ หน้าจอ MicroLED ให้ขอบเขตสีที่กว้างขึ้นถึง 15% ทำให้สีสันดูสดใสและแม่นยำยิ่งขึ้น ความเปรียบต่างที่เหนือกว่าถึง 6 เท่า ช่วยให้มองเห็นรายละเอียดได้ชัดเจนแม้ในสภาพแสงที่ไม่เอื้ออำนวย
มุมมองภาพกว้างพิเศษ (Ultra-wide Viewing Angle) ทำให้สามารถอ่านข้อมูลได้ชัดเจนแม้มองจากด้านข้าง และที่สำคัญคือความทนทานของหน้าจอที่เพิ่มขึ้น 3 เท่า พร้อมความต้านทานกระแสไฟฟ้า (Burn-in Resistance) ที่ดีขึ้น ยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานยิ่งขึ้น
เทคโนโลยี inReach และ SOS ที่เปลี่ยนนิยามความปลอดภัย
fēnix 8 Pro series นำเสนอสิ่งที่นักกีฬาและนักผจญภัยรอคอยมานาน คือการสื่อสารโดยไม่ต้องพึ่งพาโทรศัพท์มือถือ เทคโนโลยี inReach ช่วยให้สามารถเชื่อมต่อผ่านดาวเทียมและเซลลูลาร์ได้ทุกที่ทุกเวลา
ฟีเจอร์นี้เปิดโอกาสให้นักวิ่งเทรล นักปีนเขา หรือผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้งสามารถรับ-ส่งข้อความ แชร์ตำแหน่งที่อยู่ และติดต่อกับเพื่อนครอบครัวได้แม้อยู่ในพื้นที่ห่างไกลที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดคือฟังก์ชัน SOS ที่ได้รับการดูแลโดยศูนย์ประสานงานฉุกเฉิน 24 ชั่วโมงของ GARMIN (Garmin Response Center) ด้วยประสบการณ์การทำงานกว่า 20 ปี รองรับผู้ใช้งานกว่า 200 ภาษา และผ่านการช่วยเหลือในสถานการณ์ฉุกเฉินจากเทคโนโลยี inReach แล้วกว่า 17,000 ครั้ง ใน 150 ประเทศทั่วโลก
แบตเตอรี่อึดที่ตอบโจทย์นักผจญภัยตัวจริง
หนึ่งในข้อกังวลหลักของสมาร์ตวอทช์ที่มีฟีเจอร์เยอะคือเรื่องแบตเตอรี่ แต่การ์มินได้แก้ไขปัญหานี้อย่างชาญฉลาด fēnix 8 Pro series สามารถใช้งานได้ยาวนานสูงสุดถึง 27 วัน ในโหมดสมาร์ตวอทช์ ขณะที่ fēnix 8 – MicroLED แม้จะมีหน้าจอที่สว่างและคมชัดกว่า แต่ก็ยังคงให้อายุการใช้งานถึง 10 วัน
อายุแบตเตอรี่ที่ยาวนานเช่นนี้หมายความว่านักวิ่งระยะไกลสามารถใช้งานตลอดการแข่งขัน Ultra Marathon หรือนักเดินป่าสามารถพึ่งพานาฬิกาเป็นเครื่องมือนำทางและติดตามสุขภาพตลอดการเดินทางหลายวันได้อย่างมั่นใจ
ฟีเจอร์สุขภาพและกีฬาที่ครอบคลุมทุกความต้องการ
fēnix 8 series ไม่ได้เป็นแค่นาฬิกาที่มีหน้าจอสวยหรือเชื่อมต่อได้ดี แต่ยังเต็มไปด้วยฟีเจอร์ที่นักกีฬาและคนรักสุขภาพต้องการอย่างจริงจัง คะแนนความอึดหรือความอดทน (Endurance Score) ช่วยประเมินความพร้อมของร่างกายสำหรับการออกกำลังกายแต่ละวัน
คะแนนสมรรถภาพร่างกายในการวิ่งขึ้นเนิน (Hill Score) เป็นฟีเจอร์ที่นักวิ่งเทรลและนักปีนเขาจะต้องชื่นชอบ เพราะช่วยวัดความสามารถเฉพาะด้านที่สำคัญสำหรับกิจกรรมเหล่านี้
คำแนะนำการออกกำลังกายประจำวัน (Daily Suggested Workouts) ทำงานร่วมกับข้อมูลการออกกำลังกายในอดีต การพักผ่อน และระดับความเครียด เพื่อแนะนำแผนการออกกำลังกายที่เหมาะสมในแต่ละวัน
แอป ECG ช่วยตรวจสอบคลื่นไฟฟ้าหัวใจที่มีลักษณะใกล้เคียงกับการตรวจแบบ Lead I และสามารถตรวจจับภาวะหัวใจห้องบนเต้นผิดจังหวะ (Atrial Fibrillation) ได้ ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับนักกีฬาที่ต้องการติดตามสุขภาพหัวใจอย่างใกล้ชิด
การนำทางและแผนที่ที่ครอบคลุมทั่วโลก
แผนที่ TopoActive ที่โหลดไว้ล่วงหน้ารวบรวมข้อมูลแผนที่จากทวีปต่างๆ ทั่วโลก ทำให้สามารถใช้งานได้แม้ไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต คำแนะนำเส้นทางแบบไดนามิก (Dynamic Round-Trip Routing) ช่วยวางแผนเส้นทางไปและกลับตามเวลาที่กำหนด
สำหรับนักวิ่งที่ชื่นชอบการสำรวจเส้นทางใหม่ ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้วางแผนการวิ่งที่หลากหลายโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการหลงทาง
ความสะดวกในชีวิตประจำวันด้วย Garmin Pay
นอกจากฟีเจอร์สำหรับกีฬาและกิจกรรมกลางแจ้งแล้ว fēnix 8 series ยังตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันด้วย Garmin Pay™ ระบบชำระเงินแบบไร้สัมผัสผ่านบัตรเครดิตจากธนาคารที่รองรับ
สำหรับผู้ใช้งานชาวไทยยังมีบริการพิเศษ Garmin x Rabbit ที่ให้บริการชำระเงินผ่าน Rabbit Card ณ ผู้ให้บริการที่มีสัญลักษณ์ยินดีต้อนรับ Rabbit Card ทำให้การใช้งานในชีวิตประจำวันสะดวกสบายยิ่งขึ้น
การวางจำหน่ายในประเทศไทย
สำหรับตลาดไทย GARMIN เลือกวางจำหน่าย fēnix 8 – MicroLED ขนาด 51 มม. เป็นรุ่นเดียว โดยเริ่มให้ชาวไทยจับจองเป็นเจ้าของได้ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2568 ในราคา 66,990 บาท ที่ Garmin Brand Store และเว็ปไซต์ Garmin.com
แม้ว่า fēnix 8 Pro series ที่มาพร้อมเทคโนโลยี inReach จะยังไม่วางจำหน่ายในไทย แต่ คุณมิสซี่ ยาง ผู้จัดการประจำ การ์มิน ประเทศไทย ยืนยันว่า GARMIN จะยังคงมุ่งมั่นทำงานร่วมกับหน่วยงานที่กำกับดูแลในประเทศไทยอย่างใกล้ชิด เพื่อผลักดันให้เทคโนโลยี inReach และฟังก์ชัน SOS สามารถใช้งานได้ในอนาคตอันใกล้
GARMIN fēnix 8 series ไม่ใช่แค่การอัปเกรดรุ่นใหม่ธรรมดา แต่เป็นการปฏิวัติแนวคิดเรื่องสมาร์ตวอทช์ระดับพรีเมียม การนำเสนอหน้าจอ MicroLED เป็นครั้งแรกของโลกแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาเทคโนโลยี ขณะที่เทคโนโลยี inReach เปิดมิติใหม่ของความปลอดภัยและการเชื่อมต่อ
สำหรับนักกีฬาที่จริงจัง นักผจญภัยที่แท้จริง หรือผู้ที่ต้องการสมาร์ตวอทช์ที่ครบครันที่สุด fēnix 8 series คือคำตอบที่น่าสนใจ แม้ราคาจะอยู่ในระดับสูง แต่เมื่อพิจารณาจากนวัตกรรมและฟีเจอร์ที่ได้รับ ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการอุปกรณ์ระดับโปรเฟสชันแนล
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
