แคนนอน ประกาศเปิดตัว 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่ในกลุ่ม Cinema Line พร้อมกัน เพื่อตอบโจทย์สายครีเอเตอร์และช่างวิดีโอมืออาชีพที่ต้องการคุณภาพสูงและความคล่องตัว
ผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้ง 3 รุ่น ประกอบด้วย กล้องไฮบริดฟูลเฟรม Canon EOS C50 เลนส์ CN5x11 IAS T R1/P1 ในตระกูล Cine-Servo และเลนส์ Canon RF 85mm f/1.4L VCM ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับงานโปรดักชันที่ต้องการคุณภาพสูง ความยืดหยุ่น และการเชื่อมต่อที่ทันสมัย
Canon EOS C50 กล้องไฮบริดที่เล็กที่สุดแต่ทรงพลังที่สุด
EOS C50 คือการผสานอย่างลงตัวระหว่างคุณภาพระดับ Cinema EOS กับความคล่องตัวในการทำงานขั้นสูงสุด มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ฟูลเฟรม 7K CMOS รุ่นใหม่และหน่วยประมวลผล DIGIC DV 7 Processor ที่สามารถบันทึกวิดีโอไฟล์ RAW สูงสุดที่ระดับ 7K 60P
สิ่งที่น่าสนใจคือ EOS C50 สามารถถ่ายสโลว์ที่ 4K 120P หรือ 2K 180P ได้ รวมถึงรองรับการถ่ายภาพนิ่งความละเอียดสูงถึง 32 ล้านพิกเซล ทำให้เป็นกล้องไฮบริดที่แท้จริง
ระบบ Open Gate Recording ครั้งแรกใน Cinema EOS
ฟีเจอร์เด่นที่น่าสนใจที่สุดคือ ระบบ Open Gate Recording ที่เป็นครั้งแรกใน Cinema EOS ซึ่งใช้พื้นที่เต็มเซ็นเซอร์อัตราส่วน 3:2 ทำให้ได้ไฟล์ขนาดใหญ่ที่ยืดหยุ่น เหมาะกับงานตัดต่อ
สิ่งที่น่าตื่นเต้นคือสามารถนำไปผลิตคอนเทนต์ทั้งแนวตั้งและแนวนอนได้จากการถ่ายครั้งเดียว ซึ่งตอบโจทย์ยุคโซเชียลมีเดียที่ต้องการคอนเทนต์หลากหลายรูปแบบ ทั้งยังรองรับเลนส์ Anamorphic เพื่อให้ได้ภาพสไตล์ Cinema ที่กว้างและมีมิติสมจริง
ดีไซน์แนวโมดูลาร์ที่คล่องตัว
Canon EOS C50 มีขนาดกะทัดรัดที่สุดในกลุ่ม Cinema EOS พร้อมจุดยึดเสริมอุปกรณ์ รองรับการใช้งานทั้งกับกิมบอลหรือถือถ่ายด้วยมือเปล่า เหมาะอย่างยิ่งสำหรับกองถ่ายที่ต้องการความคล่องตัวสูง
การเชื่อมต่อระบบดิจิทัลแบบครบครัน
EOS C50 มาพร้อมความสามารถในการ Livestream คุณภาพสูง ผ่าน USB-C เพียงสายเดียว รองรับสัญญาณภาพ UVC/UAC ที่ระดับ 60P ซึ่งตอบโจทย์การทำงานยุค Plug & Play
สำหรับการควบคุมระยะไกล รองรับการเชื่อมต่อผ่าน Canon XC Protocol และรองรับอุปกรณ์เสริม เช่น RC-IP1000 ส่วนพอร์ตการเชื่อมต่อก็ครบครันด้วย XLR, Timecode, HDMI Type-A และช่องใส่การ์ด CFexpress + SD Card
Canon RF 85mm f/1.4L VCM เลนส์ไฮบริดสำหรับถ่ายบุคคล
RF 85mm f/1.4L VCM เป็นเลนส์ไฮบริดมีเดียม เทเลโฟโต้ ตัวที่ 5 ในซีรีส์ VCM f/1.4 Hybrid Prime ที่รวมจุดแข็งของเลนส์ถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอเข้าด้วยกัน
ด้วยทางยาวโฟกัส 85 มม. ที่เป็นระยะคลาสสิกสำหรับถ่ายบุคคล และรูรับแสงกว้างถึง f/1.4 ทำให้สามารถสร้างโบเก้ที่สวยละมุน ดูเป็นธรรมชาติ
VCM Autofocus รุ่นใหม่
เลนส์รุ่นนี้มาพร้อม VCM Autofocus รุ่นใหม่ ที่สามารถล็อกโฟกัสอัตโนมัติได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำสูง รองรับการถ่ายทั้งภาพนิ่งและวิดีโออย่างลื่นไหลทุกการเคลื่อนไหวของตัวแบบ
อีกจุดเด่นคือน้ำหนักที่เบากว่าเดิม 30% เมื่อเปรียบเทียบกับเลนส์ EF85mm f/1.4L IS USM โดย RF 85mm f/1.4L VCM มีน้ำหนักเพียง 636 กรัม เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความคล่องตัว
Canon CN5x11 IAS T R1/P1 เลนส์มุมกว้างสุดในตระกูล Cine-Servo
สำหรับช่างภาพที่ต้องการเก็บบรรยากาศในซีนได้อย่างครบถ้วน เลนส์ CN5x11 IAS T R1/P1 มอบทางยาวโฟกัสที่ระยะ 11-55 มม. มีมุมรับภาพกว้างถึง 100 องศา ซึ่งกว้างที่สุดในเลนส์ตระกูล Cine-Servo ของแคนนอน
Super Wide และ Super Versatile
เลนส์ Super 35 มม. รุ่นนี้รองรับการติดตั้งกับกล้องฟูลเฟรมด้วย และมาพร้อมกับ 1.5x Extender ในตัว จึงใช้งานได้ทั้งงานถ่ายทอดสดและภาพยนตร์แบบไร้รอยต่อ
แม้จะมีความสามารถสูง แต่น้ำหนักเพียง 3 กิโลกรัม พร้อม Servo Unit แบบถอดได้ สำหรับสลับใช้งานระหว่างถ่ายทอดสดและงานภาพยนตร์
คุณภาพระดับ 8K HDR
เลนส์รุ่นนี้รองรับคุณภาพระดับ 8K HDR พร้อมกลไกไดอะแฟรมแบบ 11-blade iris ที่สร้างโบเก้พื้นหลังที่สวยงามสมจริง
มาพร้อม ไดรฟ์ยูนิตแบบดิจิทัล e-Xs V แบบถอดออกได้รุ่นล่าสุด ใช้เอ็นโค้ดเดอร์ความละเอียดสูง 16-บิต ระบบเซอร์โวคอนโทรลขั้นสูง ช่วยแก้ไขอาการ Focus breathing และดีไซน์ตามหลักสรีรศาสตร์ที่ดีขึ้น
ความมุ่งมั่นในการสนับสนุนครีเอเตอร์
นางสาวเนตรนรินทร์ จันทร์จรัสสุข ผู้อำนวยการอาวุโส กลุ่มผลิตภัณฑ์คอนซูมเมอร์อิมเมจจิ้งอินฟอร์เมชั่น บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวว่า
“การเปิดตัวครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของแคนนอนในการสนับสนุนการทำงานของผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์ให้สามารถแข่งขันได้อย่างมั่นใจในยุคดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นความสามารถของกล้องซินีม่าไฮบริด EOS C50 ที่มาพร้อมการถ่ายทำความละเอียดระดับ 7K พร้อมการสตรีมมิ่งความละเอียดสูงแบบ Plug & Play”
การเปิดตัว Canon EOS C50 เลนส์ RF 85mm f/1.4L VCM และเลนส์ CN5x11 IAS T R1/P1 คือก้าวสำคัญที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของแคนนอนในการตอบโจทย์ผู้ใช้ทุกระดับ ตั้งแต่มืออาชีพสายภาพยนตร์ ไปจนถึงกองถ่ายงานที่เน้นความคล่องตัว
ผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้ง 3 รุ่นนี้ไม่เพียงช่วยยกระดับคุณภาพของงานวิดีโอและภาพถ่าย แต่ยังเสริมสร้างวัฒนธรรมการสร้างคอนเทนต์คุณภาพสูง ให้บรรดาครีเอเตอร์สามารถก้าวทันโลกดิจิทัลที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
