Apple เปิดตัว Apple Watch Series 11 อย่างเป็นทางการ พร้อมฟีเจอร์สุขภาพใหม่ที่สามารถแจ้งเตือนสัญญาณความดันโลหิตสูงได้ รวมถึงระบบประเมินคุณภาพการนอน Sleep Score และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานถึง 24 ชั่วโมง มาพร้อมกับฟีเจอร์สุขภาพที่ล้ำสมัยที่สุดเท่าที่เคยมีมา โดยเฉพาะระบบแจ้งเตือนความดันโลหิตสูงซึ่งถือเป็นการพัฒนาสำคัญในวงการ wearable technology
ฟีเจอร์สุขภาพปฏิวัติใหม่ – ตรวจจับความดันโลหิตสูงได้อัตโนมัติ
Apple Watch Series 11 เป็นสมาร์ทวอทช์รุ่นแรกของโลกที่สามารถแจ้งเตือนสัญญาณความดันโลหิตสูงเรื้อรัง (Hypertension) ได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักที่ป้องกันได้ของโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคไต
ระบบนี้ทำงานโดยใช้ optical heart sensor วิเคราะห์การตอบสนองของหลอดเลือดต่อการเต้นของหัวใจ อัลกอริทึมจะทำงานแบบเบื้องหลังโดยตรวจสอบข้อมูลย้อนหลัง 30 วัน และแจ้งเตือนผู้ใช้หากตรวจพบสัญญาณของความดันโลหิตสูงอย่างต่อเนื่อง
ที่น่าสนใจคือฟีเจอร์นี้ได้รับการพัฒนาด้วย machine learning ขั้นสูง และผ่านการทดสอบกับผู้เข้าร่วมงานวิจัยกว่า 100,000 คน รวมถึงการตรวจสอบประสิทธิภาพในการศึกษาทางคลินิกกับผู้เข้าร่วมกว่า 2,000 คน
Apple คาดการณ์ว่าฟีเจอร์นี้จะสามารถแจ้งเตือนผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่ยังไม่ได้รับการวินิจฉัยมากกว่า 1 ล้านคนภายในปีแรก ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน
Sleep Score – ระบบประเมินคุณภาพการนอนแบบครอบคลุม
ฟีเจอร์สุขภาพใหม่อีกตัวที่น่าสนใจคือ Sleep Score ซึ่งจะช่วยผู้ใช้เข้าใจคุณภาพการนอนของตนเองอย่างลึกซึ้งมากขึ้น โดยวิเคราะห์จากปัจจัยหลายด้าน เช่น ระยะเวลาการนอน ความสม่ำเสมอของเวลาเข้านอน ความถี่ในการตื่น และเวลาที่ใช้ในแต่ละช่วงของการนอน
ระบบจะให้คะแนนรวมและจำแนกประเภทของคุณภาพการนอนใน Sleep app บน Apple Watch พร้อมทั้งแสดงรายละเอียดของส่วนประกอบที่สำคัญที่สุด เพื่อให้ผู้ใช้ทราบว่าควรปรับปรุงด้านใดเป็นอันดับแรก
การพัฒนาระบบนี้อิงตามแนวทางล่าสุดที่เผยแพร่โดย American Academy of Sleep Medicine, National Sleep Foundation และ World Sleep Society โดยใช้ข้อมูลการนอนกว่า 5 ล้านคืนจาก Apple Heart and Movement Study ในการพัฒนาและทดสอบอัลกอริทึม
แบตเตอรี่ทนนาน 24 ชั่วโมง พร้อมหน้าจอแกร่งกว่าเดิม
Apple Watch Series 11 ได้รับการปรับปรุงด้านประสิทธิภาพแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้นานถึง 24 ชั่วโมง แม้จะมีดีไซน์ที่บางและสวมใส่สบายกว่าเดิม ทำให้ผู้ใช้สามารถใส่นาฬิกาตลอดวันและคืนได้อย่างสะดวก
ระบบชาร์จเร็วยังคงรักษาประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม โดยการชาร์จเพียง 15 นาทีสามารถใช้งานได้ถึง 8 ชั่วโมง ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการติดตามสุขภาพตลอด 24 ชั่วโมง
ด้านความทนทาน หน้าจอของรุ่น aluminum ใช้ Ion-X glass ใหม่ที่ทนต่อรอยขีดข่วนได้มากกว่าเดิม 2 เท่า ด้วยเทคโนโลยี ceramic coating ที่ผสานเข้ากับแก้วในระดับอะตอมผ่านกระบวนการ physical vapor deposition ส่วนรุ่น titanium ยังคงใช้ sapphire front crystal ที่เป็นวัสดุทนทานที่สุด
เทคโนโลจี 5G และการเชื่อมต่อที่เหนือกว่า
Apple Watch Series 11 รองรับเทคโนโลยี 5G cellular ที่ให้ประสิทธิภาพที่เร็วขึ้นและ throughput ที่มากขึ้น ทำให้การดาวน์โหลดเพลง พอดแคสต์ และแอปพลิเคชันเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
สำหรับพื้นที่ที่มีสัญญาณอ่อน Apple ได้ออกแบบเสาอากาศ cellular ใหม่ที่ครอบคลุม frequency band มากขึ้น และสามารถใช้เสาอากาศทั้ง 2 ตัวของระบบพร้อมกันเมื่อจำเป็น เพื่อเพิ่มความแรงของสัญญาณอย่างมีนัยสำคัญ
Workout Buddy ขับเคลื่อนด้วย Apple Intelligence
ฟีเจอร์ Workout Buddy เป็นประสบการณ์ฟิตเนสแบบใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย Apple Intelligence ซึ่งจะวิเคราะห์ข้อมูลการออกกำลังกายและประวัติฟิตเนสของผู้ใช้ เพื่อให้คำแนะนำแบบส่วนตัวผ่านเสียงพูดตลอดช่วงการออกกำลังกาย
ระบบจะวิเคราะห์จากข้อมูล เช่น heart rate, pace, distance, Activity rings, personal fitness milestones และอื่นๆ เพื่อให้กำลังใจและคำแนะนำที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
Workout Buddy จะใช้งานได้เริ่มแรกในภาษาอังกฤษกับกิจกรรมออกกำลังกายยอดนิยมหลายประเภท และต้องใช้งานกับหูฟัง Bluetooth ร่วมกับ iPhone ที่รองรับ Apple Intelligence
watchOS 26 และฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจ
Apple Watch Series 11 มาพร้อมกับ watchOS 26 ที่มีการออกแบบซอฟต์แวร์ใหม่ด้วย Liquid Glass ที่สร้างประสบการณ์ที่สดใสและแสดงออกได้มากขึ้นใน Photos watch face, Smart Stack widgets, notifications และการควบคุมต่างๆ
Watch face ใหม่ 2 แบบที่น่าสนใจ ได้แก่ Flow ที่ใช้ Liquid Glass numerals แสดงการหักเหของสีที่สวยงามและตอบสนองต่อการเคลื่อนไหวของข้อมือ และ Exactograph ที่เป็นการตีความใหม่ของนาฬิกา regulator แบบดั้งเดิม ที่แยกการแสดงชั่วโมง นาที และวินาทีอย่างชัดเจน
ฟีเจอร์ wrist flick gesture ใหม่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปิด notification หยุด timer หรือปิด alarm ได้ด้วยมือเดียว ร่วมกับ double tap gesture ที่มีอยู่แล้ว ทำให้ควบคุม Apple Watch ได้มากขึ้นเมื่อมืออีกข้างไม่ว่าง
Smart Stack hints เป็นคำแนะนำเชิงรุกที่ให้ข้อเสนอแนะที่มีประโยชน์ทันทีตามข้อมูลบริบท ข้อมูลเซ็นเซอร์ และข้อมูลจากกิจวัตรของผู้ใช้
ราคาและความพร้อมจำหน่าย
สำหรับประเทศไทย เปิดตัว Apple Watch Series 11 จะประกาศวันวางจำหน่ายเร็ว ๆนี้ โดยราคารุ่นอะลูมิเนียมเริ่มต้นที่ 14,900 บาท ส่วนรุ่นไทเทเนียมเริ่มต้นที่ 25,900 บาท
Apple Watch Series 11 มีให้เลือก 2 ขนาด คือ 42mm และ 46mm ในรุ่นอะลูมิเนียมมีสี space gray ใหม่, jet black, rose gold และ silver ส่วนรุ่นไทเทเนียมมีสี natural, gold และ slate
สายนาฬิกาในฤดูใบไม้ร่วงนี้มาพร้อมชุดสีใหม่ที่สวยงาม รวมถึง forest, neon yellow, anchor blue, purple fog และอื่นๆ อีกมากมาย รวมถึงคอลเลกชัน Nike และ Hermès ที่มีสีและดีไซน์ใหม่
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
