Apple เปิดตัว Apple Watch SE 3 รุ่นใหม่ล่าสุดอย่างเป็นทางการแล้ว พร้อมฟีเจอร์สุขภาพขั้นสูง หน้าจอ Always-On Display และระบบชาร์จเร็วเป็นครั้งแรกในซีรีส์ SE ด้วย ราคา เริ่มต้นที่ 8,500 บาท
เป็นการอัปเดตสเปคให้กับ Apple Watch รุ่นเริ่มต้นที่เน้นเหมาะสำหรับเด็กหรือผู้ที่ไม่ได้ต้องการใช้ฟีเจอร์ขั้นสูงทั้งหมด แต่ยังคงให้ครบทุกอย่างและมีฟีเจอร์ใหม่ให้ใช้งาน
ฟีเจอร์สุขภาพขั้นสูงใหม่
Apple Watch SE 3 นำเสนอฟีเจอร์สุขภาพที่ก้าวหน้ากว่ารุ่นก่อนอย่างมาก โดยเพิ่ม Sleep Score ที่ช่วยวิเคราะห์คุณภาพการนอนหลับ Sleep Apnea Notifications ที่แจ้งเตือนอาการหยุดหายใจขณะหลับ และ Retrospective Ovulation Estimates สำหรับการวางแผนครอบครัว
ระบบ Wrist Temperature Sensing ใหม่จะใช้เซ็นเซอร์อุณหภูมิ 2 ตัวร่วมกับอัลกอริทึมขั้นสูงเพื่อชดเชยอุณหภูมิสิ่งแวดล้อม ทำให้ได้ข้อมูลสุขภาพที่แม่นยำยิ่งขึ้นในแอป Vitals
การพัฒนาฟีเจอร์ Sleep Score ใช้ข้อมูลจากการศึกษา Apple Heart and Movement Study กว่า 5 ล้านคืน และอ้างอิงจากแนวทางของ American Academy of Sleep Medicine, National Sleep Foundation และ World Sleep Society
หน้าจอ Always-On Display และการชาร์จเร็ว
การเพิ่มหน้าจอ Always-On Display เป็นการอัปเกรดสำคัญที่ทำให้ผู้ใช้สามารถดูเวลาและการแจ้งเตือนได้โดยไม่ต้องยกข้อมือหรือแตะหน้าจอ ขับเคลื่อนด้วยชิป S10 ที่มีประสิทธิภาพสูง
ระบบชาร์จเร็วใหม่ทำให้ชาร์จเร็วขึ้น 2 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน โดยชาร์จเพียง 15 นาทีก็สามารถใช้งานได้เพิ่มอีก 8 ชั่วโมง และชาร์จถึง 80% ใน 45 นาที
แม้จะมีหน้าจอ Always-On แบตเตอรี่ยังคงใช้งานได้ทั้งวัน 18 ชั่วโมง และกระจกหน้าจอ Ion-X Glass แบบใหม่แข็งแรงกว่าเดิม 4 เท่า ทนต่อการแตกหักได้ดีที่สุดในอุตสาหกรรมสมาร์ทวอทช์
ชิป S10 และฟีเจอร์อัจฉริยะ
ชิป S10 ไม่เพียงแต่ขับเคลื่อนหน้าจอ Always-On เท่านั้น แต่ยังเพิ่มความสามารถของ Siri แบบ On-device ที่เร็วและเชื่อถือได้มากขึ้น สามารถเข้าถึงข้อมูลสุขภาพจากแอป Health และตอบสนองคำสั่งที่ไม่ต้องการอินเทอร์เน็ตได้ทันที
Double Tap Gesture และ Wrist Flick Gesture ใหม่ช่วยให้ควบคุม Apple Watch ได้ด้วยมือเดียว โดยแค่เคาะนิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้ 2 ครั้ง หรือพลิกข้อมือเพื่อปิดการแจ้งเตือน
ระบบ Voice Isolation ช่วยลดเสียงรบกวนขณะโทรผ่าน Apple Watch ทำให้เสียงชัดเจนแม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง
การเชื่อมต่อ 5G และความบันเทิง
Apple Watch SE 3 รองรับการเชื่อมต่อ 5G เป็นครั้งแรก ให้ความเร็วในการดาวน์โหลดเพลง พอดแคสต์ และแอปพลิเคชันที่เร็วขึ้น พร้อมประหยัดแบตเตอรี่มากกว่าเทคโนโลยี 4G
สามารถเล่นสื่อบันเทิงผ่านลำโพงในตัวได้โดยตรง และรองรับ Apple Music ที่จะเลือกเพลงที่เหมาะสมกับการออกกำลังกายตามรสนิยมส่วนบุคคล
ผู้ใช้ที่มี Apple Music subscription จะได้รับประสบการณ์ที่ปรับแต่งอัตโนมัติตามประเภทการออกกำลังกายและเพลงที่ฟังบ่อย
Workout Buddy ด้วย Apple Intelligence
ฟีเจอร์ Workout Buddy ใหม่ขับเคลื่อนด้วย Apple Intelligence จะวิเคราะห์ข้อมูลการออกกำลังกายและประวัติฟิตเนสส่วนบุคคล เพื่อให้กำลังใจผ่านเสียงพูดตลอดเซสชันการออกกำลังกาย
ระบบจะใช้ข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจ ความเร็ว ระยะทาง Activity Rings และเป้าหมายส่วนตัวในการสร้างคำพูดให้กำลังใจที่เฉพาะเจาะจง
Workout Buddy จะใช้งานได้ในภาษาอังกฤษกับหูฟัง Bluetooth และต้องมี iPhone ที่รองรับ Apple Intelligence อยู่ใกล้เคียง
watchOS 26 และการออกแบบใหม่
Apple Watch SE 3 มาพร้อม watchOS 26 ที่นำเสนอการออกแบบ Liquid Glass ใหม่ หน้าปัด Flow ที่มีตัวเลขที่หักเหแสงสีสันตามการเคลื่อนไหวของข้อมือ และหน้าปัด Exactograph ที่แยกการแสดงชั่วโมง นาที วินาทีอย่างชัดเจน
แอป Notes ใหม่ช่วยให้สร้างและเข้าถึงบันทึกได้โดยตรงจากข้อมือ ระบบ Live Translation ใน Messages ด้วย Apple Intelligence จะแปลข้อความขาเข้าเป็นภาษาที่ต้องการโดยอัตโนมัติ
Smart Stack Hints จะให้คำแนะนำเชิงรุกตามข้อมูลบริบท ข้อมูลเซ็นเซอร์ และกิจวัตรประจำวันของผู้ใช้
Apple Watch For Your Kids
Apple Watch SE 3 รองรับ Apple Watch For Your Kids ที่ช่วยให้เด็กที่ไม่มี iPhone สามารถใช้งานได้ โดยผู้ปกครองสามารถติดตามตำแหน่งผ่าน Find My และเด็กสามารถใช้ Emergency SOS ได้
เด็กจะมี Apple Account และหมายเลขโทรศัพท์ของตัวเอง สามารถโทรหาครอบครัวและเพื่อน ตั้งเป้าหมาย Activity และดาวน์โหลดแอปจาก App Store ได้
กระจกที่แข็งแรงที่สุดในอุตสาหกรรม การเล่นสื่อผ่านลำโพง การเชื่อมต่อ 5G และการชาร์จเร็ว ทำให้ Apple Watch SE 3 เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับเด็ก
ราคา Apple Watch SE 3 และตัวเลือกรุ่น
Apple Watch SE 3 มีให้เลือก 2 ขนาดคือ 40mm และ 44mm ในสีตัวเครื่องอลูมิเนียม Midnight และ Starlight โดยราคาเริ่มต้นที่ 8,500 บาท ในรุ่นขนาด 40mm และ 9,500 บาท ในรุ่นขนาด 44 มม. สำหรับประเทศไทยจะมีการประกาศวันวางจำหน่ายอีกครั้งเร็วๆ นี้
ติดตามข่าวสาร อัปเดตเทคโนโลยี รีวิวของใหม่ก่อนใคร ได้ทาง www.techoffside.com และ ช่องทางโซเชียล Facebook, Instagram, YouTube และ TikTok
